31 มีนาคม 2551 19:39 น.
ยาแก้ปวด
ตอน อวสาน
" เพล้ง โครม " เสียงดังสนั่นของตะหวิวที่ปลิว
ลอยฟาดมาที่โต๊ะเหล็กอย่างแรงทำให้เงาทีจางๆแตกสลาย
ลงไปในทันที พร้อมกับเสียงแหลมๆพุ่งปรี๊ดเข้ามาในรูหู
ของผม
" ไอ้แก่ หลับอีกแล้ว บอกกี่ครั้งกี่หนว่าอย่านอนตอน
มีลูกค้า มาเอาผัดหมูสับหนำเลี๊ยบ กับ ผัดกวางตุ้งนี่ไปให้
ห้อง271ด้วยไอ้แก่"
ผมมองถุงกับข้าวตรงหน้าแล้วได้แต่ถอนใจ โลกความฝัน
ของผมจบไปแล้วเหลือแต่โลกของความเป็นจริง เธอไม่
ใช่ใครที่ไหนหรอก เธอชื่อลำยอง เป็นแม่ทูนหัวสุดที่รัก
ของผมเอง
" แนะยังไม่ไปอีก มองหน้านี่จะให้เอากระทะตาม
ไปอีกอันมั้ย " ลำยองเธอไม่พูดเปล่าแถมยกกระทะอยู่ใน
มือจนผมต้องรีบคว้าถุงกับเข้าเดินดุ่ยๆไปส่งที่คอนโดฝั่ง
ตรงข้ามร้านกับข้าวต้มของผม ผมมองเงาในกระจกเป็นผู้ชาย
หัวล้านพุงป่องอายุสี่สิบสองกำลังเดินอุ้ยอ้ายส่งกับข้าว
ตามห้องบนคอนโดสุดหรู แล้วก็อดขำความฝันของผมไม่ได้
เฮ้อ นี่ผมจะหนีความจริงไปฝันหวานๆสักนิดนึงไม่ได้หรือไง
ทำไมผมจะต้องตื่นมารับรู้ความจริงว่า ผมนะมีเมียแล้วหน้า
ตารูปร่างเหมือนไหปลาร้า มีลูกสาวอยู่สามคนที่ต้องคอยดู
แลส่งเสีย แต่เพราะลูกๆเหล่านี้แหละที่ทำให้ผมมีกำลังใจ
ที่จะทำงานอยู่ทุกวัน ไข่ต้ม ไข่ตุ๋น ไข่ดาว แก้วตาดวงใจของ
ผม มีเมียที่ด่าผมเช้าเย็นทุกวัน จิกผมอย่างกับทาสในเรือนเบี้ย
มีร้านข้าวต้มริมทางเล็กๆไว้ทำมาหากิน สู้ชีวิตอย่างปากกัดตีน
ถีบในยุคที่น้ำมันสุดแสนจะแพง ผมเดินฝ่าอากาศร้อนและฝุ่น
ตลบควันพิษของกรุงเทพมาที่ร้าน ลำยองเห็นผมเท่านั้นแหละ
ก็กรีดเสียงแวดๆใส่ผมทันที
" ไปส่งของแค่นี้ ช้าจริงนะไอ้แก่ นังไข่ดาวมันแหกปาก
อยู่หลังบ้านไปดูสิว่ามันหิวนมหรือเปล่า" ผมมองหน้าเมียตาละ
ห้อยจะมีวันไหนไหมนี่ที่เธอจะไม่จิกหัวผมใช้แบบนี้ นี่แหละน้า
ความจริงที่ผมต้องยอมรับอยู่ทุกวัน ไอ้เรื่องฝันเฟื่องรักหวาน
แหว๋วก็คงเป็นแค่ความฝัน สร้างวิมานสุดหรูได้แค่จินตนาการ
ทำไมน้อฟ้าส่งผมมาเกิดต้องลากนังลำยองมาเป็นแม่ผมอีกคน
นี่ชาติที่แล้วผมทำบุญด้วยปลาร้าหรือเปล่านะ ถึงได้มีเมียทั้ง
ปากและทรวดทรงอย่างกับไหปลาร้าอย่างนี้ เวรกรรมจริงๆ
แล้วทำไมผมจะต้องกลัวมันนักก็ไม่รู้สิ
"วันๆเอาแต่แต่งกลอนบ้าบอคอแตกอะไรนักหนา แต่งแล้ว
เงินมันงอกออกมาหรือเปล่า" เสียงลำยองบ่นพึมพำตามหลังผม
มาแว่วๆ เฮ้อเมียหนอเมีย ช่างไม่รู้อะไรเลยว่าไอ้การที่ผมหนี
ไปแต่งกลอนนะเพราะผมนะอยากจะบาย คงเป็นวิธีเดียวที่ผมจะ
ระบายออกมาได้เพราะเธอนะนอกจากจะเป็นเจ้าชีวิตผมแล้วเธอ
ยังไม่มีความสุนทรีในศิลปแขนงนี้เอาเสียเลย จริงสินะชิวิตจริง
ของผมคงจะเป็นแบบนี้ตลอดไป ทำงานหาเช้ากินค่ำมีลูกสามคน
มีเมียอย่างกับมีแม่ ส่วนภาพที่ผมสร้างในความฝันนั้นผมคงเป็น
ได้แค่ภาพในความฝันของ "ปลายตะวัน" เท่านั้น...
