14 สิงหาคม 2552 13:02 น.

Katakyo Hitman Reborn

ยิ้มๆ

ภาคฝึกฝน
ซาวาดะ สึนะโยชิ เป็นเด็กม.ต้นที่ทำอะไรไม่ได้เรื่องทุกด้าน ไม่เคยทำอะไรเพื่อคนอื่นเลยสักนิดจนถูกเรียกชื่อว่า "สึนะจอมห่วย" วันหนึ่ง สึนะก็ได้พบกับ เด็กชายท่าทางประหลาดคนหนึ่ง ซึ่งแนะนำตัวเองว่าเป็นครูสอนพิเศษที่แม่ของสึนะจ้างมาชื่อว่า "รีบอร์น"มาจากอิตาลี สึนะยอมรับว่ารีบอร์นซึ่งดูเป็นทารกอยู่ จะเป็นครูสอนพิเศษได้ จนกระทั่งถูกยิงด้วย "กระสุนดับชีพ" ที่กลางหน้า ทำให้สึนะรู้สึกว่าตัวเองจะต้องไม่ตาย และรู้สึกเสียใจว่าถ้าหากพยายามสารภาพรักกับซาซางาวะ เคียวโกะ(ใครหว๊า) อย่างเอาเป็นเอาตาย เธออาจจะยอมรับรักของเขาก็ได้ ทันทีที่คิดเช่นนั้น ไฟดับเครื่องชนก็ถูกจุดขึ้นที่หน้าผากของสึนะ
เสื้อผ้าของเขาเท่ห์ขึ้นออกเหลือแต่เสื้อที่ขาดหลุดหรุย และเขาก็วิ่งไปสารภาพรักกับซาซางาวะ เคียวโกะที่เดินอยู่กับรุ่นพี่โมจิดะ อย่างเอาเป็นเอาตายด้วยพลังที่เหลือเชื่อ ผลจากการสารภาพรักครั้งนี้คือเคียวโกะตกใจจนพูดไม่ออก แต่เพื่อนทุกคนคิดว่าสึนะวิตถาร เพราะวิ่งมาสารภาพรักทั้งที่สวมแต่กางเกงใน จากนั้นสึนะจึงยอมรับว่ากระสุนดับเครื่องชนของรีบอร์นมีพลังวิเศษ และรีบอร์นก็ประกาศว่าหน้าที่ที่แท้จริงของเขาคือ การฝึกให้สึนะเป็นหัวหน้าของ "วองโกเล่ แฟมิลี่" ที่เป็นแก๊งค์มาเฟียขนาดใหญ่ที่มีอิทธิพลสูงมากในอิตาลี
รีบอร์นบอกว่าวองโกเล่ แฟมิลี่มีประวัติความเป็นมาที่ยาวนาน หัวหน้าคนปัจจุบันคือรุ่นที่เก้า และสึนะจะต้องเป็นรุ่นที่สิบต่อไป โดยหัวหน้ารุ่นแรกคือทวดของทวดของสึนะ เป็นผู้ก่อตั้งวองโกเล่ขึ้น และล้างมือมาอยู่ญี่ปุ่น
หลังจากสึนะแสดงวีรกรรมสารภาพรักในชุดชั้นใน รุ่นพี่ชมรมเคนโด้ที่แอบชอบเคียวโกะรู้สึกไม่พอใจสึนะ จึงคิดจะให้สึนะขายหน้า โดยให้สึนะประลองเคนโด้ด้วยและวางแผนแกล้งไม่ให้ทำอิปป้งได้ ตอนแรกสึนะไม่กล้าสู้ แต่ต่อมาก็นึกขึ้นได้ว่าถึงจะแพ้แต่ก็จะกลับไปสู้ รีบอร์นจึงยิงกระสุนดับเครื่องชนใส่ สึนะวิ่งเข้าใส่ในชุดกางเกงในก็ทำอิปป้งด้วยการถอนเส้นผมของรุ่นพี่ออกทั้งหัว (ป้งแปลอีกอย่างได้ว่าเส้นผม) ทำให้เพื่อน ๆ ประทับใจในแรงฮึดกับมุกของสึนะ และเคียวโกะก็คุยกับสึนะเป็นครั้งแรก
