26 กุมภาพันธ์ 2552 15:31 น.

ทุน

รักษ์บุญ เสาวณีย์

จดหมายถึงนายนุ้ย  ฉบับที่ 1
 
                      สวัสดีครับนายนุ้ย  นายนุ้ยสบายดีไหมครับ  ผมนายหนูแดงสบายดีครับ  

                    นายนุ้ยคงสบายดีแน่ๆ  เพราะนายนุ้ยเป็น  ส.ส. ผู้ทรงเกียรติ     

                     ผมดูภาพที่นายนุ้ยออกทีวีแล้ว  นายนุ้ยช่างเหมาะสมกับตำแหน่งที่ได้รับจริงๆ
	ผมเขียนจดมาหมายนี้ก็ไม่มีอะไรมาก 

                     แค่อยากบอกนายนุ้ยว่า  บ้านผมถนนรถวิ่งแทบไม่ได้เลย  นี่ก็จะเข้าน่าฝนยิ่งไปกันใหญ่  

                     นายนุ้ยก็น่าจะรู้ดีว่าถนนเส้นนี้แทบใช้การไม่ได้  และก่อนลงเลือกตั้งนายนุ้ยบอกกับพวกผมว่า  นายนุ้ยจะกลับมาทำถนนให้ 

                     นายนุ้ยอย่าลืมสัญญานะครับ
	ตอนนี้ไอ้ทุยกำลังป่วยไม่รู้ว่าจะหายหรือเปล่า  มันเจ็บขาให้หมอควายที่บ้านมาฉีดยาให้ก็ยังไม่ทุเลาเลย  ไม่รู้ไอ้ทุยจะหายทันหน้านาปีนี้หรือเปล่า  

                      ถ้าหายไม่ทัน  ผมคงต้องจ้างควายญี่ปุ่นของเจ๊กโก  นายนุ้ยก็รู้ว่าควายญี่ปุ่นมันไถ่เก่งก็จริง  แต่ผมก็ต้องเสียกะตังอีกโขเลย

                      นายนุ้ยบอกว่าจะให้ควายเรา  

                      อย่าลืมนะครับ  ผมรออยู่  

                      ตอนแรกผมไม่อยากได้เท่าไรแต่ตอนนี้ลำบากจริงๆ  ถ้านายนุ้ยให้ก่อนลงทำนาผมจะสำนึกบุญคุณเป็นอย่างมาก
	
                      นายนุ้ยครับ 

                      นายนุ้ยรู้ไหมว่าตอนนี้  แถวบ้านใช้ปุ๋ยเคมีกันเยอะขึ้น  

                      ปุ๋ยพวกนี้ดีมากๆ  เห็นเขาใช้มันดีจริงๆ  ผมก็เลยเปลี่ยนมาใช้เมื่อปีแล้ว  

                      แต่ปีนี้ปุ๋ยขึ้นราคา  
   
                      นายนุ้ยช่วยบอกให้เพื่อนนายนุ้ยขายปุ๋ยให้พวกเราถูกๆได้ไหม 
	

                      เมื่อคืนผมดูข่าว    ตอนนี้รัฐบาลกำลังจะประกันราคาข้าวล่วงหน้า  ผมเห็นว่าถ้ารัฐบาลทำได้  พวกผมคงอยู่ดีกินดีขึ้นบ้าง  เพราะปีที่แล้วผมไปขายที่โรงสีเจ๊กโก  ได้ราคาไม่ดีเลย  

                          ตอนที่นายนุ้ยไปที่หมู่บ้านผม  นายนุ้ยรู้ไหมว่าทำไม นายนุ้ยถึงได้คะแนนมากที่สุดในหมู่บ้าน  

                         ก็ผมนี่แหละเป็นหัวคะแนนให้นายนุ้ย ตอนแรกผมอยู่อีกพรรคฝากหนึ่ง  แต่เห็นนายนุ้ยเป็นคนน่าเชื่อถือ  พูดดี  มีความเป็นไปได้มากกว่าไอ้ฝากตรงข้าม  