ฝันกลางวันว่าเอื้อม คว้าดาว
อุเหม่สร้างเรื่องราว สุดโก้
สาวสวยพรั่งพร้อมเสมอ ล้อมรอบ
ตกกระไดอกโอ้ ตื่นฟื้นฝันสลายฯ
เมียด่าเช้าค่ำพร้อม ประจำ
วิ่งส่งข้าวตามคำ ลูกค้า
หัวล้านเหน่งพุงทำ กางยื่น
เดินดุ่ยอุ้ยอ้ายล้า แน่แล้วปลายตะวันฯ
* * * จบ * * *
26 มีนาคม 2551 19:13 น.
ยาแก้ปวด
รอยหวัง
ผมแทบอยากจะถอดใจเมื่อได้ข่าวจากเพื่อนๆพี่ๆที่
พยายามช่วยสืบเสาะเรื่องหนำเลี๊ยบมาให้ผม พี่ทองม้วน
ให้เบอร์ผมไปกับน้องสาวของพี่เขาเพื่อจะให้แก่หนำเลี๊ยบ
จนป่านนี้เธอยังไม่โทรศัพท์มาหาผมสักที ผมคงต้องถอดใจ
แล้ว คงจะปล่อยให้ทุกอย่างเป็นแค่เงาจางๆในความทรงจำ
แต่ระหว่างที่ผมกำลังซึมเศร้าถอดใจอยู่นั้น พลันก็มีเสียง
โทรศัพท์ดังขึ้น ไม่ใช่ใครที่ไหนหรอกเป็นเหล่าลูกศิษย์สาม
สาวนี่เอง เสียงแหลมๆฉอดๆใส่กรอกมาตามสายต่อว่าผมต่างๆ
นานา แต่แล้วก็เหมือนประกายสว่างเพราะเสียงนั้นบอกกับผม
ว่า " ก็ทำไมครูไม่ค้นหาเบอร์เพื่อนสมัยมัธยมหละ เขาอาจ
จะมีเบอร์หนำเลี๊ยบก็ได้นะ" จริงสินะทำไมผมคิดไม่ออกนะ
นี่ผมมัวแต่งมเข็มในมหาสมุทรอยู่ตั้งนาน ทั้งๆที่มันอยู่ใกล้แค่
นี้เอง
และแล้วความฝันของผมก็เป็นจริง เพื่อนในสมัยมัธยมที่
ผมโทรไปหานั้นเขามีเบอร์หนำเลี๊ยบ ด้วยอาการลิงโลดแทบ
กระโดดตึก พระเจ้าช่วยกล้วยทอด ผมอยากจะร้องออกไปดังๆ
สำเร็จแล้ว ผมได้เบอร์ของหนำเลี๊ยบมาแล้ว ผมมองเบอร์
หนำเลี๊ยบที่จดมา มองอยู่นานว่า เอ ผมจะทำยังไงดี ผมจะเริ่ม
ต้นพูดว่าอะไรดี หัวใจของผมตอนนี้มันเต้นเร็วจนผมชักกลัว
ว่ามันจะเต้นแรงออกมาจนคนข้างนอกได้ยิน
มือผมจับจรดอยู่ที่มือถืออยู่นาน ยืนคิดนอนคิดว่า ผมจะใช้
เหตุผลอะไรดี และในที่สุดผมก็กดเบอร์โทรออกไปหาหนำ
เลี๊ยบ " หวัดดี เลี๊ยบ สบายดีมั้ย" เสียงผู้หญิงใสๆฟังแล้วนุ่มหู
ที่สุดเท่าที่ผมเคยรู้สึกมา
" นี่ใคร พูดคะ "
" ผมเอง การันต์ " จากนั้นผมก็คุยไปเรื่อยๆ เหมือนเวลา
ในอดีตย้อนคืนกลับมาอีกครั้ง ภาพเก่าๆค่อยไหลย้อนคืนมา
คุยไปเรื่อยๆหนำเลี๊ยบก็บอกผมมาว่า
" มีอ้ายบ้าที่ไหนก็ไม่รู้ เอาเบอร์มาให้เพื่อนเลี๊ยบ จะให้
เลี๊ยบโทรกลับไปหา โรคจิตแท้ๆ" เธอบ่นๆกับผม ส่วนผมได้