ผลจากการชนะรุ่นพี่ ทำให้เพื่อน ๆ ชวนสึนะเล่นวอลเล่ย์บอล ช่วงแรกสึนะคิดว่าจะให้รีบอร์นยิงกระสุนช่วย แต่รีบอร์นบอกว่าถ้ายิงโดยไม่มีอะไรคาใจก็ตายจริงแน่ สึนะจึงหนีไป แต่ก็กลับมาด้วยความรับผิดชอบ ในที่สุดรีบอร์นก็ช่วยด้วยการยิงกระสุนดับเครื่องชนที่อื่น จนสึนะชนะได้ ความไม่ได้เรื่องของสึนะอยู่ในสายตาของ "โกคุเดระ ฮายาโตะ" ผู้มาจากอิตาลี ทำให้โกคุเดระไม่ยอมรับสึนะเป็นหัวหน้าของวองโกเล่ จึงท้าประลองโดยโกคุเดระใช้ระเบิดเป็นอาวุธ แต่หลังจากโกคุเดระทำระเบิดที่จุดแล้วหล่น และสึนะในโหมดดับเครื่องชน ได้ช่วยดับระเบิดให้จนช่วยชีวิตโกคุเดระไว้ โกคุเดระจึงยอมรับสึนะเป็นวองโกเล่รุ่นที่สิบ และเข้าเป็นแฟมิลี่คนแรกของสึนะ
จากผลงานของสึนะที่เริ่มก่อวีรกรรมมากขึ้น (โกคุเดระมีส่วนที่ทำให้วีรกรรมยิ่งโดดเด่น เช่น การระเบิดสนามของโรงเรียน) ทำให้ยามาโมโตะ ทาเคชิ นักเบสบอลของโรงเรียนสนใจเขา ยามาโมโตะมีปัญหากับการเล่นเบสบอลจึงมาปรึกษาสึนะ สึนะบอกให้พยายามซ้อม ยามาโมโตะจึงซ้อมจะแขนหักและเสียใจมากคิดฆ่าตัวตายโดยโดดตึกเรียน สึนะเข้าไปห้ามจนยามาโมโตะเริ่มคิดตก แต่กลับเกิดอุบัติเหตุทำให้ยามาโมโตะร่วงลงไป สึนะโดดตามไปช่วยโดยรีบอร์นสนับสนุนด้วยกระสุนดับเครื่องชน ทำให้ทั้งคู่รอดชีวิตทั้งที่ตกตึกมาด้วยกัน ยามาโมโตะกลายเป็นเพื่อนคนแรกของสึนะ
สึนะได้รู้จักกับแรมโบ้ นักฆ่าที่เป็นเด็กอายุห้าขวบ ที่มาลอบสังหารรีบอร์นแต่ไม่เคยทำสำเร็จ จนกลายเป็นเด็กในบ้านสึนะ และอี้ผิง นักฆ่าที่มาลอบฆ่าสึนะด้วยความเข้าใจผิดเนื่องจากสายตาสั้น ภายหลังได้มาอาศัยในบ้านสึนะ ทำให้สมาชิกในบ้านมีเพิ่มขึ้น และก่อเรื่องปวดหัวให้สึนะมากขึ้น รวมถึง "เบียงกี้" พี่สาวของโกคุเทระ นักฆ่าที่ทำให้อาหารเป็นพิษที่คิดจะมาฆ่าสึนะตลอดเวลาเพื่อพารีบอร์นกลับไป แต่ความที่เบียงกี้ชอบรีบอร์นมากจึงรับคำ ไม่ฆ่า สึนะอีก และดีโน่ หัวหน้าคาบัคโรเน่แฟมิลี่ เป็นสิทธิ์รุ่นพี่ของสึนะโดยเคยเป็นลูกศิษย์ของรีบอร์นมาก่อน จนมาถึงตอนที่ ฟูตะ นักจัดอันดับแรงกิ้งที่แม่นยำที่สุด โดยมาเฟีย ไล่ล่าขอรายชื่อ เพื่อตามล้างบางแฟมิลี่อื่น ต้องให้สึนะมาช่วย จนต้องมาอยู่ด้วยกันอีก
เราเข้าใจว่ายังไม่จบนะครับ เพราะนักเขียนการ์ตูนเรื่องนี้ยังทำงานกันอยู่ นั่นอาจไม่ใช่จุดที่จบแล้วก็เป็นได้ ติดตามกันต่อไปครับ				
13 สิงหาคม 2552 22:52 น.