                         ผมก็เลยให้พวกชาวบ้านเลือกนายนุ้ย  นายนุ้ยสัญญากับเรา ว่านอกจากจะประกันราคาข้าวแล้วนายนุ้ยจะ  ประกันราคาพืชผลอย่างอื่นด้วย  

                         พวกเราดีใจมากที่นายนุ้ยเป็นตัวแทนของเรา
	
                         สุดท้ายนี้    

                         ขอให้คุณศรีพระรัตนตรัยคุ้มครองนายนุ้ยและครอบครัวให้มีความสุขตลอดไป  
	
                        ปล.นายนุ้ยอย่าลืมมาซ่อมถนนให้เรานะครับ  ตอนนี้ลำบากมาก
				
                                                                                       เคารพและนับถือ
                                                                                      นายหนูแดง ชาวนา

.....................................................................................................................

                                    จดหมายถึงนายนุ้ย  ฉบับที่ 2

                      สวัสดีครับนายนุ้ย  

                      นายนุ้ยยังสบายดีอยู่หรือเปล่าครับ ผมนายหนูแดงสบายดีครับ  

                       ผมเขียนจดหมายมาฉบับนี้  เพราะอยากจะขอบพระคุณนายนุ้ยเป็นอย่างมาก  ที่พอรับจดหมายผมแล้วก็รีบจัดการตามที่ขอ  

                        ผมดีใจที่นายนุ้ยบอกว่าได้ของบไว้ให้หมู่บ้านผมแล้ว  

                        ถึงจะสร้างยังไม่ได้เพราะเป็นหน้าฝน  แต่ต้องสร้างน่าแล้งปีหน้านะครับ 

                         อันนี้ผมเข้าใจนายนุ้ยครับ  เดี๋ยวผมจะบอกชาวบ้านให้นะครับ
นายนุ้ยครับ  

                         ขอบพระคุณแทนอีแตงลูกสาวคนเล็กของผม  ที่เพิ่งแต่งงานไป  ผมไม่นึกว่านายนุ้ยจะใส่ซองให้มันตั้งห้าพัน

                        
                          ไอ้สนเพื่อนผม  มันก็ฝากขอบพระคุณนายนุ้ยด้วย  ที่นายนุ้ยช่วยเป็นเจ้าภาพงานศพแม่มัน  

                          มันบอกว่านายนุ้ยอยากเป็นส.ส.อีกกี่สมัยกี่สมัยมันจะลงคะแนนให้  

                          ชาวบ้านต่างก็สรรเสริญนายนุ้ยเป็นการใหญ่ บอกว่าพวกเราเลือกส.ส.ได้ถูกคนซักที  ไอ้ผมก็พลอยได้หน้าไปด้วยที่เปลี่ยนใจมาสนับสนุนนายนุ้ย


                           หลวงพ่อดำ  เจ้าอาวาสที่วัดบ้านผมก็ฝากมาขอบใจนายนุ้ยด้วย  

                            ก็เรื่องผ้าป่านั่นแหละปีนี้ได้เกือบล้าน  

                            หลวงพ่อดีใจมาก  ที่จะได้กุฏิหลังใหม่เสียที  

                            นี่ถ้าไม่ได้นายนุ้ยเป็นประธาน  คงไม่ได้เงินมากขนาดนี้  แถมนายนุ้ยเองก็ใส่ซองผ้าป่าตั้งหมื่นหนึ่งด้วย  

                            หลวงพ่อก็เลยพูดถึงความดีของนายนุ้ย  ตั้งสองสามเดือนแล้วก็ยังไม่เห็นหลวงพ่อจะเบื่อเลย


                            ผู้ใหญ่เขียว  ผู้ใหญ่บ้านเราก็ฝากขอบพระคุณมาด้วย  

                            ที่นายนุ้ยสนับสนุนทั้งเสื้อทั้งกางเกงกีฬา  ไหนจะอุปกรณ์กีฬาอย่างอื่นอีก  

                             พวกเด็กๆวัยรุ่นที่บ้านดีใจใหญ่เลย  

                             พวกมันดีใจขนาดที่ทุกปีมันเตะบอลเล่นกีฬาของตำบลได้ที่โหล่หมด 

                             แต่ปีนี้ พวกมันชนะเลิศกีฬาตำบลหลายอย่างเลย 

                            ไอ้ผมไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ  

                             ตอนนี้ใครๆก็รักนายนุ้ยกันทั้งนั้น  มันไม่ใช่แค่ที่หมู่บ้านของผมนะครับ  ตอนนี้ชื่อเสียงของนายนุ้ยดังไปทั่วตำบลเลยครับ

