17 มิถุนายน 2549 11:55 น.

poison ivy, poison kiss

รักษ์รัก

..





poison ivy

พี่เดินงงหลงทาง,  ที่ข้างหน้า
ตระการตาพฤกษชาติประหลาดเหลือ
มีม่านไม้ไกวเถาเป็นเคราเครือ
มาไล้เนื้อดั่งกลมนต์วิมาน

ที่เกี่ยวก่าย, ย้ายแยกแหวกเป็นช่อง
จึงก้มมองย่องไปในสถาน
บุปผชาติประหลาดล้ำส่องน้ำกาญจน์
เคียงขนานแนบข้างเป็นทางไกล

จนมาหยุดสุดทางที่ย่างเยื้อง
มลังเมลืองเบื้องหน้า,  ผกาใหญ่
ยังตูมตูบลูบเล่น,  พลันตกใจ
แย้มกลีบใสในนั้นมีกานดา

ความงามใดในหล้าจะมาสม
เท่าได้ชมโฉมนางเสน่หา
ใยสวาทนำวิถีทั้งสี่ตา
ประสานมาหากันพลันตะลึง

ช่างเย้ายวนชวนให้กระหายแก้ม
หมายจักแต้มตอมตอดสักฟอดหนึ่ง
กระอวลเอยเชยเอมจนเต็มตึง
สุดคะนึง,  ยื่นหน้าหานารี

พลันสนองน้องเจ้าเอามือลูบ
แล้วจูงคางเข้าจูบ,  เจ้าจูบพี่ !
แลเวียนหัวตัวรู้ไม่สู่ดี
ยินโฉมศรีแผดเสียงสำเนียงมาร

จวบสิ้นจูบวูบหนึ่งจึงได้คิด
แมลงน้อยตัวนิดหลงน้ำหวาน
กลับกลืนพิษเกสรสร้อยสุมาลย์,
โอ้นงคราญลวงมาเพื่อฆ่าเรา




poison kiss

โอ้พี่ชายให้น้องมาลองรัก
จะประจักษ์ไหมหนอ,  เพราะน้องเขลา
ซ่อนอะไรในทรวงไว้ลวงเรา
หากจะเอารักอ้าง,  ฤๅวางใจ ?

พี่ก็รุกปลุกเร้าทำเราพล่าน
ด้วยคำหวานหว่านล้อมตะล่อมไหล
"ยอมเป็นเมียเสียสิ"  ไม่จ้ะ,  ไม่
แอบหวั่นไหวให้ลำบาก,  อยากเหมือนกัน

แต่คำเขาเฝ้าสอนอย่าอ่อนข้อ
ต้องปัก 'รอ' ก่อกำแพงมาแต่งคั่น
แสนสัปยุทโธปกรณ์ไม่เทียบทัน
,  แต่จูบนั้นทำผนังพังลงไป

พี่ป้อนจูบลูบหลังกระทั่งเคลิ้ม
สะท้านเทิ่มแทบดิ้นจนสิ้นขัย
มีความสุขสุดสุด,  หยุดทำไม !
"ถามอีกครั้งจะยอมให้พี่หรือยัง"

จึงจ้องตาพี่ชาย,  ส่ายหน้านิด
แต่ไม่คิดปิดใจ,  ไว้วันหลัง
วันนี้น้องขอตัวกลับลำพัง
พูดไม่ฟัง!,  ยังจะเฝ้ามาเล้าโลม

สุดท้ายมานอนนิ่งติงตัวนี้
คิดถึงพี่ยิ่งนัก,  เพราะรักโหม
คงหลงลิ้นไม่สิ้นสุดจนทรุดโทรม
พี่ประโคมแค่ครั้ง,  กลับฝังใจ

ทรมานร่านหนอเพราะจุมพิต
เหมือนเสพย์ติดพิษสวาทขาดไม่ได้
รู้เช่นนี้ยอมเสีย,  เป็นเมียไป
ดีกว่ามานั่งใคร่ให้ลงแดง

..				
2 พฤษภาคม 2549 19:49 น.