สิ่งหนึ่ง...ของสองเรา

ยิ้มๆ

สวยงามและแผ่วพริ้ว 
ลิ้วลอยมาจากไหน 

โบกโบยบินไปบนฟากฟ้าสีคราม 
พร้อมความงามที่ซ่อนเก็บไว้ภายใน 

และฉันจะเฝ้าถนอมเธอไว้ให้นาน 
ฉันมิยอมให้เจ้าบอบช้ำต่อไป 

รู้มั้ยว่าใจฉัน รักเจ้าหนักหนา เจ้าปีกผีเสื้อ...


สำหรับฉัน การรักใครสักคน เป็นเรื่องแสนยาก แต่เธอรู้ใหมว่า การให้ฉันตัดใจ
ลืมคนที่เคยรักนั้นยากกว่า อย่างเช่นในค่ำคืนนี้ ในขณะที่เธอกำลังอยู่ใต้ผ้าห่มอุ่น
ในอีกขอบฟ้าแสนไกล เธอจะรู้ใหมว่า ฉันยังนั่งอยู่ตรงที่เก่า...ตรงที่ที่เราเคยพบกัน
ฉันนั่งอ่านจดหมาย และข้อความแห่งความรู้สึกในวันเก่าเก่า ที่เธอเคยส่งมาให้
ซ้ำแล้วซ้ำเล่าด้วยแก้มที่เปื้อนน้ำตา เธอคงไม่รู้ว่า ในหัวใจดวงเล็ก ๆ ของผู้หญิงคนนี้
มีที่ว่างมากมาย พอที่จะเก็บทุกทุกคำพูด ที่เราเคยมีระหว่างกันเอาไว้ได้ทั้งหมด
แม้แต่บทกวีสั้น ๆ ที่เธอเคยเขียนมา และคิดว่าฉันคงจะลืมมันไป คนดี ทุกๆ สิ่ง
ที่รวมกันขึ้นมาเป็นตัวเธอนั้น สวยงามเกินกว่าหัวใจดวงนี้จะลืมเลือนมันไป
ฉันยังจดจำได้ทุก ๆ สิ่ง นับตั้งแต่วันแรกที่เราพบกัน จะด้วยความบังเอิญ หรือเพราะสิ่งใด
ฉันไม่อาจคาดเดา ตัวฉันในวันนั้นเป็นแค่ผู้หญิงบ้า ๆ บอๆ คนหนึ่ง ที่ดูแล้วไม่มีอะไร
น่าพิศมัยสักนิด แต่เธอกลับก้าวเข้ามาหา ยิ่งฉันถอยห่างออกมาเท่าไหร่ เธอก็ยิ่งก้าวเข้ามา
ใกล้มากขึ้นเท่านั้น กว่าจะรู้ตัวว่าอะไรเป็นอะไร ฉันก็แอบคิดถึงเธอเข้าให้ซะแล้ว



