9 กุมภาพันธ์ 2545 07:26 น.
ยุทธภูมิ สุวรรณเวช
ทะยานอยากมุ่งไปในภายหน้า
เพียงหวังว่าอนาคตจะสดใส
สิ้นเรี่ยวแรงไร้แสงทองสิ้นแรงใจ
ตัวเป็นไทใจเป็นทาสไม่ต่างกัน
จะรีดเลือดเท่าไรกับคนจน
ค่าของคนคุณคิดว่าน่าขบขัน
กระดกยกซดวิกซอลรวดเดียวพลัน
ทางตีบตันพรายฟองฟูน้ำลายฟูม
9 กุมภาพันธ์ 2545 07:26 น.
ยุทธภูมิ สุวรรณเวช
โคลงสี่สุภาพ
โกรธเกลียดกลืนเกลื่อนกล้ำ กดไว้ อกเอย
นึกนิ่งนานหนักไหน แน่แล้ว
ตราชูชั่งเตือนใจ จำใส่ หัวเฮย
จักเกิ้อกูลดังแก้ว กล่อมแก้วตัวตน
อดทนเพียงผ่านพ้น ผิดพบ ดีเอย
เหตุที่เกิดเทียบทบ เที่ยงแท้
พากเพียรจ่อจิตจบ จริงดั่ง คิดนา
เราจึ่งมีสุขแม้ ไม่แม้มีเสมือน
7 กุมภาพันธ์ 2545 06:28 น.
ยุทธภูมิ สุวรรณเวช
โคลงสี่สุภาพ
พูดไปเปลืองเปล่าสิ้น เสียคำ
เสียอัฐไพเบี้ยกำ เปล่าปลี้
ผู้คนไม่จดจำ คำพูด เรานา
เสียค่าเสียแรงชี้ เปล่าเปลื้องเปลืองคำ
นิ่งเสียดีกว่าได้ ตำลึงทอง
ได้สติได้ตริตรอง ถี่ถ้วน
ผู้คนต่างยกย่อง แลเลิศ จริงเฮย
ได้ค่าคนนิยมล้วน อดกลั้นจรรยา
7 กุมภาพันธ์ 2545 06:28 น.
ยุทธภูมิ สุวรรณเวช
โคลงสี่สุภาพ
ความรักคือพิษร้าย แรงรุม
รักก่อเชื้อไฟชุม ชอกช้ำ
รักลวงเหยื่อคอยคุม ด้วยเล่ห์ รักเอย
ลวงล่อหลอกลึกล้ำ ลึกล้วงทลวงใจ
ใครรู้ทันเท่าแล้ว รักลวง
คุมควบใจทั้งดวง มั่นได้
รอดหลบหลีกบาศบ่วง พิษรัก แล้วนา
มิลุ่มหลงคลั่งไคล้ คลาดแคล้วใจสลาย
6 กุมภาพันธ์ 2545 01:12 น.
ยุทธภูมิ สุวรรณเวช
กว้างเกินกว้าง ไกลเกินไกล สุดมือคว้า
แสนเหนื่อยล้า ลาหัวใจ ทุกแห่งหน
ความดี ที่ทำไป ไร้ตัวตน
เหมือนวังวน ที่วนเวียน เอียนหัวใจ
ความคิดคน ความคิดใคร ยากหยั่งถึง
เรานั้นจึง พึงสังวร เข้าใจไหม
ดั่งเสียงกลอง บอกจังหวะ แล้วหยุดไป
ก็เหมือนใจ ได้หยุดคิด จิตปล่อยวาง
กรดกัดกร่อน ที่เกาะกิน อยู่กลางใจ
พอนานไป ไร้ปัญหา แก้สะสาง
เราก็คง ได้พานพบ กับเส้นทาง
แสงสว่าง ที่อยู่กลาง หัวใจตน