26 เมษายน 2547 20:29 น.
รัถยา
เอ่ยถ้อยถามถึงฟ้าผ่านท้องฟ้า
ครวญรำลึกคราวครา..เคียงสมัย
คู่มนเกยเกี่ยวก้อยร้อยมาลัย
ทอสายใย ยวงรายเป็นสายรุ้ง
แหวกม่านครึ้มเมฆาหาดอกสร้อย
เห็นเจ้าลอยจรัสหล้า....นภารุ่ง
พระพายพัดเบิกระพี ธุลีฟุ้ง
ยังคงมุ่งมองมน..จนจันทร์ลับ
นัยน์แห่งดาววาววอนชอนทั่วพื้น
ค้นเม็ดทรายรายดื่นเพื่อสดับ
ไอกมลอวลปรายรายระยับ
กอบประกับประกบก้อนคืนคอนใจ
บรรจงก่อแต่ละเกร็ด เม็ดประดิษฐ์
ส่องวิจิตรปราสาท..สะอาดใส
ตั้งตระหง่านผงาดงามท่ามหทัย
มีสายใยรุ้งรอบเป็นขอบรัก
แม้นวันนี้..วันหน้าคงฟ้าสวย
จรัสสลวยเรืองผองสองสลัก
ราวตำนานนิรันดร์ร้อยที่ถ้อยทัก
นภาภักด์ยังบรรเจิดเฉิดสีฟ้า
25 เมษายน 2547 15:02 น.
รัถยา
วสันตดิลกฉันท์ ๑๔
แสงแรกอรุณรุจิระเรื่อ จรเจือขจ่างพรม
ซอนเร้าสรีระอภิรมย์ และลุล่วง ณ ห้วงใจ
พื้นทรายผสานรถยรอย ดุจะคอยประทับไร
สายลมประโลมหทยไล้ กลปราณผสานเธอ
ตรึงตราคณาอุระสนอง ก็คะนองละอองเจอ
มวลม่านละมุนกมลเผลอ อณุซ่อนซิอ่อนโยน
พรายพลิ้วระลิวดุริยะคลื่น และคละครืนพะพราวโพลน
ดลใจประเจิดกลกระโจน และก็จองประคองจาร
เงาเผยก็พร่า นยนพบ ดุจะหลบละเลือนลาน
กลับชัดและชอนลุวิญญาณ ตละรอยมิรานเลือน
.....เส้นทางที่ย่างก้าวมาไกลแสนไกล
ด้วยสายลมแห่งเธอ
ได้ผสานเป็นส่วนหนึ่งของลมหายใจฉันไปแล้วนะ.....
25 เมษายน 2547 01:46 น.
รัถยา
..คงบุพเพเเต่เบื้อง ปางบรรพ์
บุญส่งสานมานขวัญ คู่สร้าง
เพียงเพิ่มเสริมเกรียวพันธ์ ผันผ่าน
จึงพรากอรจรร้าง เล่ห์เคล้าเงากรรม
18 เมษายน 2547 22:06 น.
รัถยา
ภุชงคประยาตฉันท์๑๒
..ระลิวคลื่นระริ้วพราย...........ระยับรายระเรียงลอน
พระพายพัดสะบัดคลอน........ประพุ่มพฤกษพลิ้วพาน
..ประโลมลูบสรีร์ริก...............ตะโบมจิกผจญทาน
ก็พอทนมิลนลาน..................มิอาจทนวะวนใจ
..จะแก้เงื่อนก็งอกยาว..........จะสางสาวก็เสริมใย
จะตัดรอนก็รุมไช.................ประชิดแทงหทัยทำ
..ก็ปล่อยจดประกบจิต..........ประดับดิฐพินิจนำ
จะร้อนรุ่มจะรุมกรำ..............ก็ให้ไล้ฤทัยรอง
..ลุเวลาจะเรื้อร้าง.................ก็คงพรางมิเพิ่มพอง
ละรอยคราบคะนึงครอง........กระไอร้อนจะย้อนเย็น
..ละรอกคลื่นมิขืนลม............ระทิวขรมมิลำเค็ญ
กมลหวั่นฉะนั้นเป็น.............ละอองรักมิอาจลืม
17 เมษายน 2547 21:12 น.
รัถยา
๏เรียมยังเคียงอยู่ข้าง......เคียงมอง มิ่งเอย
ทิวคลื่นโถมทำนอง............เนื่องร้อย
แม้นหนหม่นคลอครอง.....เคลียคู่
คงพจน์ประไพพร้อย..........เพื่อน้องหมองหาย
๏ลมเหนือกรายแล่เนื้อ....เหน็บหนาว
แพรทิพทั้งผืนหาว.............ห่มห้อม
แทนอกพี่เพียงคราว...........คืนผ่าน ผันนา
รอรุ่งระพีน้อม....................อุ่นโน้มประโลมสมร
๏แก้วตาจงมั่นก้าว............คงกลาง
รัตติกาลกุมพราง................พลาดพลั้ง
แสงเทียนส่องมองทาง........ทิศเที่ยง
สรวงส่งโสมรมย์ยั้ง.............ยื่นให้หทัยสรวล
๏ท่ามพระพายระรื่นพลิ้ว.....เพลินกาย
สร้อยสุขสานมานหมาย........มุ่งสร้าง
ตรองจิตต่อมวลผาย.............พิศผ่อง
นิรันดร์แห่งธรรม์สานอ้าง.......ส่งน้องครองสวรรค์
พี่ยังคงไม่ห่างหายไปจากเจ้า....ในช่วงชีวิตที่เวียนว่าย มีทั้งสุขและทุกข์เข้ามามากมาย(ทิวคลื่น)........แม้หนทางข้างหน้ามิอาจได้เดินเคียงข้าง....ยังคงมีคำปลอบประโลมเจ้าเสมอ
เมื่อไรที่มีทุกข์มาประจัญ.(.ลมหนาว)........ขอความดีแห่งเจ้าจงปกป้อง(เเพรทิพ)......เพียงทางมืดมนผ่านพ้น....แสงทองที่อยู่เบื้องหน้าจะส่องทางให้เจ้าเดิน
ขอจงก้าวไปอย่างมั่นคง......ฝ่าความเลวร้ายที่อาจบดบังเบื้องหน้า(รัตติกาล)......ความดีที่ประกายจ้าจากใจอันพิสุทธิ์จะช่วยส่องทางเดินนั้น(แสงเทียน).......เทพยดาจะเสริมให้มีความสุขตลอดเสมอ(สรวงส่งโสม)....
ท่ามกลางความสุขทั้งมวลที่สั่งสม.........จงรักษาและเสริมสร้างความดีต่อไปนะ.........สิ่งทั้งหลายทั้งปวงจงตรองให้ถ่องแท้......ด้วยความดีที่ปรากฏจงพาเจ้าพบแต่ความสงบสุขอันนิรันดร