ก่อนเคยคิดว่า...รักเกิดขึ้นได้เมื่อพบเจอ 
ก่อนเคยคิดว่า...รักต้องอยู่ด้วยกันตลอดเวลา 
ก่อนเคยคิดว่า...รักนั้นคือการครอบครองสิ่งนั้น 
สิ่งที่เคยคิด...กลับไม่ใช่เมื่อฉันได้มาพบเธอ
       

ฉันยังจำได้ในค่ำคืนหนึ่งที่แสนเหงา ฉันพยายามมองหาใครสักคนที่อยากพูดคุย ปรับทุกข์
แต่กลับไม่พบใคร นอกจาก....เธอ ที่อยู่ใกล้ๆฉันเพียงแค่เอื้อม แต่ฉันกลับมองข้ามไป 
ฉันเคยมองหาแต่คนอื่นๆ มากมายที่เป็นเพื่อน และบอกกับตัวเองเสมอว่า ฉันจะไม่ยอมให้ใคร
ก้าวเข้ามาในหัวใจดวงนี้อีกเป็นครั้งที่สอง นับจากวันที่ความรักอันแสนยาวนานของฉัน
ล้มพังไปไม่เป็นท่า  ความรักสำหรับฉัน ก็ไม่ใช่สิ่งสวยงามอีกต่อไป ฉันไม่ได้หวังมาก่อนว่า
เธอจะสละเวลามาฟังเรื่องราวเพ้อฝันของผู้หญิงสติแตกคนหนึ่ง เธอฟังอย่างตั้งใจ เธอพร้อมจะรับรู้
เธอพูดว่าเธอจะอยู่เป็นเพื่อนฉัน หากฉันต้องการ ฉันได้พบว่า ความอบอุ่นที่ฉันเคยตามหา
มาวางอยู่ตรงหน้านี้เท่านั้น ฉันบอกตัวเองว่ามันเป็นแค่ความอ่อนไหว มันไม่ใช่ความรู้สึกที่แท้ๆ
ฉันบอกตัวเองซ้ำแล้ว ซ้ำเล่าว่า เธอเป็นแค่คนธรรมดาคนหนึ่ง เหมือนกับคนที่ฉันหาพบได้ง่ายๆ
ตามท้องถนนทั่วไป ทั้งๆ ที่ในส่วนลึกแล้ว ฉันได้ยินตัวเองพูดว่า ไม่ใช่แค่นั้นเลย
เธอจะรู้ใหมว่านับจากวันนั้นผ่านไป ฉันเฝ้ามองหาแต่เธอในหมู่คนมากมายที่อยู่รอบตัว
ฉันเฝ้ารอเวลาที่เธอจะมา และแอบยิ้มกับตัวเอง ในขณะที่ทำท่าเฉยเมยใส่เธอ
เธอเคยถามฉันว่า " เคยมีสักแว๊บๆ ในระหว่างวันบ้างไม๊ ที่ฉันจะคิดถึงเธอบ้าง"
ฉันได้แต่เงียบ เธอสรุปเอาเองว่าความเงียบนั้นคือ ฉันไม่คิดถึงเธอเลย (ฉันไม่เคยบอกเธอเลยว่า
เธอคิดผิด)


วันหนึ่งคำพูด เหล่านี้อาจจะดูตลก 
และเชยไปตามกาลเวลา 
แต่มันน่าจดจำตรงที่มันถูกเขียนออกมาจากความรัก 
ที่ครั้งหนึ่ง เราได้รู้จักกัน ได้เข้าสู่หัวใจของกันและกัน 
ถ้าในวันต่อไปไม่มีเธออีกแล้ว 
ฉันก็คงจดจำความสวยงามของเธอได้เสมอ
       