                              
                             ครูใหญ่และครูน้อย  ที่สอนโรงเรียนบ้านผม  ก็พากันชมนายนุ้ยมาเหมือนกันว่านายนุ้ยเป็นคนใจกว้าง  แถมไม่ถือตัวไปร่วมงานส่งครูน้อยที่จะย้ายไปและเลี้ยงต้อนรับครูคนใหม่ 
 

                            ไอ้เดชลูกชายผมที่ไปช่วยครูเสิร์ฟน้ำเสิร์ฟข้าว

                             มันเอาเงินใบห้าสิบ  ก็ใบเพิ่งออกใหม่ไง  ที่นายนุ้ยแจกทุกคนในงานน่ะ  

                             มันเอามาให้ผมดู แต่มันไม่มันเอายักกะเอาไปใช้ เพราะปกติมันเห็นเงินไม่ได้หรอก  มันใช้ตะบันเลยล่ะ 

                             รอบนี้แปลก มันกลับเอาไปให้ร้านเขาเคลือบไว้บูชา

                              มันบอกว่า มันรับจากมือคนใหญ่คนโตทั้งที  ชีวิตนี้คงไม่มีอีกแล้วละ
	

                              กำนันยะแกฝากมาถามว่า  ถนนลาดยางของตำบลเราจะได้จริงๆหรือ 

                              ผมว่าก็คงไม่ยากเกินไปแน่ใช่ไหมครับนายนุ้ย ถ้าได้ถนนลาดยางเส้นนี้  ผมว่านะ  นายนุ้ยคงได้เป็นส.ส.อีกหลายสมัยเลยล่ะ
	

                               อ้อ..วันนั้นผมดูนายนุ้ยอภิปรายในสภา สุดยอดจริงๆครับนายนุ้ย  นายนุ้ยพูดได้จับใจชาวบ้านอย่างผมจริงๆ  มันต้องอย่างนี้ครับ  ถึงจะเรียกว่า เข้าใจชาวบ้านจริงๆ  ไม่ใช่ดีแต่พูดเหมือนคนก่อนๆ  
	

                               สุดท้าย  ผมและชาวบ้านขอให้กำลังใจนายนุ้ย  ให้ทำงานโดยไม่มีอุปสรรคนะครับ  ขอให้นายนุ้ยแข็งแรง เป็นตัวแทนของชาวบ้านต่อไปนะครับ

						                                                              รักและเคารพและนับถือ
                                                                                       นายหนูแดง ชาวนา

........................................................................................................................

                                        จดหมายถึงนายนุ้ย  ฉบับสุดท้าย 
	
                           สวัสดีครับนายนุ้ย  ผมนายหนูแดงนะครับ   

                           หลายปีมานี้  ผมไม่ได้เขียนจดหมายมาหานายนุ้ยซักที  อาจเพราะนายนุ้ยได้เป็นรัฐมนตรีแล้ว  ผมก็เลยไม่กล้ารบกวน  
	