จักรวาลกวี (กาแลคซี่ที่ ๑)

รักษ์รัก

..




๏ กวีกำเนิดพร้อม                  วิญญาณ
ทอดต่อบรมาจารย์                 ชั่วฟ้า
สรรคำประดิษฐ์กานท์             เขียนกล่าว
ผองร่วมประกาศกล้า              สืบส้รางสันดานศิลป์ ฯ

๏ กินกลอนต่างแกลบก้อน       เกลือเค็ม
รอยจักกัดโคลงเล็ม                กาพย์แกล้ม
เท่านี้สิพอเต็ม                       อกอิ่ม
ขนมร่ายลายแฉล้ม                 ลอบลิ้มชิมฉันท์ ฯ

๏ อันจินตกวีวาดสร้าง             จินตนา-  การนา
สุตกวียินมา                           แต่งได้
อัตถกวีหนา                           สอนสั่ง
ปฏิภาณกวีไซร้                       ตอบโต้ตามถึง ฯ

๏ ควรคะนึงค่าแม้น                สุนทรีย์
รูปรสลีลามี                            ย่อมช้อย
หลากคำเล่นวจี                      ความต่าง
เสริมเสน่ห์สะพรั่งพร้อย           บ่งหน้าสำนวนตน ฯ

๏ กลบทสนุกแก้                     การกล
คำล่างเชื่อมคำบน                  สนุกเน้อ
แกะคำยากแยบยล                  แหมสนุก
สนุกอ่านสนุกเขียนเอ้อ            สนุกล้ำคำบรรเลง ฯ

๏ ยินเพลงเสนาะเนื้อ               อักษรา
เพลงจากปลายปากกา             เพราะพริ้ง
ทั้งทีฆะรัสสา                          ใส่สลับ
ลูกเล่นทำนองกลิ้ง                   ครึกครื้นคำสนาน ฯ

๏ แต่บุราณก่อนโน้น               นมนาน
รงขีดลงกระดาน                     เก็บไว้
บ้างจารใส่ใบลาน                    นานผุ
ตัวหนึ่งหนอนานไซร้                หน่ายแท้ยังทน ฯ

๏ ตามตำบลร่ายร้อง                เพลงฮา
วังว่ามีเสนา                            เอ่ยเอื้อ
นิทานท่านสรรหา                    คำแต่ง
ไทยไม่หมดชาติเชื้อ               หน่อเนื้อสกุลกวี ฯะ				
28 เมษายน 2549 20:11 น.

จินตภาพรำพึง

รักษ์รัก

..




เนื้อเอยแม่สาวเนื้อทอง
แหงนมองจ้องจันทร์จ้ากระจ่าง
เมลืองโลมโฉมฉายในนภางค์
ฉวีพรรณสรรพางค์กระจ่างตา 

แสงตะเกียงเรียงเรือนเรืองรอง
น้ำปริ่มริมคลองเข้าท้องป่า
อึ่งอ่างครางครืนชื่นชีวา
ฟังสิโสภาเวลาเพ็ญ

เมื่อเช้าเพรางายกระไรเอ๋ย
ข้าวหมิ้นกลิ่นระเหยเชยเล่น
นวดเนื้อแน่งน้องแม่ยองเย็น
แลเห็นเป็นทองผ่องประไพ

พาดแถบทาบชมมาห่มเนื้อ
เรืองเรื่อเยื่อย้อมยังหอมไหม
แขขุนขนุนหน่อยบนรอยใย
นวลไขแนบข้างน้องนางนวล

ฟักทองรองน้ำพริกเพียงโถ
เคียงโสนนุ่มอุ่นพอกรุ่นหวน
แกงเลียงร่ายข้าวโพดรสรัญจวน
ขนมกวนเปียกฟ่างสู่ทางวัด