เธออาจไม่ใช่คนที่ดีที่สุด ในสายตาของใคร ๆ เธอพูดเสมอว่าเธอไม่ใช่คนดี เป็นเพียงผู้ชายคนหนึ่ง
เหมือนกับคนอื่นทั่วๆ ไป เธอจะรู้บ้างใหมว่า ฉันไม่เคยต้องการคนดี  ฉันรู้เพียงแต่ว่า ชีวิตของฉัน
จะถูกเติมเต็มได้ ด้วยหัวใจของเธอเท่านั้น ฉันเคยนึกขำเวลาได้ยินใครๆ พูดกันว่า เขาได้พบกับคน
ที่รอคอยมาแสนนาน เพราะฉันคิดว่า เขาคงพูดเช่นนั้นทุกๆ ครั้ง ที่เขามีความรักครั้งใหม่
แต่เมื่อฉันได้มาพบเธอ ทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตของฉันได้เปลี่ยนไป ฉันรู้แล้วว่าความรู้สึกในวินาที
ที่เราบอกกับตัวเองว่า นี่แหล่ะ คือคนที่เราตามหา คือคนที่เราเฝ้ารอ และไม่เคยคิดว่าจะได้เจอ นั้นเป็นอย่างไร
เมื่อเธอมายืนอยู่ตรงหน้า เธอจะรู้ใหมว่า เธอมีความหมายสำหรับผู้หญิงธรรมดา ๆ คนนี้มากมาย
สักเท่าใด เธอให้ทุกๆ สิ่งที่ฉันเคยตามหา เธอมีทุกๆ อย่างที่ฉันเคยเฝ้ารอ กว่าฉันจะรู้ตัวว่ารักเธอมากมายสักเท่าใด
ก็เมื่อวันที่ เธอต้องจากไปไกลแสนไกล อีกสุดขอบฟ้า เช้าวันนั้น อากาศหนาวเย็น ฉันนอนนิ่งๆ ใต้ผ้าห่ม
และมองออกไปนอกหน้าต่าง ท้องฟ้าเป็นสีฟ้าจางๆ  นกตัวเล็กๆ สองสามตัวเกาะอยู่นอกระเบียงนั้น หากวันนี้
ไม่ใช่วันที่เธอต้องไป ภาพเบื้องหน้าของฉัน คงสวยงาม ไม่เงียบเหงา เหมือนวันนี้


เช้าวันนี้...ฉันได้กลิ่นฤดูหนาว 
เมื่อลมพัดเข้ามาเบาๆ จากหน้าต่าง 
ผ้าห่มอุ่นๆ คงช่วยบรรเทาความหนาวได้บ้าง 
แต่หัวใจ...ความหนาวยังไม่จาง..ไปเสียที 


ผ้าห่ม...จะช่วยอะไรได้... 
กับคนช่างอ่อนไหว..อย่างฉันคนนี้ 
ไม่อยากลืมตาจากความฝันเลยคนดี 
ไม่อยากรับรู้ว่าวันนี้..เธอต้องไปแสนไกล 


วันนี้...อากาศหนาว 
ไม่รู้เธออยากกอดใครเพื่อบรรเทาบ้างใหม 
ส่วนฉันคนนี้...กับความหนาวที่มีในใจ 
ไม่มีอะไรทำให้อุ่นได้... 
ไม่มีอะไร หรือใคร...นอกจากเธอ 


อยากขอบคุณเธอคนดี ที่นับจนถึงวันนี้ เธอยังคงเป็นคนเดิมเสมอ เป็นคนอบอุ่น อ่อนโยน 
เป็นคนที่ฉันแสนรัก เธอเป็นทุกๆ สิ่ง เท่าที่ฉันอยากมีในโลกใบนี้ มันถึงเวลาที่ฉันจะต้องยอมรับความจริงว่า
ผู้ชายที่แสนอบอุ่นอย่างเธอ คงมีคนมากมาย อยากเป็นเจ้าของหัวใจดวงนั้น และฉันเป็นเพียง คนที่มาทีหลังเท่านั้น
ฉันรู้ว่าเธอไม่ตั้งใจจะทำร้ายหัวใจของคนคนนี้ หากคนเรามีหัวใจได้มากกว่าหนึ่งดวง คงไม่จำเป็น ต้องทำให้ใครเสียน้ำตา
คงไม่จำเป็นต้องเลือกใครสักคน เพียงคนเดียว ไม่ว่าวันพรุ่งนี้ของฉันจะเป็นเช่นไร อยากให้เธอรู้ว่า ฉันไม่เคยเสียดายเวลา
ที่ผ่านมา เวลาที่เราได้พบกัน ได้ใช้เวลาด้วยกัน นั่นคือช่วงเวลาที่ดีที่สุดในชีวิตของฉัน ฉันอาจจะขลาดกลัวเกินกว่า
จะกล้าบอกลากับเธอ เพราะฉันไม่เคยคิดว่า ฉันอยากจะทำเช่นนั้น 

