5 ตุลาคม 2554 14:22 น.
รงค
ฟ้าครึ้มฝนหล่นล่วงลงห่าใหญ่
ทั้งเหนือใต้ออกตกน้ำท่วมหนัก
ดีเปรสชั่นพัดมาน่ากลัวนัก
น้ำทะลักหลากไหลทั่วธานี
ทั้งแม่น้ำลำคลองทุกหย่อมหญ้า
น้ำไหลบ่ามากันตามวิถี
เอ่อท่วมทุ่งท้องนาเป็นวารี
ทุกชีวีหนีน้ำกันปางตาย
ทั้งทุ่งนาสัตว์เลี้ยงเสี่ยงเจ๊งหมด
สุดสลดหมูหมาลอยน้ำหาย
ปลาในน้ำเลี้ยงไว้ยังวอดวาย
ข้าวจมตายสายน้ำนำพาจน
เกิดอะไรใครเล่าเข้าใจบ้าง
วิถีทางมนุษย์สุดโกลาหล
ธรรมชาติพาลโกรธลงโทษคน
ให้สับสนอลหม่านด้วยวาตภัย
ด้วยน้ำมือมนุษย์สร้างกันหรือ
อะไรคือคำตอบต้องถามไถ่
ใครทำลายป่าไม้ให้หมดไป
ทุกข์จึงได้ย้อนมาหาเราเอง
จากทางน้ำธรรมชาติปราศทางขวาง
มนุษย์สร้างถนนมาข่มเหง
ดินนำถมท้องนาอลเวง
มิกลัวเกรงกงล้อวิบัติภัย
ยังมากมายธรรมชาติสร้างสรรค์ไว้
มนุษย์ไซร้ใช้เหลี่ยมทำเฉไฉ
รุกทำลายล้างกันบรรลัยไป
มิสนใจรุ่นหลังลูกหลานเรา
หยุดเถิดหยุดทำลายธรรมชาติ
ทั้งอากาศป่าไม้และภูเขา
อนุรักษ์กันไว้ให้นานเนา
เรื่องหน้าเศร้าเล่านี้จะหยุดทวง
ฟ้าครึ้มฝนหล่นล่วงลงห่าใหญ่
แต่น้ำใจไทยนั้นยังใหญ่หลวง
ร่วมมือรักสามัคคีใจทุกดวง
ให้หลุดช่วงเลวร้ายทั้งหลายลง
ธารน้ำใจจากทั่วสารทิศ
ร่วมรวมจิตเจือจุนหนุนประสงค์
คนละเล็กละน้อยเอื้อเผ่าพงศ์
ปลดทุกข์ลงภัยน้ำอย่าลามเลย
8 สิงหาคม 2554 12:10 น.
รงค
๑. อ้อมกอดแม่แผ่ไว้ซึ่งไออุ่น
คอยเกื้อหนุนจุนเจือไร้เงื่อนไข
แม่ฟูมฟักรักลูกปานดวงใจ
เฝ้าห่วงใยอาทรเสมอมา
๒. ยากลำบากตรากตรำขนาดไหน
มิบ่นให้ได้ยินสิ้นเสน่หา
ทะนุถนอมกล่อมเกลาเฝ้าเมตตา
เลี้ยงลูกยาเติบใหญ่ได้ดิบดี
๓. แม้ทนทุกข์อุ้มท้องนานหลายเดือน
มิแชเชือนเบือนจิตคิดหน่ายหนี
รักถนอมกล่อมครรภ์เฝ้าพัดวี
ด้วยชีวีแม่พร้อมยอมทุกข์ทน
๔. เมื่อเยาว์วัยเจ้าเล็กไร้เดียงสา
แม่เหน็ดเหนื่อยกายาหาสับสน
เลี้ยงลูกน้อยนั้นยากลำบากลำบน
ก็ดิ้นรนทนสู้อยู่เรื่อยมา
๕. ตื่นแต่เช้าเข้าครัวกลัวลูกหิว
แม่วิ่งลิ่วเวียนวนเข้าค้นหา
ให้ลูกน้อยพลอยอิ่มกินข้าวปลา
ทุกเวลาแม่คอยเฝ้าระวัง
๖. คอยสั่งสอนตอนเยาว์ให้เข้าใจ
เป็นผู้ใหญ่ที่ดีนี้แม่หวัง
ทุกย่างก้าวปัญหาคอยประทัง
เป็นที่ตั้งรอลูกอยู่ทุกคราว
๗. พอเติบโตขึ้นหน่อยพลอยห่วงหา
กลัวลูกยาบาดเจ็บหรือเหน็บหนาว
เครื่องนุ่งห่มเสื้อผ้าหลากเรื่องราว
จึงงดสาวงดสวยด้วยแม่ยอม
๘. จนเติบใหญ่ได้งานการหน้าที่
แม่คนนี้ดีใจใช้หล่อหลอม
ยังประหยัดมัธยัสถ์และอดออม
แม่เตรียมพร้อมเผื่อไว้ไม่ลืมเลือน
๙. พระคุณแม่แผ่ไว้กว้างไพศาล
เกินกล่าวขานพรรณนาหาใดเหมือน
ควรรีบเร่งทดแทนอย่าแชเชือน
จงคอยเตือนตนไว้ก่อนสายเกิน
8 มกราคม 2554 17:31 น.
