29 พฤษภาคม 2548 19:36 น.
รักษ์รัก
..
คนหนึ่งใจใฝ่เฝ้า นวลนาง
สองร่วมจิตสรรพางค์ เกี่ยวก้อย
คนหนึ่งกลับลาร้าง ลืมก่อน
ส่งผ่านกระแสถ้อย ห่างห้วงแห่งฝัน
เค้าเจ้านั้นรี่ร้าง แรมหวน
ส่อว่าใจไหลรวน หลบหล้า
เคียงกายคู่กล่อมครวญ ลางแล้ว
ร่วมสื่อฤๅเลือนล้า ห่อนแห้งลืมลง
จิตสองส่งสู่ผ้าย สัมผัส
รักหม่นหมองปองขัด แสบเศร้า
จักหาข่ายขึงมัด ซบซ่อน ใดฤๅ
เรียงร่ำถามหย่อมเหย้า แห่งห้องสถานฝัน
จึ่งรำพันพร่ำเพ้อ เพรียกนาง
รู้ล่มรักอับปาง สร่างสิ้น
ตัวเคยไต่ตามทาง เคียงคู่ ข้างตัว
นอนแน่วแดแด่วดิ้น รักล้มล่มลาง
ต่างตัวต่างถิ่นฟ้า รัตติกาล
นวมนิ่มนอนฝันหวาน ร่ำร้อง
เตียงข้าเรียกนงคราญ ฝันใฝ่ ในฝัน
นัดพบซบนวลน้อง นิ่มเนื้อนิมิตรหมาย
ต่อให้ไกลกู่ก้อง ถึงกัน
นวลบ่ห่างเหินหัน หน่ายหน้า
ตรึงจิตใฝ่ใคร่มั่น ใจส่ง สอดสอง
กายจึ่งพึงพบข้า มิรู้ลืมใจ
ใฝ่นางพรางร่างร้อย คมคาย
เกี่ยวกายกายเกี่ยวกาย ใคร่ค้ำ
แฝงคำต่างความหมาย หวังสื่อ สืบเสาะ
กู้รักกลับก่อนซ้ำ เช่นช้ำตำตา
ฝ่าคืนวันหวั่นแจ้ง มลายจิต
ใกล้แค่ความมืดมิด กลับกว้าง
ฝันนั่นนิ่งสนิท ลาห่าง เลือนหาย
กันพี่ลบภาพร้าง ทุ่มทิ้งหฤทัย
..
28 พฤษภาคม 2548 18:36 น.
รักษ์รัก
..
กลอยกมลมาน เน่งน้อยนงคราญ
ก่อนกาลวานซืนสยาม
พันผ้าแถบทาม ห่มสไบตาม
จีบง่ามผ้านุ่งเหน็บหลัง
น่ารักน่าชัง ยามแย้มสะพรั่ง
ดูดั่งกระดังงาง้าง
ลอบมองน้องนาง ผิวพรรณสรรพางค์
กระจ่างพอพระจันทร์อาย
มิสู้ตาชาย ก้มเหนียมเจียมกาย
คลับคล้ายกระเฉดฉวยฉวี
กล่อมกลอนเกี้ยวนรี ยิ้มต่างวจี
ฟันนี้ดำขลับจับตา
ได้น้องนางมา เคียงข้างกายา
เพชราไร้ค่าบันดล
ดอมดวงโกมล เพียงเราสองคน
เกลือป่นยังยลว่าหวาน
ยามแย้มแก้วกาญจน์ ผอบนิมมาน
ชายชาญชาญชาติสมบูรณ์
สิบฝนพ้นมูล จากภาพผอูน
อาดูรดั่งทองลอกล่อน
กระเตงลูกอ่อน เปลือยผ้าอาภรณ์
น้องนอนแนบเนื้อเนินถัน
ยี่สิบหนาวผัน ผันเนื้อนวลจันทร์
ถึงวันกระดังงาโปรย
สามสิบร้อนโรย ออดแอดโอดโอย
นั่งโบยตะบันหมากกิน
ฤๅยุพาพิน แย้มยั่วภุมริน
ยามกลิ่นสุคนธ์แรกแย้ม
เฉิดโฉมแฉล้ม เอมอรแอร่ม
ยามแย้มใช่เร่งเบ่งบาน
กลอยกมลมาน เน่งน้อยนงคราญ
ก่อนกาลวานซืนสยาม
..