ในวันสำคัญที่กำลังใกล้เข้ามา ฉันไม่มีดอกไม้ ไม่มีของขวัญ ไม่มีคำอวยพรใดๆ เพียงอยากให้เธอรู้ว่า
ฉันไม่เคยลืมวันสำคัญของเธอ ใช้เวลาดีๆ ในวันดีๆ กับคนที่เธอได้เลือกแล้ว อย่ากังวลกับฉันว่าจะเป็นเช่นไร
ฉันจะจากไปอย่างเงียบๆ เหมือนที่เคยสัญญากับเธอว่า จะไม่ทำให้ลำบากใจ หากเธอยังจดจำฉันได้
จำเวลาดีๆ ของเราได้ เธอก็คงจะตามหาฉันได้ไม่ยาก เพราะฉัน จะอยู่ในหัวใจของเธอ อยู่ในความทรงจำ
ของเธอ  ทุกๆ ที่ ที่ฉันไป ฉันจะนำภาพของเธอเก็บไว้ในใจไปด้วยกัน  ทุกๆ ภาพสวยงามที่ฉันเห็น ฉันจะมอง
และคิดถึงเธอ ทุก ๆ บทกวีที่ฉันเขียน ก็จะยังเป็นบทกวีของเธอเสมอไป แม้ว่านับจากนี้ เราจะไม่ได้พบกันอีกแล้ว 

สุขสันต์วันเกิดนะ คนดี



In my heart there will always be a place for you. 

For all my life I'll keep a part of you with me. 
          
And everywhere I am,there you'll be				
13 สิงหาคม 2552 22:42 น.