                           เมื่อวานไอ้เดชลูกชายผม  ตอนนี้มันเป็นอบต.ของหมู่บ้านแล้ว 

                            มันอยากได้อุปกรณ์กีฬาให้เด็กๆ  ก็เลยแวะไปที่บ้านของนายนุ้ย  

                            ปรากฎว่าคนที่บ้านของนายนุ้ย  บอกว่านายนุ้ยไม่อยู่บ้าน  

                            มันก็เลยต้องกลับมือเปล่า  

                            มันบอกว่าบ้านของนายนุ้ยเก่าไปมาก  

                            เดี๋ยวนี้ไม่มีใครไปหานายนุ้ยแล้วหรือครับ 

                             ผมก็พอเข้าใจสภาพของนายนุ้ยนะครับ  

                             เลือกตั้งแต่ละครั้ง  นายนุ้ยต้องใช้เงินมากมาย  

                              ไหนจะตอนได้เป็นส.ส.เป็นรัฐมนตรี  

                              ชาวบ้านยังแวะเวียนไปขอเงินสนับสนุนต่างๆอีก  เงินนายนุ้ยก็ต้องหมดเป็นธรรมดา   
	

                              นายนุ้ยครับ  ผมคงต้องบอกนายนุ้ยตรงๆว่า  

                              ตอนนี้ชาวบ้านเริ่มจะเปลี่ยนไป  เพราะชอบความใจถึงของผู้สมัครพรรคฝ่ายตรงข้าม  

                              เขาเข้าหาชาวบ้านได้เร็ว  และจ่ายหนักว่าเดิมอีกหลายเท่า  

                               ปีนี้ผมจะไม่เป็นหัวคะแนนแล้วนะครับ  ไอ้เดชลูกชายผมจะเป็นแทน  

                               เพราะตอนที่มันแวะไปหานายนุ้ยแล้วไม่ได้อะไรกลับมา  

                               มันก็เลยแวะไปที่พรรคตรงข้าม  

                               ฝั่งนั้นเขาให้มาเยอะมาก  มันก็เลยเป็นหัวคะแนนให้เขา  

                               ผมก็เลยต้องหลีกทางให้เด็กรุ่นใหม่อย่างมัน 
	

                                นายนุ้ยไม่ว่านะครับ  เราอยากได้คนสมัยใหม่ที่ใจถึง  เราต้องการคนที่เป็นตัวแทนให้เราได้จริงๆ   


                                 เขาให้เรามากกว่า  

                                 นโยบายของเขาก็ถูกใจ 

                                 และที่สำคัญเขาน่าจะได้เป็นฝ่ายรัฐบาล  ที่สามารถทำให้เราได้งบลงหมู่บ้านเพิ่ม  ในการเลือกตั้งครั้งนี้ 
	
                                 นายนุ้ยครับ  หลายปีมานี้นายนุ้ยได้ช่วยเหลือชาวบ้าน  จนใครๆก็รู้จักว่านายนุ้ยเป็นคนดี 

                                 นายนุ้ยได้ทุ่มเทเงินทองให้พวกเรา 

                                  จนนายนุ้ยแถบจะหมดเนื้อหมดตัว  

                                  เราขอขอบพระคุณนายนุ้ยเป็นอย่างสูง  ที่ดูแลเราอย่างดีตลอดมา  

                                  แต่วันนี้หลายอย่างเปลี่ยนไป และเราจำเป็นต้องปรับตัวตามความจริง  และผมก็จำเป็นต้องปรับตัวตามชาวบ้าน
	
                                  สุดท้ายจริงๆ  

                                  ผมนายหนูแดง ชาวนา 

                                  ขอให้นายนุ้ยและครอบครัว มีแต่ความสุขโรคภัยอย่าได้เบียดเบียน  

                                 ผมคงไม่ได้เขียนจดหมายมาหาแล้ว 

                                 และขอให้นายนุ้ยยอมรับความจริงที่จะเกิดขึ้น  ในการเลือกตั้งครั้งนี้


                                                                               รักและปราถนาดี
                                                                              นายหนูแดง ชาวนา

......................................................................................................................				
19 มกราคม 2552 16:02 น.