รงค
เราจะอยู่ต่อไปในสิ่งหวัง
ด้วยเรี่ยวแรงพลังรักสดใส
ธำรงชาติศาสนภูวไนย
พร้อมก้าวไกลไทยเราเผ่าร่มเย็น
จะกี่หมื่นกี่ล้านอริชาติ
หากบังอาจมาดร้ายกรายให้เห็น
ขอพร้อมตัวยอมตายเลือดกระเซ็น
แม้ต้องเป็นเช่นไรไม่หวั่นกลัว
จะรักชาติจวบจนสิ้นลมข้า
ขออาสาปกป้องเจ้าเหนือหัว
แม้สิ้นชีพพลีกายถวายตัว
เหล่าคนชั่วอย่าหมายทำลายไทย
เราคนไทยใยยังห้ำหั่นกัน
ต้องฟาดฟันบรรลัยกันถึงไหน
ลืมแล้วหรือลูกหลานเหลนโหลนใคร
แล้วทำไมใจคอคอยฟาดฟัน
หยุดกันเถิดพี่น้องพ้องไทยเอ๋ย
อย่าละเลยหน้าที่ที่สร้างสรรค์
กลับหันหน้ามาเถิดมารักกัน
ให้ราชันภูมิพลทรงพระเจริญ
8 มกราคม 2554 17:10 น.
รงค
เป็นมนุษย์ปุถุชนคนบนโลก
ต่างมีโศกมีเศร้าเคล้าสุขสันต์
อาจถูกผิดคิดแยกแตกต่างกัน
ล้วนมีฝันบรรเจิดเลิศทุกคน
บางเวลาพลั้งพลาดเพราะไผลเผลอ
ด้วยเลินเล่อเหลวไหลใจสับสน
จึงเป็นเหตุซุ่มซ่ามทรามอับจน
ให้หมองหม่นหนทางชนะภัย
การกระทำบางครั้งหวังวาดสูง
พลอยชักจูงจิตเวียนเปลี่ยนวิสัย
จากหนักแน่นมั่นคงหลงตามใจ
จนเผลอไผลให้ร้ายทำลายตน
เมื่อหนทางขวางหน้าอับแสงสี
พลอยขวัญหนีดีฟ่อโกลาหล
คำนวณการขาดสติตื่นร้อนรน
จึงอับจนผลการกระทำดี
หากปล่อยว่างวางจิตคิดถี่ถ้วน
ด้วยทบทวนส่วนพ่ายอย่าหน่ายหนี
อย่าเที่ยวโกรธโทษใครให้มากมี
ตนเตือนตนนั้นดีดีกว่าใคร
รู้อภัยให้ตนหนทางหนึ่ง
คือที่พึ่งพึงมีดีสดใส
ใช้สติชะล้างคราบภายใน
ให้หมดซากจากใจไกลห่างพลัน
เป็นมนุษย์ปุถุชนคนบนโลก
ล้วนผ่านโศกผ่านเศร้าเคล้าสุขสันต์
หากเรารู้อภัยให้แก่กัน
สิ่งที่ฝันนั้นอาจเกิดขึ้นเอง
1 สิงหาคม 2553 23:56 น.
รงค
เพราะมัวหลงงมงายอยู่ในรัก
จึงจมปลักดำดิ่งกลิ้งลงเหว
มิอาจฝืนฟื้นตัวจากชั่วเลว
ทุกอย่างล่มล้มเหลวเข้าเปลวไฟ
กระแสเลือดไหลเวียนจนร้อนรุ่ม
มรสุมโถมทับให้หมองไหม้
เหลือเพียงร่างซากหนึ่งซึ่งไร้ใจ
หมดอาลัยในโลกที่โศกตรม
จะขออยู่อย่างคนที่อ้างว้าง
จงเชิญสร้างรอยแผลให้สาสม
หากคิดว่าเรื่องนั้นอภิรมย์
จงชื่นชมต่อไปอย่าอาวรณ์
ขออยู่อย่างผู้แพ้ที่งมงาย
จนสุดท้ายปลายทางอนุสรณ์
เพราะว่ารักคือให้และอาทร
มิอาจถอนคืนได้แม้ร้าวราน