แอบคิดถึงทุกวัน

ยิ้มๆ

ก่อนวันหยุดปิดเทอมหน้าร้อน ผมได้ถ่ายรูปเธอไว้ได้ไม่กี่รูป เพื่อนก็มาหาว่าผมชอบเธอ ผมได้ตอบปฏิเสธไป แต่ในใจจริงผมได้ชอบเธอ และชอบตั้งแต่พบกันครั้งแรก(รักแรกพบ) แต่ผมคิดว่ารูปไม่ค่อยสวยเท่าไร่(ชุดนักเรียน) จากนั้นครูก็นัดวันที่จะจัดงานเลี้ยงให้และใส่ชุดอะไรก็ได้มา กลับบ้านมาผมก็ทำการพิมพ์รูปเก็บไว้ที่กล่องเหล็ก(กล่องใส่ดินสอ สแตนเลส)
      วันจัดงานเลี้ยง มีการจัดงานเลี้ยงส่งท้ายแต่ทั้งวันนั้นผมยังไม่เห็นเธอเลยเห็นแต่เพื่อนๆ เพื่อนๆก็สนุกกัน แต่ ผมขาดเธอไม่ได้ ผมเอารูปเธอขึ้นมาดู และอยู่ดีๆเธอก็มาอยู่ข้างหลังผม เธอดูรูปในกล่องแล้วยิ้มแล้วยิ้มให้ผม เธอยื่นหน้าจากข้างหลังมาหาผม แบบแก้มชนแก้ม ผมตกใจมากรีบกระโจนออกไปแล้วถามเธอว่า พะ..พึ่งมาหรอ เธอก็ตอบว่า ใช่ เธอตอนนั้นใส่กระโปรงยาวถึงหัวเข่าแต่เพื่อนผู้หญิงคนอื่นใส่กางเกงมากัน ผมจึงขอเธอถ่ายรูปก่อนคนอื่น เธอสวยมากจนผมไม่กล้าเอ่ยปากชม ผมกำลังจะชมเธอ แต่ปากกลับพูดไปว่า เจอใครมั่งยังเธอก็ตอบอย่างใจเย็นว่า ยังอะพาไปหาหน่อยสิ  เมื่อผมเริ่มเดินเธอก็มากอดแขนผมเมื่อเข้าไปในห้องทุกคนหันมามองที่ผมและเธอ และมีเพื่อนผู้ชายคนนึงเข้ามาหยอกผมแล้วพูดว่า เสน่ห์แรกนี่..ไม่มีใครเข้าใกล้เธอมากเท่านายแล้ว พอเพื่อนพูดพอผมก็ยิ้มน้อยๆ  มีการประกวดกันในห้องโดยมีหัวหน้าห้องเป็นพิธีกรดำเนินรายการ รางวัลแรกคือ
  นักเรียนเรียนได้อันดับที่ 1 ก็คือ หัวหน้าห้องเอง
  นักเรียนเรียนได้อันดับที่ 2 คือรองหัวหน้าห้อง
  นักเรียนเรียนได้อันดับที่ 3 คือเพื่อนผู้ชายที่เข้ามาหยอกผม
  นักเรียนชายที่ได้รับคะแนนโหวตมากที่สุด คือ ผมเอง
  นักเรียนหญิงที่ได้รับคะแนนโหวตมากที่สุด คือ เธอ  และเพื่อน๐ก็ยังให้เธอกอดแขนผมอีก เธอก็ทำตามเพื่อนก็ถ่ายรูปกันใหญ่ ผมจึงฝากกล้องให้เพื่อนถ่ายรูปให้  เมื่อจบงานแล้ว เพื่อนผู้ชายก็แซวผมกันใหญ่  ส่วนเธอก็ถูกเพื่อนแซวเหมือนกันผมจึงไปนั่งที่ม้าหิน และอยู่ดีๆก็มีคนมานั่งด้วย เมื่อผมหันหน้าไปเป็นเธอนี่เอง เมื่อเพื่อนๆกลับไปจวนจะหมดแล้ว ผมก็ได้เผลอหอมแก้มเธอที่นึงก่อนจาก แก้มของเธอหอมมาก และนุ่มด้วยจากนั้นผมก็กลับบ้าน เมื่อถึงบ้านผมได้พิมพ์รูปแล้วเก็บเข้าอัลบั้ม ทั้งคืนนั้นผมก็ได้กอดแขนตัวเอง
      ตั้งแต่นั้นผมก็ได้คิดถึงเธอโดยตลอดเรื่อยมา แต่เธอรู้สึงอย่างไรบ้างไม่รุ้				
13 สิงหาคม 2552 08:40 น.

กล้วย กล้วย และกล้วย

ยิ้มๆ

บ้านฉันอยู่ซอยต้น กล้วย
บ้านฉันมี กล้วย
สวนข้างข้างบ้านมีลิงกิน กล้วย
แต่สวนข้างบ้านไม่มีกล้วย
ฉันชอบกิน กล้วย
ฉันใช้เงินซื้อ กล้วย
ฉันทำงานแลก กล้วย
กลับมาไม่เห็น กล้วย
เห็นลิงถือหวี กล้วย
ฉันคิดว่าลิงกิน กล้วย
ฉันเตะลิงแย่ง กล้วย
แต่ลิงไม่ได้กิน กล้วย
เพื่อนบ้านว่าคนขโมย กล้วย
คนขุดดินขโมย กล้วย
ลูคนขุดดินกินข้าวบด กล้วย
ฉันสงสารจึงให้ กล้วย

เดี๋ยว...ลืมอะไรไปบอกด้วย				
10 สิงหาคม 2552 21:56 น.