แต่อมยิ้มอยู่อีกทางสาย จะใครอีกเล่าถ้าไม่ใช่ผม..แต่ไม่เป็น
ไรหรอกฌะอจะคิดยังไงก็ได้ เพราะตอนนี้ผมได้ยินแต่เสียง
หัวใจเท่านั้นที่เต้นอยู่...
ซึ้งซึ้งสุขสุขเศร้า............เดียวดาย
รักรักร่ำมิวาย...............สะกดกล้ำ
เนิบเนิบท่ามดาวราย....ราวรอบ
หวั่นหวั่นหวามอกย้ำ.....ยอกย้ำอุราถวิลฯ
ร้าวร้าวกมลละม้าย........ร้าวลึก
แปลบแปลบมโนสำนึก...เนิบนี้
ก้องก้องอกระทึก.........ก้องกู่
นานเนิ่นต่างตะกี้........เมื่อกี้อยู่เสมอฯ
ทิศเทศรอบเขตด้าว.....แดนไกล
ลมลอบหอบหัวใจ.........สู่เจ้า
วิบวิบอยู่รำไร.............เพียงจิต
นิดนิดหวามสุขเศร้า......คลุกเคล้าละเมอบ่หายฯ
รักเอยอันรักเจ้า...........มั่นคง
ตราบภพตราบดำรง.......คู่ค้ำ
ตราบกายตราบวายปลง...ใจรัก
ตราบเท่าที่ทนช้ำ.........จักช้ำกลืนสนองฯ
เกินบอกรักเอ่ยเอื้อน...เป็นวจี
เกินกว่าดวงฤดี...........จะรับได้
เกินทวยเทพเทพี.........จารจด
เกินกว่าเกินจักให้.......หักไห้โหยหาฯ
* * * *
26 มีนาคม 2551 15:06 น.
ยาแก้ปวด
ตอน รอยเว้า
วันนี้เราสามสาวเปิดคอลัมน์สัมภาษณ์พี่
ทองม้วนซึ่งเป็นคนที่เจาะลึกตามเหตุการณ์ทั้ง
หมดมาอย่างใกล้ชิด พี่ทองม้วนออกจะเป็นคน
สนุกสนานเป็นกันเอง แกนั่งจิบเบียร์ไปแล้วเปิด
ใจกับเราเรื่องคุณปลายตะวันมาว่า
" ผมเห็นคุณปลายอยู่ในห้องมาสามปีกว่าแล้ว
แต่ไม่เคยได้คุยกันจริงจังสักที จนกระทั่งผมได้มี
โอกาสร่วมงานกับคุณปลาย ผมถึงรู้ว่า คนๆนี้นะ
เขาสับสนชีวิตยังไงอยู่ ดูเขากลัดกลุ้มกลัดหนองยังไง
ชอบกล ไอ้ผมนะพยายามติดต่อหนำเลี๊ยบให้ แต่
เดี๋ยวคุณปลายก็เปลี่ยนใจ ผมก็ชักจะมึน นี่คุณจะเอา
ยังไงกันแน่ ผมนะช่วยคุณเต็มร้อยแต่คุณหละช่วย
ตัวคุณเองบ้างหรือยัง " พี่ทองม้วนเล่าเรื่องมาแบบ
สบายๆตามสไตล์ของแก แล้วเหมือนนึกขึ้นมาได้อีก
" มีอยู่คราวนะ ผมออกทัวร์งานกับคุณปลายทาง
ภาคตะวันออก ผมตกกะใจตื่นขึ้นมาเห็นคุณปลายมา
นั่งอยู่ที่ปลายเตียงผม ผมงี้ขนลุกซู่ แต่สงสัยว่าเพราะ
แอร์ในห้องมันจะเย็นจัด ผมถามแกว่า คุณเป็นอะไร
เขาก็บอกว่าเขานอนไม่หลับ พี่ม้วนออกไปหาเหล้ากิน
