28 ธันวาคม 2555 01:34 น.
รงค
ในเวลาคิดถึงใครคนหนึ่ง
จึงรู้ซึ้งถึงรักและห่วงหา
เก็บเวลาเก่าเก่าพรรณนา
ถึงคุณค่าครั้งนั้นที่เสียไป
ในอารมณ์เหงาเหงาที่เฝ้าหลอน
ต้องทอดถอนลมหายใจจนสั่นไหว
ส่วนลึกลึกนึกถึงเมื่อครั้งใด
ร้าวทรวงในเสียจริงอย่างเสียดาย
เป็นความผิดที่ควรให้ปวดร้าว
กับเรื่องราวเก่าก่อนมากความหมาย
อัญมณีแสนดีปล่อยมลาย
คงจะสายเกินคว้ากับคืนมา
ทอดถอนใจในคืนที่ฝืนนั่ง
เพียงประทังความเศร้าตามประสา
ราตรีนี้มีเพียงดวงดารา
ปลอบโยนข้าให้คลายหายทุกข์ใจ
ลมแผ่วแผ่วพัดมาจากไกลโพ้น
หวังปลอบโยนข้าให้ได้สดใส
แต่ความเหงาเผาข้าอยู่ข้างใน
คงยากให้หายเศร้าอย่างเดียวดาย
ทอดถอนใจไปเถิดเจ้าใจเอ๋ย
ในเมื่อเคยสร้างแผลเขาหลากหลาย
เจ็บเสียบ้างจำไว้แม้ไม่ตาย
แต่ก็คล้ายแค่ร่างไร้วิญญาณ
น้ำตาเอ๋ยเจ้าคงอยากร่วงไหล
หวังปลอบใจให้ข้าด้วยสงสาร
ไหลมาเถิดไหลมาให้นานนาน
เผื่อสมานแผลใจให้หายที
หลับเสียเถิดหลับได้เสียทีแล้ว
ลมแผ่วแผ่วพัดมาอย่าหลบหนี
อย่าปล่อยข้าต้องอยู่ในราตรี
ที่เจ็บนี้ยอกย้อนหลอนข้าเลย ฯ
๒๘ ธันวาคม ๒๕๕๕
17 ธันวาคม 2555 15:27 น.
รงค
ในบางครั้งบางคราวหลงทางผิด
ใช้ชีวิตฟุ้งเฟ้อลืมนึกถึง
อดีตกาลผ่านไปไม่รำพึง
เสียดายซึ่งเวลาที่พลาดไป
เพราะมัวหลงงมงายสิ่งสวยงาม
จึงมองข้ามวิถีด้วยหลงใหล
ภาพมายาเย้ายวนชวนติดใจ
ก้าวตามไปไร้สติและทิศทาง
สร้างตัวตนจนเกินจะหยุดยั้ง
มัวแต่หวังอนาคตสุดขัดขวาง
ระเริงร่ารับไว้มิอำพราง
สมดั่งอ้าง ช้างขี้ขี้ตามมัน(ช้าง)
มัวสร้างภาพมายาให้ตัวตน
คอยเปรอปรนความสุขแสนเพ้อฝัน
จึงเห็นผิดเป็นชอบอยู่นิรันดร์
ไร้ทางกั้นให้พ้นจากทุกข์ภัย
เมื่อมาถึงปลายทางความเป็นจริง
แล้วทุกสิ่งปรากฏเกินรับไหว
มายาภาพลวงตาพาเกินไกล
ผลนั้นไซร้น่ากลัวอย่ามัวเพลิน
อย่ามัวหลงระเริงความฟุ้งเฟ้อ
เมื่อเจอะเจอจะลำบากใช่ผิวเผิน
อย่าหลอกใจตัวตนจนยากเกิน
เพียงเพลิดเพลินชีวิตติดสังคม
มีสลึงพึงบรรจบให้ครบบาท
อย่าประมาทอนาคตอันสุขสม
เตือนสติรอบคอบไว้ชื่นชม
ค่านิยมฟุ้งเฟ้ออย่าเผลอทำ
อันช้างขี่ขี่ตามช้างอย่างเขาว่า
อนิจจามนุษย์สุดแสนขำ
ตัวกระจิดฤทธิ์ใดใครชี้นำ
จึงคอยซ้ำชีวิตให้ผิดไป
เตือนสติตนเองก่อนจะสาย
ความวุ่นวายฟุ้งเฟ้อควรแก้ไข
ความพอเพียงเยี่ยงอย่างมีถมไป
เมื่อทำได้สุขเกษมแสนเปรมปรีด์
15 ธันวาคม 2555 13:22 น.
