31 กรกฎาคม 2547 14:24 น.
ยโส
เมื่อเธอจากฉันไปในวันนั้น
ใจก็พลันหวิวหวั่นดั่งดับหาย
คล้ายกับว่าชีวิตใกล้ฝั่งตาย
ฝันมลายสลายสิ้นอินทรีย์
เหตุผลนั้นหรือคือการศึกษา
หรือไปหาคนอื่นจึงหลีกหนี
อยากจะบอกหลอกได้เลยคนดี
ชีวิตนี้ไร้ค่าสำหรับเธอ
เพียงพบหน้าแล้วบอกฉันลาก่อน
ก็สะท้อนเศร้าจิตคิดเสมอ
เมื่อไรหนอจะพบประสบเจอ
คนเลิศเลอสูงศักดิ์หักอกตน
บ่นกับฝนปนน้ำตาพาเศร้า
ลมฝนเบาพัดปลิวลิ่วล่องหน
เป็นนัยบอกออกมาว่าใจคน
ปลิว ลอย วน พริ้วไป ไร้จุดยืน
ยโส-โย-อรินครับ
25 มิถุนายน 2547 11:33 น.
ยโส
ไม่เจอหน้ากันนาน
เห็นเมื่อวานทำไม่ทัก
คิดว่าไม่รู้จัก
แอบนึกรักอยู่ในใจ
จู่จู่ก็ได้พบ
เธอหนีหลบไปแสนไกล
เหตุผลคืออะไร
ถามทำไมไม่รู้เลย
เห็นอยู่ว่าไม่รัก
ตัวเราจักทำแกล้งเฉย
คิดเสียว่าไม่เคย
ขอลงเอยกันด้วยดี
เจ็บปวดรวดร้าวจิต
ก็หยุดคิดอย่ารอรี
คงพอกันเสียที
กับรักนี้ที่เธอทำ
ยโส-โย อรินครับ
16 มิถุนายน 2547 14:20 น.
ยโส
เด็กตัวน้อยด้อยนักกับเดียงสา
ซ้ำวาจาไม่เพราะเสนาะหู
ผิดถูกไม่เคยรู้ว่าเป็นครู
เพราะว่าดูไม่ออกไม่บอกใคร
วัยของเจ้าเลยผ่านตามเวลา
ใจแขนขาแข็งแกร่งแรงยิ่งใหญ่
เรียน เล่น รัก ชักพา ว่ากันไป
ก้าวสู่ฝันที่ใฝ่ไม่ไกลเกิน
มาวันนี้จึงรู้ว่าครูนั้น
เฝ้ารำพันสอนสั่งไม่ห่างเหิน
ขู่ตะคอกหยอกล้อพอกระเทิน
แต่ไม่เมินเกินใครใช่แล้วครู
ศิษย์เรียนรู้เพราะครูนั้นสอนสั่ง
ส่งถึงฝั่งแห่งชัยใครก็รู้
ขอรำลึกนึกถึงผู้เป็นครู
จากเด็กน้อยกตัญญูรู้คุณคน
2 มิถุนายน 2547 15:17 น.
ยโส
ใยโทษพรหมลิขิต
ไม่เคยคิดถึงใครขนาดนั้น
ไม่มีวันจะเป็นไปได้แน่
ถึงทำได้ก็เป็นเพียงแค่
ความเที่ยงแท้ของใจที่โรยรา
ลมฝนแรงซัดสาดถาโถมใส่
ในใจไหวหวิวหวั่นพลันห่วงหา
วันที่จากเธอคล้อยคอยเวลา
จะกลับมาหากันฉันยินดี
ฝนเริ่มสาดกระหน่ำซ้ำลงมา
ล้างน้ำตาบางคนบนวิถี
เหมือนชะล้างความเศร้าที่เขามี
นับจากนี้คงคลายหายทุกข์ทน
ความจริงแท้แน่นอนของชีวิต
ใครลิขิตวาดไว้ใครผสม
ทั้งชั่วดีทุกข์สุขในตัวตน
นั่นเป็นผลดีชั่วที่ตัวทำ
ใยโทษลมฟ้าฝนพรหมลิขิต
คนแหละผิดคิดเองช่างน่าขำ
ผิดเป็นครูรู้ดีชี้ทางนำ
นี่เป็นคำวอนบอกไม่หลอกกัน
ในวันที่ฝนตกหนัก ลมก็แรง มองออกนอกหน้าต่าง คิดถึงใครบางคนขึ้นมาในทันที จึงได้เขียนบทกวีนี้ขึ้นมา
2 มิถุนายน 2547 13:15 น.
ยโส
ใยโทษพรหมลิขิต
ใยโทษพรหมลิขิต
ไม่เคยคิดถึงใครขนาดนั้น
ไม่มีวันจะเป็นไปได้แน่
ถึงทำได้ก็เป็นเพียงแค่
ความเที่ยงแท้ของใจที่โรยรา
ลมฝนแรงซัดสาดถาโถมใส่
ในใจไหวหวิวหวั่นพลันห่วงหา
วันที่จากเธอคล้อยคอยเวลา
จะกลับมาหากันฉันยินดี
ฝนเริ่มสาดกระหน่ำซ้ำลงมา
ล้างน้ำตาบางคนบนวิถี
เหมือนชะล้างความเศร้าที่เขามี
นับจากนี้คงคลายหายทุกข์ทน
ความจริงแท้แน่นอนของชีวิต
ใครลิขิตวาดไว้ใครผสม
ทั้งชั่วดีทุกข์สุขในตัวตน
นั่นเป็นผลดีชั่วที่ตัวทำ
ใยโทษลมฟ้าฝนพรหมลิขิต
คนแหละผิดคิดเองช่างน่าขำ
ผิดเป็นครูรู้ดีชี้ทางนำ
นี่เป็นคำวอนบอกไม่หลอกกัน
ในวันที่ฝนตกหนัก ลมก็แรง มองออกนอกหน้าต่าง คิดถึงใครบางคนขึ้นมาในทันที
จึงได้เขียนบทกวีนี้ขึ้นมา