27 พฤษภาคม 2548 20:59 น.
รักษ์รัก
..
รถนิ่ง ณ สี่แยก
กระแดะแทรกดรุณร่อน
หวิดตายสิวันก่อน
มะลิหดระเหี่ยใจ
มาลัยระย้าพิริยโบก
ระกำโศกพินิจไป
แดดเดือดรพีผิวะวิลัย
ละสตางค์รึไม้เรียว
รถสะดุดหยุดจี้ตรงสี่แยก
ประคองแบกพวงมาลัยหน้าไหม้เขียว
เห็นหนูน้อยลอยเหินเดินปราดเปรียว
สะโพกเอี้ยวเลี้ยวหันประจันตา
ซื้อหนูหน่อยนะน้าสิบห้าบาท
เดินอาดอาดโบกมาลัยไร้แรงขา
สิบห้าบาทเบ่งแรงสู้แสงจ้า
นะน้านะปันน้ำใจแทนไม้เรียว
นั่งนานซ้ำตูดแหลม
ทวิแก้มก็แกมเขียว
เรียงดอกบ่บานเบี้ยว
หฤโหดมิโอดครวญ
ชิงเด่นล้ำลักษณะปะปน
ฉ่ำสุคนธกำสรวล
โลหิตชโลมถลำกระบวน
ชะวิรามบำบวง
มะลิแบแช่น้ำแข็งลงแรงร้อย
มาลัยน้อยลอยหน้ามาบวงสรวง
บรรจงจิ้มทิ่มเข็มจนเต็มพวง
ก้นเป็นดวงม่วงระเรื่อเผือก็ทน
ทีละดอกบอกว่าปราณีตนัก
จะหยุดพักชักช้ากี่คราหน
พวงมาลัยท่านมาสาบานบน
ฝากเลือดข้นปนไปอยู่ในพวง
ฟ้าแรกอรุณรี่
รชนีผิห่วงหวง
เบ่งบานสะพรั่งพวง
สะเดาะปลิ้น ณ ถิ่นงาม
ดึงเด็ดระวังธรกกลีบ
ริลุรีบฉลีกก้าน
กอบมือมิกอปรชำนิชำนาญ
จิรกาลรึเต็มโล
แรกอรุณกรุ่นกลิ่นถิ่นมะลิ
มาก้มปริผลิก้านอยู่นานโข
มะลิเจ้าเบาหรอกดอกไม่โต
กว่าจะได้ครึ่งกิโลโถแม่คุณ
มือพรวดพล่านก้านฉีกก็ปลีกทิ้ง
หากแน่วนิ่งสิ่งตรงหน้าเงินมาหนุน
ไม่มีหนอนชอนเล่นสิเป็นบุญ
พ้นอรุณหุนหันไม่ทันกิน
- - - - - - - - -
อินทวสันตดิลกฉันท์ : กุมพาพันธ์ 2548
กลอนสุภาพ (กลอนตลาด) : พฤษภาคม 2548
- - - - - - - - -
..
26 พฤษภาคม 2548 19:14 น.
รักษ์รัก
..
