12 สิงหาคม 2546 08:30 น.
รักเธอตลอดเวลา
คุณค่า" ไม่ใช่สิ่งที่เราเดินเข้าไปเจอเข้าแบบเล่นเกมล่าสมบัติ
"คุณค่า" คือ สิ่งที่คุณสร้างขึ้นในชีวิตคุณเอง คุณสร้างมันขึ้นจาก
พื้นฐานที่มาของคุณ จากความรักภักดีและผูกพันของคุณ จากประสบการณ์
จากสติปัญญา ความสามารถ และความเข้าใจ จากสิ่งที่คุณเชื่อ
จากผู้คนและวัตถุสิ่งของที่คุณรัก องค์ประกอบเหล่านี้มีอยู่พร้อมแล้ว
แต่...คุณเพียงผู้เดียวเท่านั้นที่จะสามารถนำมาผสมผสาน เป็นรูปรอย
เป็นแบบแผนของสิ่งที่จะกลายเป็นชีวิตของคุณ จงทำให้มันเป็นชีวิตที่มีศักดิ์ศรี
มีคุณค่าสำหรับตัวคุณเอง ถ้าคุณทำได้ จุดพลิกผันระหว่างความสำเร็จกับความล้มเหลว
ก็ไม่ใช่เรื่องหมิ่นเหม่อีกต่อไป แล้วคุณจะต้องทำอะไรบ้าง
น่าแปลก ! ที่มีคนส่วนหนึ่ง "สุกคาต้น" ในขณะที่คนอีกส่วนหนึ่ง
ยังคงมีชีวิตชีวาต่อไป จนถึงวาระสุดท้าย
"สุกคาต้น" คือ การหยุดเรียนรู้ และหยุดเติบโตกลางคัน
ในระหว่างที่ยังมีชีวิตอยู่ คงเพราะสะพายเป้ออกเดินทางมานาน
จนลืมไปว่า...ออกเดินทางไปทำไม ?
นาฬิกาของคนบางคนหมดลานก่อนหมดเวลาเสียด้วยซ้ำไป
ถ้าคุณเลือกทางเดินที่หอมหวาน ก็ไม่มีวันที่คุณจะไปถึงเป้าหมายที่หอมหวาน
แต่ถ้าคุณเลือกจะไปถึงเป้าหมายที่หอมหวาน
เส้นทางเริ่มต้นของคุณอาจจะไม่หอมหวาน
คุณต้องพิสูจน์คุณค่าของตัวคุณเองให้โลกเห็นว่าคุณคู่ควรกับเป้าหมาย
ชีวิตคุณ คุณเลือกได้
12 สิงหาคม 2546 08:21 น.
รักเธอตลอดเวลา
เคยมีใครถามคุณไหมว่า ความรักคืออะไร?
ผมคิดว่าวันนี้ผมมีคำตอบให้คุณแล้วล่ะ คำที่ใช้แทนคำว่า ความรัก ได้ดีที่สุด น่าจะเป็นคำว่า ใส่ใจ
หากคุณคิดที่จะบอกรัก หรือรู้สึกว่าตัวเองเริ่มที่จะรักใครซักคน..
ลองถามตัวเองดูว่า คุณใส่ใจเค้ามากน้อยแค่ไหน?
ความใส่ใจ ไม่ใช่ ความเอาใจ .
หากคนรักของคุณจำได้ขึ้นใจว่า คุณเคยพูดว่าอยากได้อะไร แล้วเค้าหาซื้อของชิ้นนั้นให้
ไม่ใช่สักแต่ว่าซื้อซื้อซื้อของเยอะแยะมากมาย เพื่อเอาใจ...
นั่นแหละถึงเรียกว่า ความใส่ใจ ความใส่ใจ ไม่ใช่ ความหึงหวง หากคนรักของคุณโทรหาคุณทุกคืน
ถามว่ากลับถึงบ้านหรือยัง เพียงเพราะเค้าเป็นห่วง.. ..
ไม่ต้องการให้คุณได้รับอันตรายในยามดึก ไม่ใช่กลัวว่าคุณจะไปกับคนอื่น... นั่นแหละเรียกว่าความใส่ใจ
ความใส่ใจ ไม่ใช่ ความมีน้ำใจอย่างเดียว หากแต่มีความถนอมน้ำใจด้วย
หากคนรักของคุณทำอะไรเพื่อคุณซักอย่างด้วยความตั้งใจ แต่คุณกลับไม่ชอบมัน
คิดไตร่ตรองให้ดีก่อนที่จะพูดอะไรออกไป ใส่ใจในความรู้สึกของเค้าด้วย
หากคุณทะเลาะกับคนรัก แต่แล้ววันรุ่งขึ้น คนรักของคุณยังโทรมา
แสดงความเป็นห่วงในเรื่องต่างๆ เหมือนทุกๆวัน ทั้งๆที่ยังไม่หายโกรธ... นั่นแหละเรียกว่าความใส่ใจ
หากคนรักของคุณยอมสละเวลาทำบางสิ่ง เอาไว้ทีหลัง เพียงเพื่อช่วยทำในสิ่งที่คุณขอ...