กันเถอะ ผมงี้แสนงง แต่ไหนแต่ไรแกไม่เคยจะดื่ม
ถ้าเป็นผมก็ว่าไปอย่าง ที่ดื่มเช้าสายบ่ายเย็นเป็นกิจวัตร
คืนนั้นเป็นอันผมเลยต้องไปนั่งฝืนๆดื่มเหล้า
เคล้าสาวๆตามผับกับแก ค่อยยังชั่วหน่อยที่สาวๆไม่
ค่อยกวนผมเท่าไหร่ คืนนั้นผมเลยรอดไป แต่คุณรู้
ไหมผมกับคุณปลายกลับมานอนที่ห้องพัก คืนนั้นผม
นอนระส่ำระส่าย ชักติดอาการนอนไม่หลับมาบ้าง
ผมนอนพลิกไปพลิกมา เห็นคุณปลายนอนมองเพดาน
ในห้องไม่หลับเหมือนกับผม ผมคิดในใจ เอนี่คุณปลาย
เขาคิดถึงหนำเลี๊ยบหรือเขาคิดถึงใครกันแน่ พอผมยิ่ง
คิดลึกลงไปอีก เอาละสิ ทำไมผมรู้สึกเย็นวาบขึ้นมา
พอคิดได้ดังนั้น ผมก็เลยลุกขึ้นไปที่ห้องน้ำรีบเปลี่ยน
กางเกงนอนเป็นกางเกงยีนส์ใส่เข็มขัดรัดแน่นแล้วกลับ
มามุดคลุมโปงที่เตียง แอร์ในห้องมันเย็นเฉียบจริงๆ
อย่างที่ผมบอกนะแหละ เย็นเสียววูบเลย"...
เราสามสาวได้แต่นั่งมองหน้าทำตาปริบๆ นี่สัมภาษณ์
พี่ทองม้วนมาไม่ได้อะไรสักอย่าง นึกว่าจะเอาเบอร์หนำ
เลี๊ยบมาให้คุณปลายก็เปล่า ไม่ไหวเลยพี่ทองม้วน ถ้าไม่
ช่วยแกตอนนี้จะไปช่วยแกตอนไหน หรือว่าพวกเราจะ
ต้องออกโรงเองเสียที นอกจากพี่ทองม้วนจะไม่ได้ช่วย
ให้อะไรดีขึ้นมาอีกพี่แกยังเอากระดาษที่แกแต่งกลอนมา
ให้พวกเราอีก อุเหม่..กลอนบทแรกในชีวิตของพี่ทองม้วน
(เอ้า..เดี๋ยวจะลงให้...อุตส่าห์แต่งทั้งที)
โอ้ยามนี้น้องชายปลายตะวัน
เหลียวแลหันมามองพี่ทองม้วน
อยากจะเก็บจะกอดไม่ก่อกวน
พี่ทองม้วนรัญจวนชื่นอกเอย
นอนผวาเคียงข้างอย่างเปล่าเปลี่ยว
สุดจะเสียวหวั่นไหวใคร่เฉลย
เพราะตัวพี่นี้ยังยังไม่เคย
อยากลงเอยกับน้องชายปลายตะวัน...
* * * *
* โปรดใช้วิจารณญานในการอ่าน หุหุ...
25 มีนาคม 2551 16:10 น.
ยาแก้ปวด
รอยโหว่
เมื่อสวรรค์มีตาหรือฟ้ามีใจส่งพี่ทองม้วนมาให้พบกับปลายตะวัน
คงเป็นเหมือนพรมลิขิตชักพา หรือวาสนานำส่งก็ไม่ทราบแน่ แต่
เหล่าเพื่อนๆของคุณปลายตะวันต่างก็คอยลุ้นตัวโก่งว่าพ่อยอดชาย
จะได้พบประสบรักแท้หรือไม่ เพราะได้ข่าวว่าคุณปลายตะวันจะมี
เวลาอยู่ได้อีกไม่ถึงสามปี นี่คือสิ่งที่เขาบอกพวกเรา หรือเขากำลัง
เป็นโรคร้ายที่ไม่มีทางรักษา หรือ อะไรกันเนี่ย ?
