2 ตุลาคม 2551 02:58 น.
รอยทาง
ฉันมีโอกาสเอาตุ๊กตางานฝีมือ ที่นั่งทำยามว่างๆ ฆ่าเวลาไม่ให้ทิ้งไปโดยเปล่าประโยชน์ ไปโชว์ในงานของสมาคมแห่งหนึ่ง แยกบูทแล้วแต่ใครสนใจ แต่เมื่อตุ๊กตาของฉันมันโดนใจเด็ก
เด็กผู้หญิงผมสีทองวัยสองขวบกว่า เธอวิ่งมาที่บูทตั้งโต๊ะตุ๊กตา ใช้มือแย่งจับเอาตุ๊กตาแต่ละตัวเพื่อเอามาเป็นของตัวเอง โดยมีคุณแม่คอยวิ่งแย่งเอาจากในมือลูกสาวกลับมาคืนให้ แต่ดูท่าทางหนูน้อยไม่ยอม เธอวิ่งไปวิ่งมาจะเอาตุ๊กตาให้ได้ คุณแม่จึงถามซื้อ แต่ในวันนั้นเรามีกฎกติกาว่าห้ามขายสินค้า เพื่อให้เอามาโชว์เพื่อโปรโมทในการออกขายในครั้งต่อไป
คุณแม่จึงจูงมือลูกสาวไปยังบูทอื่นๆ แต่แล้วเธอก็วิ่งหลบมาแย่งเอาตุ๊กตาอีกกลับไปกลับมาหลายรอบ ทุกคนยืนดูไม่พูดอะไร คุณแม่ของเด็กก็วิ่งไล่จับแย่งเอาตุ๊กตามาคืนดูจะวุ่นวายไปกันใหญ่ จนต้องจูงมือลูกสาวออกจากงานไป
ทำไมนะ ทำไม ทำไมฉันถึงไม่ให้ตุ๊กตาแก่เด็กผู้หญิงผมสีทองคนนั้นไปฟรีๆ ทั้งที่ฉันเองก็ทำแจกเด็กๆ คนอื่นไปก็มากมายโดยไม่คิดสตังค์สักบาทเดียว ฉันคิดตั้งคำถามกับตัวเอง กลับบ้านมานอนคิดอยู่หลายวัน คิดถึงหน้าเด็กผู้หญิงที่วิ่งแย่งอยากได้ตุ๊กตา ว่าทำไมฉันถึงไม่บอกแม่ของเธอว่าฉันอยากให้เพราะอะไรเป็นคำถามที่ค้างคาอยู่ในใจ บางครั้งทำไมเราเคยหยิบยื่นให้กับเด็กคนอื่นได้ง่ายดาย แต่กับเด็กผู้หญิงคนนี้ทำไมถึงไม่ทำเช่นนั้นเหมือนมีอะไรมาขวางกั้น
คุณแม่และหนูน้อย มีบุคลิกท่าทางการแต่งตัวดูดีมาก น่าจะเป็นผู้มีฐานะร่ำรวย ตุ๊กตาที่แม่หนูถืออยู่ในมืออีกข้างเอามาแนบไว้ที่อกของเธอราคาน่าจะแพงมีเบรนด์เนมการันตีอีกด้วย เช่นกันเธอคงจะมีโอกาสได้เล่นตุ๊กตาตัวอื่นๆ อีกมากมาย จึงคิดว่าหากตุ๊กตาที่ทำนี้ได้หยิบยื่นให้กับเด็กที่ด้อยโอกาสกว่าเธอ พวกเขาคงมีความสุขไม่น้อย เพราะบางคนอาจไม่มีโอกาสที่จะได้เล่นมันเลย
อยากถามว่า ฉันคิดถูกหรือผิด และใจดำเกินไปกับเด็กผู้หญิงคนนี้หรือไม่