เมื่อฉันลืมเธอ

รักษ์บุญ เสาวณีย์

เอาละทุกคนพร้อมนะ ศาสตราจารย์มหิธิ  หันมาตรวจความพร้อมของลูกทีม  ซึ่งมีศาสตราจารย์มาก และดร.ทนง  นั่งเป็นผู้ช่วยซ้าย ขวา
          วันนี้พวกเราจะเดินทางข้ามกาลเวลา  เพื่อทดสอบเครื่อง  สหสวัต ซึ่งเป็นเครื่องผ่าเวลาสู่อนาคต  
         ศ.มหิธิ ตั้งเครื่องผ่าเวลาเป็น ค.ศ.4000  ถึงแม้ตัวเขาเองจะรู้ว่าเครื่องนี้ยัง  ไม่สมบรูณ์ดี แต่สิ่งที่เขาเชื่อก็คือ  เครื่องสามารถนำเขาสู่อนาคตได้แน่นอน
เมิ่อเขาตั้ง ค.ศ.เรียบร้อย เขาหันไปมองลูกทีมนิดหนึ่งก่อน กด Enter ซึ่งเครื่องเริ่มนับถอยหลัง
        ขณะนี้ทุกท่านคงอยู่ในสภาพพร้อมแล้ว  เราคือเครื่อง สหสวัต จะนำทุกท่านเดินทางสู่ ค.ศ.4000  ณ บัดนี้  10,9,8,7,6,5,4,3,2,1,0  ขอให้ท่านเดินทางโดยสวัสดิภาพ  เสียงคอมพิวเตอร์ตอบรับการกด Enter ของ ศ.มหิธิ 
ยานเริ่มออกเดินทางทันทีที่เสียตอบรับสิ้นสุดลง  
วูบๆๆๆทั้งสามเหมือนจะสติดับวูบไปชั่วขณะ
......................................................................................................................
        
            เร็วลูก! เร็วคุณ!  ดร.ทนงพูดเสียงดังด้วยความร้อนใจ  
            เรากำลังจะไปไหนกันคะพ่อ 
             ลูกสาวถามด้วยความสงสัย  ส่วนลูกชายที่อายุพึ่งขวบ  เล่นของเล่นบนบ่าพ่อไม่สนใจสิ่งรอบตัว
             ไม่มีอะไรจ๊ะ  พ่อกับแม่กำลังจะพาลูกๆไปเที่ยว 
              ผู้เป็นแม่บอกลูกสาวเสียงอ่อนโยน ยิ้มแย้ม แต่หันกลับไปสบตาสามีด้วยสีหน้าที่อมทุกข์ ปนตื่นตะหนก
              คุณค่ะเรารีบลงไปเถอะคะ  เดี๋ยวถึงเวลาให้นมตาหนูแล้ว 
               หญิงสาวเอ่ยเบาๆ
                ดร.ทนง  ไม่รอช้ารีบกดลิฟท์ชั้นที่ 100 เป็นชั้นต่ำสุดทันที  
มันเป็นลิฟท์ลงใต้ดิน  ซึ่งเขาได้ลงทุนอย่างมหาศาล  สร้างลิฟท์นี้ขึ้นมา
มีความลึก  2,000 เมตร สร้างด้วยวัสดุทนความร้อนสูงสุดถึง 2,000,000 องศา  มีบันไดเหล็กสร้างติดข้างๆลิฟท์  ป้องกันความพิดพลาดหากลิฟท์ใช้การไม่ได้    
               ทุก 100 เมตรจะมีวัสดุหนา 1 เมตร ยาวกว้างเมตรครึ่ง  ซึ่งมีคุณสมบัติกันความร้อนได้เช่นเดียวกับลิฟท์  ติดอยู่ข้างๆลิฟท์  มันจะเลื่อนปิดทุกครั้งที่ลิฟท์วิ่งลงผ่าน  นั่นหมายความว่าจะมีสิ่งนี้อยู่ถึง 99 ชิ้นเลยทีเดียว
               ลิฟท์จะมีอากาศเพียงพอเสมอ  ถึงแม้จะลงใต้ดินเรื่อยๆเพราะท่ออากาศติดอยู่ข้างๆลิฟท์นั่นเอง  
               ส่วนชั้นล่างสุด มีอุปกรณ์บรรจุอากาศ ที่จะทำให้คนสี่คนอาศัยอยู่ได้  2 เดือนแบบสบายๆ  เครื่องปันไฟที่มโหฬารมีใช้แบบไม่อั้น
เหตุผลในการสร้างนะหรือเพื่อ..
                คิดอะไรอยู่หรือค่ะคุณ  
                 เสียงภรรยาดังขึ้น ปลุกให้ ดร.ทนงตื่นจากภวังค์
                อ้อ..คิดถึงพรุ่งนี้ว่าจะเป็นยังไง ตอบพร้อมทำท่าครุ่นคิด
                 เอาล่ะถึงแล้วจ๊ะลูก 
                  ผู้เป็นพ่อหันไปบอกลูกสาว
                 เย้..สวยจังค่ะ  แพทชอบจังเลย 
                  ลูกสาวตัวน้อย ดีใจออกหน้าออกตา  กระโดดโลดเต้นไปมา  ผิดกับสีหน้าของพ่อและแแม่  ที่วิตกกังวลอย่างเห็นได้ชัด
........................................................................................................................
               