แอบรักเธอข้างเดีวต่อไป

ยิ้มๆ

ณ โรงเรียน ผมได้พบเธอกับเพื่อนๆ เธอทักผมอย่างเป็นกันเอง แต่ผมไม่กล้าทักเธอมากเท่าไร เพราะกลัวเพื่อนๆจะนินทาเอา  พักกลางวันผมก็ได้เจอเธออีกพร้อมเพื่อนๆของเธอ ผมทำตัวไม่ถูกผมจึงเข้าไปทักเล็กๆน้อยๆแล้วเดินจากไป ผมรู้สึกว่าตอนนั้นหัวใจผมเต้นแรงมาก
     วันต่อมา ผมได้พอเธออีกเหมือนเดิม แต่มีการประกาศผู้ที่จะได้ไปทัศนศึกษาแบบพิเศษ มี ผม เธอ เพื่อนผู้ชาย1คนและเพื่อนผู้หญิง1คน และรุ่นพี่อีกชั้นละ4คนผมค่อนข้างดีใจ และยิ้มเล็กๆให้ตัวเอง
     วันไปทัศนศึกษา ครูให้เลือกที่นั่งในรถบัสเอง ผมกะจะนั่งกับเธอ แต่มีเพื่อนผู้หญิงมานั่งก่อน ผมจึงต้องนั่งกับเพื่อนผู้ชาย ผมก็ได้แต่แอบมองเธอ เมื่อเธอหลับลงฟฃพร้อมกับคนบนรถบัส ผมจึงได้ลูบผมเธออย่างเอ็นดู เมื่อที่ที่จะทัศนศึกษาผมและเธอได้ลงรถแล้วไปชมด้วยกัน เมื่อชมเสร็จแล้วก็ขึ้นรถ ทีนี้เพื่อนผู้หญิงได้สลับที่กับผมเพราะอะไรไม่รู้แต่ร่างกายผมขยับไปหาเธอเองระหว่างทางก่อนถึงที่พัก เธอได้หลับลงศีรษะของเธอมาซบไหล่ผมพอดี ตอนนั้นผมดีใจอย่างบอกไม่ถูก ผมจึงปล่อยเธอไป และหลับไปด้วย เมื่อถึงที่พักผมได้ตื่นก่อน ผมจึงปลุกเธอ และเข้าที่พัก
     วันต่อมา ครูให้นั่งที่เดิม คือผมนั่งข้างเธอ วันนี้ผมรู้สึกง่วงมากแล้วก็หลับไป พอตื่นขึ้นมาศีรษะของผมก็อยู่ที่ไหล่เธอ แต่เธอก็ไม่ว่าอะไร แต่เมื่อไปชมสถานที่ แทนที่เธอจะเดินห่างๆผมแบบเมื่อวาน แต่เธอเดินใกล้ผมมากขึ้น บางทีก็จับมือผมเมื่อชมเสร็จแล้ว ก็กลับมาขึ้นรถ ผมเพลียมากและเธอก็น่าจะเช่นกัน ผมและเธอก็ได้หลับลง เมื่อผมตื่นขึ้นมาศีรษะผมและเธอชนกันแล้วก็ถึงโรงเรียนผมได้ปลุกเธออีกครั้ง และกลับบ้าน
     วันต่อมา ผมได้ทักทายอยากเป็นกันเองกับเธอบ้าง แต่เธอก็ทักแบบ ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเมื่อวาน ผมก็ได้คิดแค่ว่าต้องแอบรักเธอข้างเดียวต่อไป				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟยิ้มๆ
Lovings  ยิ้มๆ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟยิ้มๆ
Lovings  ยิ้มๆ เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟยิ้มๆ
Lovings  ยิ้มๆ เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงยิ้มๆ