ทรพีมีปัญหาอยากฆ่าพ่อ
วัดรอยเท้าก้าวเหยียบเทียบตารอ
ตัวเท่าพ่อพอตีนถวิลครวญ
ถึงวันหนึ่งผึ่งผายกายกำยำ
เมื่อเหยียบย่ำซ้ำเท้าให้ห้าวหวน
ยุคลบาทบอกเบื้องเรื่องดาบดวล
จึงเชิญชวนกระบวนท่ามาฆ่ากัน
ไม่ทันท่วงมะม่วงงอมก็จ่อมจุก
ทั้งล้มลุกคลุกทรายให้น่าขัน
เพราะบุตรพ่อทรพีบี้ตะบัน
สู่สวรรค์เถิดพ่อทรพา
ชีวิตหนูดูเทียบเปรียบเรื่องนี้
เกิดทั้งทีมีเพศเหตุปัญหา
สวยสะพรั่งในร่างชายอายลูกตา
เออบิดาด่าแช่งแว้งตบตัว
มึงไม่เป็นเช่นชายเหมือนกายพ่อ
ลูกชายหนอทรพีอยากมีผัว
เป็นชาติชายขายชาติอุจาดตัว
ให้คนกลัวคับฟ้าหาไม่มี
ยอดบุรุษสุดทรามหยามนงนุช
เรียกอีตุ๊ดสุดแว้บแสบฉวี
สะเทือนใจในอุราด่าบุตรี
ขอเป็นลูกทรพียอมมีกรรม
จึงปลดเปลื้องเปลือยร่างให้ว่างเปล่า
พ่อถอยก้าวกลัวลูกรุกถลำ
กางเกงพ่อชั้นในใส่ประจำ
มาสวมซ้ำย้ำเน้นให้เห็นดี
พรางขยับคับใหญ่ขยายร่าง
เหมือนง้าวง้างกลางลำถลำชี้
ใหญ่กว่าพ่อจ่อพ้นจนล้นปรี่
เหยียดนิ้วชี้..พ่อนั่นแหละแพ้กระเทย
..
25 พฤษภาคม 2548 13:45 น.
รักษ์รัก
..
เมฆาเคลื่อนเบือนหนีรังสีแสด
ละลวยแดดดอมดอดยอดบุหงา
แก้วสกาวขาวเอี่ยมเยี่ยมหน้ามา
อาบแสงจ้าหาไอกรุ่นอุ่นกลีบงาม
ผีเสื้อพลิกปีกขยับจับเกสร
มวลภมรระร่อนเนื้อเหนือสนาม
ซุกพุดซ้อนซ่อนนนทรีสีนงราม
แหวกกลีบงามหาน้ำนุชบุษบา
สายยางยาวสาวสายระบายน้ำ
ฉีกสายซ้ำส่ายสายใส่พฤกษา
แม้นรุ้งแดงแย่งน้ำดูงามตา
แต่งามเทียบเปรียบผกาหาไม่มี
เห็นช่อโมกโยกเขยื้อนเหมือนกระดิ่ง
ดังกริ่งกริ่งติงตนหรือกลผี
ต้นชุ่มลำฉ่าร่างดั่งชาตรี
นวลนารีผลิรับประดับชาย
ดอกลั่นทมโน้มดอกมาหยอกน้ำ
ฉีดสายย้ำหยอกแยบแทบใจหาย
ล่วงละมุนหมุนก้านลงลานทราย
ฤๅต้องชายขายหน้าลงราดิน
พุทธชาดประหลาดแท้แลเต็มต้น
แย้มโกมลดลใจให้ถวิล
เพียงมิพึงผึ้งภู่ภุมริน
เพราะไร้สิ้นระรินรสหยดสุคนธ์
ดอกซ่อนกลิ่นกลิ่นอ่อนจึงซ่อนชื่อ
กาหลงหรือหลงมาจากป่าสณฑ์
มะลิน้อยลอยน้ำทำน้ำมนต์
หรือหอมตนคนเห็นว่าเย็นใจ
แม้นชูช่อเชิญชื่นระรื่นหน้า
ถึงเวลาลาดวงล่วงสมัย
ก่อกงเกวียนเวียนกรรมตามกันไป
เป็นบุหงาฟ้าใหม่ให้เชยชม
..