รงค
ย้อนความหลังจำอดีตมาขีดเขียน
ยังวนเวียนเพียรหามองไม่เห็น
อยากฝากถ้อยร้อยคำทั้งเช้าเย็น
ยากแสนเข่นเช่นลมซมหาดาว
หากลมเห็นดาวนั้นอยู่ฟ้าไหน
ช่วยบอกให้รู้ด้วยในคืนหนาว
ยังมีใครคนหนึ่งตรึงติดราว
น้ำตาพราวพรั่งพรูจากดวงตา
ต้องหวนจิตย้อนหลังครั้งสดใส
ดาวไสวให้เห็นเด่นหนักหนา
แต่บัดนี้ลมเอ๋ยไร้ดารา
ความเมตตาของดาวช่างน้อยลง
วานสายลมแสงจันทร์วันพบดาว
บอกเรื่องราวเล่านี้ที่พิษสง
ของอดีตครั้งหลังในดอยดง
เจ็บเจียนจบจมลงสู่ก้นบึง
ลมเจ้าเอ๋ยขอวานฝากข่าวหน่อย
ช่วยพัดลอยข้ามฟ้าความคิดถึง
บอกกับดาวดวงนั้นที่ฉุดดึง
ใจดวงหนึ่งล่องรอยคอยแลมอง
กาลเวลาแม้ผ่านสักเท่าไร
ด้วยหัวใจแน่วแน่ต้องกลัดหนอง
ฝังดวงจิตจมดิ่งถูกจำจอง
ขอลมล่องพัดพาข้าฟื้นคืน
อดีตกาลบางครั้งแสนสวยงาม
แต่เมื่อยามทุกข์ตรมสุดจะฝืน
เจ็บแสนเจ็บเหน็บหนาวต้องกล่ำกลืน
อยากฝันตื่นพบพานดาวหัวใจ
หนาวจนเจ็บเก็บอดีตมาขีดเขียน
เป็นบทเรียนความจำครั้งสดใส
ปล่อยอารมณ์ลอยล่องท่องเที่ยวไป
ตราบหัวใจมั่นคงและนิรันดร์
13 ธันวาคม 2555 23:37 น.
รงค
อย่าเสียใจไปเลยหัวใจเอ๋ย
เพียงเจ้าเคยต้องพบความผิดหวัง
แม้อดีตกรีดบางเพียรระวัง
อาจพลาดพลั้งครั้งใหม่ให้ลมลวง
รักดั่งลมลอยล่องพลิ้วแผ่วแผ่ว
พอผ่านแนวภักดีให้ห่วงหวง
แล้วพัดเลยผ่านไปให้ช้ำทรวง
เจ็บจนล่วงลงดินแทบสิ้นใจ
เพียงลมรักทักทายในครั้งนั้น
เก็บความฝันสวยงามยามสดใส
ลมแผ่วแผ่วพัดมาพาฤทัย
สุขหวั่นไหวพริ้มพรายคล้ายสายลม
เก็บความสวยสายลมไว้ชมชื่น
แม้ขมขื่นครวญคร่ำให้ทับถม
ยังยินเสียงพระพายทักทายชม
ดั่งสุขสมแล้วทิ้งเกลือกกลิ้งใจ
รักเคยพัดผ่านมาแล้วลาลับ
มิหวนกลับเลือนหายให้สงสัย
ใยไม่คล้ายกับลมเมื่อพัดไป
ยังหวนมาหาใหม่ได้ชื่นชม
อยากจะรักอีกครั้งจะได้ไหม
วอนลมพัดผ่านมาให้สุขสม
ชักพารักกับมาได้รื่นรมย์
วานสายลมหวนคืนอย่าร้างลา©