                 อือ...ถึงแล้วหรือนี่
                  ศ.มหิธิ  ขยี้ตามองดูรอบๆ ปลดสายนิรภัย ก่อนลุกไปปลุกลูกทีม
                  มากๆ! ดร.ๆ! ตื่นได้แล้ว เราถึงที่หมายแล้ว 
                   เขย่าตัวคนโน้นทีคนนี้ที
                 ถึงแล้วหรือครับ ผมกำลังฝันดีอยู่เลย 
                   ศ.มากปลดสายนิรภัยก่อนหันไปมองคนหนุ่มซึ่งก็กำลังขมักเขม้นปลดสายนิรภัยเหมือนเขา

                   โอ.....คุณพระช่วย
                   เสียง ศ.มหิธิ ร้องด้วยน้ำเสียงตกใจ  ทั้งสองคนที่เหลือจึงรีบไปที่หน้าคอมพิวเตอร์
                   3025 ทั้งสองอุทานพร้อมกัน  จะไม่ให้พวกเขาตกใจได้ยังไง ก็ในเมื่อตอนมา ตั้งจุดมุ่งหมายที่ พ.ศ. 4000  
                   นี่มันเดินทางผิดพลาดตั้ง 975 ปีทีเดียว!
                   ไปเล่าให้ใครเขาฟังอายเขาตาย  ทั้งสามนั่งคิดหนัก ต่างก้มหน้าใช้ความคิด 
                   เอายังไงดีครับท่านศาสตราจารย์ 
                    ดร.ทนงทำลายความเงียบ มองผู้อาวุโสคนโน้นทีคนนี้ที
                    เอาไงคุณมหิธิ ผมมึนไปหมดแล้ว
                    ศ.มากมองหน้าผู้ถูกถามอย่างขอความเห็น
                   อือ.....เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน  ไหนๆก็ไหนๆ  เราก็ลงไปสำรวจดูซักนิดก็แล้วกัน ยังไงก็ถือว่าเราประสบผลสำเร็จในระดับหนึ่ง" 
                   "ฮ่าๆ  นี่เราสามารถผ่าเวลามาสู่อนาคตได้จริงๆศ.มหิธิหัวเราะเสียงดังออกมา  หลังจากเงียบไปนาน 
	ทั้งสามจึงออกสำรวจด้านนอก พ.ศ.3025 	และผลก็คือพวกเขาสามารถหาที่พักบริเวณนั้นได้  พ.ศ.3025 นี้  มีสภาพที่ไม่ต่างจากพ.ศ.3000ที่พวกเขาอาศัยอยู่มากนัก เนื่องจากห่างกันเพียง 25 ปี
	เป็นไง ดร.ทนง กลับไปที่สถาบันวิจัยของเรามีคนจำคุณได้ไหม  ผมขำตัวผมเองมาก หัวล้านไม่มีผมซักเสันน่าเกลียดมากๆ  แปลกจัง 
                     ศ.มหิธิบ่นอึบ
	อ้อ....ไม่มีใครจำได้เลยครับ และที่น่าแปลกใจก็คือ ผมในอนาคตไม่อยู่ในสถาบันวิจัย   เห็นเขาว่ากันว่า  ผมในอนาคตระยะหลังไม่รู้หายไปไหน 
                      ดร.ทนงสงสัยว่าในอนาคต(พ.ศ.นี้)เขาไปอยู่ไหน ทำอะไรอยู่
	คุณล่ะ ศ.มาก เป็นไงบ้าง ศ.มหิธิหันไปถามอีกคน
	ฮ่าๆ ผมก็ไม่ต่างจากคุณหรอก  หัวล้านไม่มีผมซักเส้น  หน้าดำคร่ำเครียด  แถมตื่นกลัวตลอดเวลาเหมือนกลัวอะไรซักอย่าง  ท่าทางเหมือนไม่ได้นอนมาซัก 5,6 ปี ได้มั้ง ผมใน พ.ศ.นี้เป็นอะไรนะ



วัน อังคาร ที่ 20 เดือน มกราคม พ.ศ. 3025  เวลา 18.00 น.

