12 พฤศจิกายน 2547 23:57 น.
ระเบียงดาว
เธอรู้ไหม ? ดาว...พระจันทร์...พระอาทิตย์ สิ่งสำคัญที่สุดคือสิ่งใด ? คำถามไม่ว่าใครก็ตอบว่า พระอาทิตย์อย่างแน่นอน ความยิ่งใหญ่ ความส่องสว่าง ความอบอุ่นของพระอาทิตย์เป็นที่หนึ่งและมีเพียงหนึ่งเดียวที่ไม่สามารถหาสิ่งใดมาทดแทน แต่ก็อีกนั้นแหละ......บางครั้งคนเราก็หลงเข้าใจผิดไปว่า ดวงดาวนั้นยิ่งใหญ่ หรือพระจันทร์นั้นสำคัญที่สุด ซึ่งหากชีวิตเราดังท้องฟ้าที่ว่างเปล่ามีเพียงความมืดเท่านั้น แสงสว่างที่ปรากฏบนท้องฟ้าดวงแรกย่อมให้ความรู้สึกสุกสว่างที่สุด และนั้นก็จะกลายเป็นแสงที่ยิ่งใหญ่และสำคัญที่สุด แต่หากวันใดเราพบแสงที่สว่างกว่า เราก็จะเห็นว่าแสงที่ผ่านมาเป็นเพียงดวงไฟเล็กๆบนฟากฟ้า คงเหมือนที่เธอได้พบกับความรัก ในครั้งแรกดูทุกสิ่งทุกอย่างยิ่งใหญ่ สำคัญ เมื่อต้องสูญเสียไปก็เจ็บปวดดั่งแสงสว่างในชีวิตดับไป หมดความหวังกำลังจะเดินต่อไป แต่เมื่อเวลาผ่านมาเธอได้พบความรักที่ยิ่งใหญ่กว่า สำคัญกว่า เธอจะพบว่าเรื่องราวที่ผ่านเป็นเพียงความสุข ความทุกข์ที่เล็กน้อยซึ่งไม่แตกต่างกับแสงแรกที่เธอเจอและคิดว่าเป็นแสงตะวัน เมื่อเวลาผ่านไปมันอาจกลายเป็นเพียงแสงดาว และแสงที่เจอในตอนนี้......ไม่แน่ในอนาคตอาจกลายเป็นแค่แสงจันทร์ เธออาจไม่รู้ว่าต้องผ่านดาวสักกี่ดวง ผ่านดวงจันทร์สักกี่หน แต่ที่เธอมั่นใจได้แน่คือ......เมื่อถึงตอนสุดท้ายเธอจะต้องได้พบพระอาทิตย์พระอาทิตย์ที่แท้จริง ยิ่งใหญ่และสำคัญที่สุดเพียงหนึ่งเดียวของเธอ อย่าปล่อยให้ท้องฟ้าต้องโศกเศร้ากับแสงสว่างเล็กน้อยที่ลาลับไป ขอเพียงเธอก้าวเดินต่อไปแล้วแสงทองของดวงอาทิตย์ก็ต้องค่อยๆปรากฏบนท้องฟ้าของเธออย่างแน่นอน
สิ่งแรกที่เจออาจไม่ใช่สิ่งที่ดีที่สุด.........สิ่งสุดท้ายต่างหากที่ดี และสำคัญที่สุดในชีวิต
12 พฤศจิกายน 2547 23:43 น.
ระเบียงดาว
อยากรู้ไหม?....ทำไมนาฬิกาทรายต้องมี 2 ด้าน แล้วทำไมต้องมีด้านหนึ่งเต็มด้านหนึ่งว่างเปล่า?........เธอรู้ไหมทำไม ฉันก็ไม่รู้ รู้แค่ทุกครั้งที่พลิกนาฬิกาทราย ทรายแต่เม็ดก็จะไปรวมกันเสมอ ไม่ว่าพลิกกี่ครั้งก็เหมือนเดิม เธอเคยได้ยินไหมว่า...นาฬิกาทรายคือความรักแบบหนึ่ง แบบที่ไม่มีวันหมดเวลา เพราะความรักจะไหลเวียนวนอยู่ในขวดแก้วตลอดเวลา แต่ก็คนสงสัยว่าจะเป็นความรักที่มีความสุขแน่เหรอ? ในเมื่อต้องมีด้านหนึ่งที่ว่างเปล่า ในขณะที่อีกด้านหนึ่งเต็ม นั่นก็จริงอยู่ แต่ในตอนแรกของความรักนั้นนาฬิกาทรายไม่ได้ตั้งตรงหรอก แต่นอนกลิ้งอยู่บนพื้น แต่ละด้านของนาฬิกาจะมีทรายที่เท่ากัน มีส่วนที่ขาดเท่ากัน ยังหาจุดเชื่อมของแต่ละด้านยังไม่เจอ รอเวลาให้มีคนจับมันตั้งขึ้นแล้วทรายแต่ละเม็ดก็ค่อยไหลลงไปรวมกัน ทรายจากอีกด้านหนึ่งไปเติมเต็มอีกด้านหนึ่ง.....สุดท้ายแล้วทรายทั้งหมดก็รวมกันเป็นหนึ่ง เมื่ออีกด้านหนึ่งขาด ทรายอีกด้านก็จะไหลไปเติมอีกด้านให้เต็มเป็นอย่างนี้เรื่อยไป เหมือนความรักที่ผลัดกันเติมในส่วนที่ขาดหายของกันและกัน มีฝ่ายรับและมีฝ่ายให้ตลอดเวลา เริ่มด้วยพรหมลิขิต สานต่อด้วยความเข้าใจ....ใส่ใจ.....ให้ความรักได้ส่งให้กันเสมอไป เมื่อใดที่ความรักขาดหายนั้นก็หมายถึงนาฬิกาทรายนั้นได้ดับสูญ เธอหานาฬิกาทรายของเธอเจอหรือยัง? ไม่ใช่เป็นคนที่ให้ทั้งที่สูญเปล่ามีแต่เหนื่อยใจไปวันๆ หรือเป็นคนรับแต่ไม่มีเยื่อใยใดๆเกิดขึ้นเลย อย่าอยู่กับคนที่เธอไม่ได้รัก อย่ารักคนที่เขาไม่รักเธอต่อไปเลย แต่จงรอเถอะ....รอส่วนที่เติมเต็มเธอได้ เขากำลังเดินตามเข็นนาฬิกามาหาเธอ.....คนที่เขารักเธอได้เหมือนๆกับที่เธอรักเขา