ย่างเท้าเบาหน่อยค่อยค่อยหนา
เรืองศาลาคร่ำคร่าตามฟ้าพลัด
ลมล้อช่อคูนหมุนพัด
เงียบสงัดสงบไหมในอาราม

เทียนทองส่ององค์พระปฏิมา
จุดธูปบูชาปิฎกทั้งสาม
วันทาอภิวาทหัตถ์ประณาม
สมงามธรรมสารประทานพร

ทั้งมวลล้วนเหลืองเรืองหยด
รูปรสกลิ่นเสียงพี่เรียงสอน
บรรยายสีต่างนัยน์ตาอร
แสงสะท้อนถึงไหมในเงาตา

..				
21 กุมภาพันธ์ 2549 20:00 น.

พู่กันไร้หมึก

รักษ์รัก

..




ชวนแก้วกาญจน์หวานใจมาทายเล่น
มิได้เป็นจิตรกรผู้ยิ่งใหญ่
อยากจะถามตามจริงคือสิ่งใด
ที่วาดไว้ทายดูให้รู้ที

ในมือพี่มีพู่กันไร้น้ำหมึก
แค่นึกคึกหัดวาดแม้ขาดสี
จะปิดตาทั้งสองของคนดี
มิให้เห็นภาพนี้ที่พี่ทำ

จรดลากจากสามนาฬิกา
ทวนเข็มมาเต็มกลมจนคมขำ
แล้วขีดขึ้นมั่นคงตรงเป็นลำ
ตวัดซ้ายขวาทำคลื่นทะเล

เยื้องขึ้นไปใส่วงบรรจงวาด
แล้วหมุนลาดเลี้ยวเล่นให้เส้นเฉ
ทำงุ้มโง้งโก่งมองเหมือนท้องเปล
แล้วหักเหเป๋ปัดตวัดรอย

มาเริ่มจากจุดใหม่ใกล้ใกล้ฐาน
ลากขนานเส้นตรงแต่น้อยน้อย
ขยักคั่นฟันปลาเป็นจงอย
โค้งค่อยค่อยย้อยลงแล้วตรงไป

จงลืมตามามองในมือนั้น
รอยพู่กันนิ้วชี้มีหมึกใส
พี่วาดวางต่างเสียงสำเนียงใจ
จงเก็บภาพนี้ไว้ในกำมือ

 ..				
29 มกราคม 2549 08:58 น.

โซเซ็ง

รักษ์รัก

..



ฉันรักเธอเธอไม่รู้ว่าฉันรัก
เพิ่งประจักษ์จริงแท้ที่แปรผัน
หวังให้เขาสนใจอย่างไรกัน
เมื่อเขานั้นมีอีกหนึ่งที่ซึ้งใจ

คืนเงียบเหงาเศร้าทรวงล่วงถึงเช้า
แค่เบอร์เขาโทรมาว่าหวั่นไหว
เรียกไปด้วยช่วยงานฉันเต็มใจ
ขอแค่ได้ใกล้ชิดติดติดตา

ใครจะสนเมื่อคนนี้มีความสุข
เมื่อได้ขลุกคลุกคลีที่ไปหา
ถึงอดนอนหมอนข้างอยู่ห่างตา
ขอไปอยู่ใต้ชายคาก็ว่าดี

ยามประสานสายตาพาสวาท
ฉันบังอาจคิดไปถึงไหนนี่
ความรู้สึกใช่จะเกิดเมื่อเลยปี
เพียงแค่เสี้ยงวินาทีก็รู้กัน

เพิ่งมารู้ดูสิที่ฉันรัก
เพิ่งประจักษ์จริงแท้ที่แปรผัน
หวังให้เขาสนใจได้ไงกัน
เมื่อเขานั้นมีอีกหนึ่งที่ซึ้งใจ

..				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟรักษ์รัก
Lovings  รักษ์รัก เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟรักษ์รัก
Lovings  รักษ์รัก เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟรักษ์รัก
Lovings  รักษ์รัก เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงรักษ์รัก