                     ศาสตรจารย์ครับ  มาดูอะไรนี่เร็วครับ!  
                       เสียง ดร.ทนง ร้องเสียงดังลั่น  ทำให้คนที่ได้ยินเสียงทั้งสองคน  ต้องเรียบวิ่งตามเสียงเรียกทันที
                      ข่าวด่วน! สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า  ขณะนี้มนุษย์กำลังเผชิญกับมหันตภัยครั้งใหญ่  มหันตภัยครั้งนี้เกิดขึ้นในประเทศที่เริ่มรับอรุณยามเช้า "
                     แสงสว่างซึ่งเคยให้ประโยชน์กับมนุษย์  กลับกลายเป็นแสงสีดำ มีอนุภาพทำลายทุกสิ่งทุกอย่างจนสิ้นซาก  มีความร้อนที่ประมาณกันว่า ร้อนถึงล้านองศา  ขณะนี้ประเทศซีกโลกตะวันตก  ถูกทำลายไปเกือบจะห้าสิบเปอร์เซนต์แล้ว ตอนนี้เหลือเพียงบางส่วนและซีกโลกฝั่งเราเท่านั้น"
                 "ดังนั้น ตอนนี้ใครจะหนีตายยังไงก็รีบทำนะครับ  ก่อนที่แสงแดดสีดำจะมาถึง จบข่าว ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวไทยรายงาน 
                  จากนั้นนักข่าวที่รายงานเสร็จ ยังไม่ทันจะสวัสดีก็รีบวิ่งออกจากห้องส่งทันที
                   ข่าวทุกช่องเริ่มส่งภาพที่ถ่ายข้ามประเทศ  ซึ่งสามารถเห็น แสงสีดำ ได้อย่างชัดเจน  
                  ภาพที่ผู้คนกำลังวิ่งหนีตายกันอลม่าน
                   ภาพของตึกรามบ้านช่องที่ถูกทำลายราบเหลือแต่ฝุ่นผง  เพราะความร้อนเป็นล้านองศา  
                  ช่างเป็นภาพที่โหดร้ายยิ่งนัก 
                  ธรรมชาติทำไมทำกับมนุษย์อย่างนี้
                   ทั้งสามสะดุ้งโหย่งเริ่มเข้าใจแล้วว่า  ทำไมพวกเขาใน พ.ศ นี้  ถึงต้องหัวล้าน  ถึงต้องเป็นโรคกลัวอย่างไม่มีเหตุผล	
                 ทำยังไงดีครับ ทำยังไงดี
                   ดร.ทนงดูจะลนลานกว่าผู้อาวุโสทั้ง
                  เอาๆใจเย็นๆดอกเตอร์  ผมว่าเอาอย่างนี้นะศ.มหิธิ ดร.ทนง การที่ผมได้เห็นตัวผมในอนาคตที่อยู่ในพ.ศ.นี้ ทำให้ผมเชื่อว่าเราต้องรอดกลับไปยังที่เรามา 
                ดังนั้น ตอนนี้สิ่งที่เราต้องทำ คือ  กลับไปนั่งอยู่ในยานผ่าเวลา จิบกาแฟร้อน แล้วนั่งดูภาพของแสงแดดสีดำ  ที่กำลังทำลายโลกมนุษย์อย่างไม่ปรานี เก็บข้อมูลให้ได้มากที่สุดก่อนเช้า และรอจนถึงวินาทีสุดท้าย  ให้เห็นกับตาว่าประเทศของเรา โลกของเรา ได้ถูกทำลายจริงแล้วเราค่อยไป
                 ศ.มาก ออกความเห็นยาวเหยียด ฟังดูแล้วมีเหตุผล อีกสองคนนั่งเงียบกริบคิดตาม
                  ทั้งสามตกลงใจที่จะอยู่จนถึงเช้า เพื่อให้แน่ใจว่าสิ่งที่พวกเขาเห็นทางโทรทัศน์คือเรื่องจริง
........................................................................