นั่นแหละเรียกว่า ความใส่ใจ คนเราบางครั้งก็ต้องการมีใครซักคนคอยใส่ใจเราบ้าง
หากคุณต้องเดินทางไกล มันจะรู้สึกดีเอามากๆถ้าคนรักของคุณโทรมาถามว่า ถึงหรือยัง ปลอดภัยดีไหม เหนื่อยไหม
หากคุณต้องปฏิบัติภาระกิจสำคัญ ไม่ว่าจะเรื่องงาน หรือเรื่องเรียน มันจะรู้สึกดีเอามากๆ ถ้าคนรักของคุณจำได้ และโทรมาบอกว่า . โชคดีนะ ชั้นจะคอยเป็นกำลังใจให้ .. ..
หากคุณต้องขับรถคนเดียว มันจะรู้สึกดีเอามากๆ ถ้าคนรักของคุณโทรมาบอกว่า ขับรถดีๆนะ หากคุณป่วยเป็นไข้ ไม่สบาย มันจะรู้สึกดีเอามากๆ ถ้าคนรักของคุณโทรมาเตือนให้คุณกินยา และพักผ่อนมากๆ
ความใส่ใจ กับ ความเกรงใจ คล้ายกันในหลายๆด้าน คุณอาจคิดว่า ยิ่งคบกันสนิทสนมกันมากเท่าไหร่
ก็ไม่จำเป็นต้องเกรงใจกันให้มากเหมือนคนที่เพิ่งเริ่มรู้จักกัน
แต่ผมกลับไม่คิดอย่างนั้น ยิ่งสนิทกันมากเท่าไหร่ ต้องยิ่งเกรงใจซึ่งกันและกัน
ความเกรงใจเป็นสิ่งดี และเป็นบ่อเกิดของความสัมพันธ์อันยั่งยืน คุณเห็นไหมล่ะว่า
. ไม่ยากเลยที่จะแสดงความใส่ใจต่อใครซักคน . ..
12 สิงหาคม 2546 08:19 น.
รักเธอตลอดเวลา
ช้างกับกิ่งไม้
นานมาแล้วชาวอินเดียใช้วิธีการนำลูกช้างมาฝึกให้เชื่อง
โดยล่ามโซ่ขนาดใหญ่ที่ขาของลูกช้างติดกับต้นไม้หรือซุงขนาดใหญ่
พละกำลังของลูกช้างเองไม่สามารถที่ทำให้ลูกช้างมีอิสระได้
ความพยายามหลายๆ ครั้งแล้วไม่สำเร็จนั้น ทำให้ลูกช้างจดจำว่า
"ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้"
และหลังจากความพยายามอย่างเต็มที่ในระยะเวลาที่นานพอ
แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ
ลูกช้างจะยอมแพ้ไปเอง และเชื่อว่า
ไม่ว่าจะทำอย่างไรก็ไม่อาจหนีไปไหนได้
ท้ายที่สุดเมื่อลูกช้างโตเต็มที่ มีน้ำหนักหลายตัน
คนเลี้ยงก็อาจเพียงแต่ผูกช้างนั้นไว้กับกิ่งไม้ก็พอ
มันจะไม่หนีไปไหนอันที่จริงมันไม่คิดที่จะหนีไปไหนเลยด้วยซ้ำ
คุณเคยรู้สึกแบบนี้บ้างหรือเปล่า เหมือนว่ามีอะไรมัดเราอยู่
แม้ว่าเราถูกหัวหน้าด่าก็ต้องอยู่ ขึ้นเงินเดือนน้อยก็ต้องอยู่
ไม่มีการปรับตำแหน่งเลื่อนขั้นให้ก็ต้องอยู่
ไม่สามารถออกไปทำอะไรได้เองโดยลำพัง
ทั้งๆ ที่เราเองก็มีความสามารถ (คุณก็คิดเหมือนกันใช่ไหม?)
เรารู้สึกเองว่าไม่มีทางเลือกอื่น
หรือเราไม่เปิดโอกาสตัวเองให้ศึกษาทางเลือกอื่นกันแน่
เราเองคงไม่ต่างอะไรกับช้าง
เราเชื่อไปเองว่าเราไม่อาจหลุดพ้นจากสภาพที่เป็นอยู่
(ซึ่งมันก็ไม่ได้ทำให้เรามีความสุขมากมายนัก)
ความเชื่อนี้จะฝังหัวเรามากขึ้นๆ
จนในที่สุดมันกลายเป็นความจริง ในจิตไต้สำนึก
เป็นผลทำให้เรา " คิดการเล็ก"
แต่ท้ายที่สุดแล้วเราเองต้องตัดสินใจ
และตระหนักให้ได้ว่า สิ่งที่ผูกติดเราไว้
ไม่ใช่ต้นไม้หรือขอนไม้ที่ใหญ่โต
มันเป็นเพียงกิ่งไม้เล็กๆ
ซึ่งเราสามารถหักและทำลายเมื่อใดก็ได้ที่เราต้องการพ้นจากการถูกหัวหน้าด่า
พ้นจากการถูกบังคับให้มาทำงานทั้งๆ ที่เป็นวันหยุดของเรา
พ้นจากการถูกปฏิเสธจากการขอเลื่อนตำแหน่ง หรือขึ้นเงินเดือน
หนทางของวิถีชีวิตที่ดีกว่า
คือการเริ่มต้นที่เราต้องกล้าที่จะหักกิ่งไม้นั้นทิ้ง
แล้วมุ่งหน้าไปยังป่าสีเขียวอันอุดมสมบูรณ์
คุณพร้อมแล้วหรือยังที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