พี่ทองม้วนพยายามติดต่อหนำเลี๊ยบให้คุณปลายตะวันทุกวิถีทางแต่
ก็ยังไม่มีเสียงตอบรับออกมาสักที เหล่ารุ่นน้องของคุณปลายตะวัน
ก็พยายามโทรบอกคุณปลายว่าอย่าพึ่งยอมแพ้ อย่าพึ่งถอดใจ คุณ
รอเขามาได้นานถึงเพียงนี้ อีกไม่เท่าไหร่คุณก็จะสมหวังแล้ว สู้เขา
ทาเคชิ
คุณปลายตะวันมักจะคอยย้ำเตือนพวกเราสามสาวให้สวดมนต์
ก่อนนอนหัดนั่งสมาธิปฎิบัติธรรมที่บ้านบ้าง เขาบอกพวกเราว่า
เขาไม่ใช่คนธรรมะธรรมโมเขาแค่รู้สึกสงบทุกครั้งที่เขาปฎิบัติ
ไม่ว่าโลกภายนอกจะร้อนรุ่มเพียงใด ใจเขาจะสงบได้ทุกครั้ง
พวกเราก็ได้แต่ยิ้มแฉ่งส่ายหน้า โอ้แม้เจ้า ศิลห้าในทุกวันนี้
พวกเรายังรักษาแทบไม่ครบนี่จะให้มานั่งสงบสติอารมณ์ สงสัย
ว่าธาตุไฟคงเข้าแทรกแน่ แต่อย่าพึ่งห่วงพวกเราเลยมาสนใจ
กับคุณปลายตะวันดีกว่าว่าจะพบรักกับเขามั้ยชาติเนี่ย..
สามสาวลูกศิษย์คุณปลายตะวันมานั่งสุมหัวกันคิดวิธีต่างๆนาๆ
ที่จะให้คุณปลายตะวันมีรักที่สมหวังเสียที เพราะหลายครั้งที่พวกเรา
มานั่งขบคิดกันอย่างขำๆว่า เพราะเหตุใด ผู้ชายวัยสามสิบกว่าถึงยัง
ไม่มีครอบครัว ไม่มีคู่ครอง ทั้งๆที่หน้าตาก็จัดอยู่ในเกณฑ์ดีซะจนน่า
ใจหาย หน้าที่การงานก็จัดว่าดี จะเป็นไปได้หรือว่าเขาคนนี้มีรักเดียว
ที่ยาวนานจนไม่คิดจะเปิดใจให้กับใครอีก ทำไมเขาถึงไม่ติดต่อไปหา
หนำเลี๊ยบทั้งๆที่เธอก็ก้าวเข้าใกล้ประชิดตัวเขาแล้ว ทำไมเขาถึงไม่
พยายามไปหาเธอทั้งๆที่หากเขาเอื้อมมือออกไปก็จะไขว่คว้าได้ แต่
เขากลับมีความสุขอยู่กับพี่ทองม้วน เพราะพี่ทองม้วนละมังที่ทำ
ให้เขาดูเปลี่ยนไปกลายเป็นคนช่างพูดช่างคุย เที่ยวสนุกสนาน ไปนั่งอยู่
ตามร้านเหล้าปั่นต่างๆ ไปเที่ยวหัวหกก้นขวิดกับพี่ทองม้วนทั้งๆที่
เขาเองก็พึ่งจะคบหากับพี่ทองม้วนไม่นาน หรือว่า....หรือว่า...
ไม่หรอกน่าสิ่งที่พวกคิดอยู่ลึกๆคงจะไม่ใช่ ถึงแม้โลกจะหมุนเปลี่ยน
ไปตามยุคสมัยเท่าไร สิ่งที่เราแอบซุกซ่อนคิดในใจนั้นก็คงจะไม่ใช่
หรอก คงไม่มีทางที่คุณปลายตะวันจะสับสน เอ๊ะ หรือว่าเขาสับสน?