                    อ้ากๆๆ
                    คุณๆเป็นอะไรคะ 
                    เสาวนีปลุกสามีที่ร้องลั่นทั้งที่ยังไม่ตื่น เธอปลุกสามีกลางดึกทุกคืนอย่างนี้เป็นเวลา 24 ปีกว่าแล้ว  
                   เขาฝันร้ายทุกคืน ฝันซ้ำๆแต่เรื่องเดิม ๆ
                   เวลา 24 ปีกว่านั้นจริงๆมันจะครบ 25 ปีเต็มในวันพรุ่งนี้
 เพราะพรุ่งนี้คือ วัน พุธ ที่ 21 เดือน มกราคม พ.ศ. 3025  
	ฝันเรื่องเดิมอีกแล้ว
                       ดร.ทนงตอบภรรยา เหงื่อไหลย้อย อย่างน่าสงสาร
	เวลาเท่าไหร่แล้วคุณ
                      เช็ดเหงื่อเสร็จ หันมาถามภรรยา	
	 6 โมงเช้าแล้วคะ
                      เสียงตอบเบาๆ  ทำให้คนถามหัวใจแทบหยุดเต้น
	 งั้นก็...อีก 5 นาทีแล้วซิ 
                     เหงื่อที่เช็ดเมื่อกี้เริ่มไหลอีก
	เราจะรอดไหมคะ
                      ภรรยาถาม 
	รอดซิ  เราต้องรอด
                       ตอบเอาใจภรรยา  
                       ทั้งที่เขาก็ไม่มั่น ใจนัก  เพราะจากการศึกษา  การเกิดแดดดำอยู่หลายปี  ทำให้เขารู้ว่า แดดดำคือสารพิษที่มนุษย์สร้างขึ้น 
                       ไม่ว่าจะเป็นสารกัมมันตภาพรังสีที่ทดลองขีปนาวุป หรือทดลองระเบิดนิวเครียร์  สารซีเอฟซี  คาบอนมอนออกไซด์และสารพิษอื่นๆอีกมากมาย  ลอยไปเกาะตัวกันในอากาศ  รวมตัวกันมาเป็นพันๆปี 
                    และวันหนึ่งสารเหล่านี้ก็จะทำปฏิกิริยากัน แล้วแตกตัวผสมกับแสงแดดเป็นเนื้อเดียวกัน จนกลายเป็นแดดดำ มีอนุภาคการทำลายล้าง โดยวิธี ที่สารเหล่านั้นจะแตกตัวทำให้แดดดำมีความร้อนสูงถึงล้านองศาทีเดียว
                     และวันนี้คงจะเป็นวันพิพากษาโลก  
                     จากน้ำมือมนุษย์บนดิน เองไม่รู้จะเสียใจหรือสมน้ำหน้าดี 
                     ขณะนี้เวลา หกนาฬิกาห้านาที 
                      นาฬิกาที่ตั้งปลุกตั้งขึ้น
                     คุณ...
                     วูบๆๆโครมๆๆๆ

(ที่เครื่องผ่าเวลาเดินทางไม่ถึง พ.ศ. 4000 เพราะหลัง พ.ศ.3025 ไม่ปรากฏว่ามีมนุษย์อยู่เลย เครื่องนี้  สร้างเพื่อสำรวจความเป็นอยู่ของมนุษย์ เท่านั้น)




				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟรักษ์บุญ เสาวณีย์
Lovings  รักษ์บุญ เสาวณีย์ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟรักษ์บุญ เสาวณีย์
Lovings  รักษ์บุญ เสาวณีย์ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟรักษ์บุญ เสาวณีย์
Lovings  รักษ์บุญ เสาวณีย์ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงรักษ์บุญ เสาวณีย์