หญิงชายกลายกลับแม้น ร่างครอง
กำหนดกฎใดจอง จรดไว้
ผิดแผกแตกต่างตรอง สำนึก แลนา
ดีชั่วใช่ช่วงใช้ ร่างนั้นบันดาลฯ
ลิขิตฟ้า ประทานมา คำว่ารัก
ให้ประจักษ์ แลเห็น เป็นหลงใหล
มีทุกข์ตรม สมหวั่ง ดั่งตั้งใจ
มิขวางกั้น ชั้นใด ใคร่ชิดชม
ใช่จำกัด รักได้ แค่ชายหญิง
ความเป็นจริง หญิงรักหญิง มิเหมาะสม
หรือว่าชาย รักชาย ให้ตรอมตรม
ความนิยม นั้นมิให้ ได้ผูกพันธ์
หากฉันเป็น ผู้ชาย ในร่างหญิง
ด้วยใจจริง ชอบผู้หญิง มิ่งจอมขวัญ
ผิดหรือไม่ ด้วยหัวใจ สลับกัน
โอ้ตัวฉัน ร้าวรวด ปวดหัวใจ
หากเป็นหญิง ในร่างชาย ให้ต้องคิด
มีจริต จริยา คราอ่อนไหว
ผิดด้วยหรือ ความจริง ที่เป็นไป
คบไม่ได้ ใช่ไหม ใช่ของจริง
เพราะเป็นเพียง มายา ฟ้ากำหนด
หรือต้องโทษ โดนสาป คราบชายหญิง
เป็นแค่เพียง รูปกาย ใช่รูปจริง
ความเป็นหญิง หรือชายคู่ อยู่ที่ใจ
* * * *
25 มีนาคม 2551 10:32 น.
ยาแก้ปวด
ตอน รอยฝัน
เวลาผ่านไปชีวิตยังคงดำเนินต่อไปแข่งกับเวลา จากวัยเด็กก็เริ่ม
สู่วัยของความรับผิดชอบ หน้าที่การงานต่างๆประดังเข้ามา ผมย้ายถิ่น
ฐานตัวเองอพยบลงมาอยู่ที่ปทุมธานี ออกมาให้ไกลจากที่ๆทำให้ผมเจ็บ
ปวด ที่ๆมีแต่ความหลังและความทรงจำ ช่วงเวลานี้เองที่ผมกับหนำเลี๊ยบ
ได้ห่างจากกันโดยสิ้นเชิง อาจเป็นเพราะผมมุ่งที่จะทำแต่งานเลิกที่จะสน
ใจเรื่องรักๆใคร่ๆ ใช้ชีวิตอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมบนคอนโดชั้นเก้า มีงานที่ทำ
อยู่แค่หน้าจอคอมพิวเตอร์ วันๆแทบจะไม่ต้องออกมารับอากาศแสงแดด
ของโลกภายนอกเลย
รู้แต่ว่าเวลาที่คนอื่นเขาหลับไหลกันจะเป็นเวลาที่ผมตื่น งานของผมอยู่
บนโลกไซเบอร์ แต่ก็เพราะโลกนี้แหละที่ทำให้ผมได้ค้นพบอะไรอีกมากมาย
ไม่ว่าจะเป็นงาน หรือ แม้แต่มิตรภาพบนจอสี่เหลี่ยม แทบจะไม่น่าเชื่อเหมือน
กันว่าผมจะได้พบคนดีๆอีกหลายคนในจอสี่เหลี่ยมนี้ ผมถูกเพื่อนล้ออยู่เสมอว่า
น้ำลายผมจะแห้งเพราะผมใช้คีย์บอรด์แทนปากเสียแล้ว
มันคงจะเป็นอีกสังคมหนึ่งที่ผมได้สัมผัส ได้รู้จักคนจากหลายมุมเมือง
ได้พบรุ่นพี่ ได้พบรุ่นน้อง และได้พบทางสงบ ผมเริ่มเข้าใจสัจธรรมบนโลกนี้เสีย
แล้วว่าไม่มีอะไรที่แน่นอน เพราะความแน่นอนคือความไม่แน่นอน
ที่คอนโดแห่งนี้มีรุ่นพี่อยู่คนหนึ่งซึ่งผมพึ่งรู้จักได้ปีกว่าๆ เขาชื่อ"ทองม้วน"
พี่ทองม้วนออกจะเป็นคนที่มีอะไรตรงกันข้ามกับผมเสียหมด ผมพูดไปคำพี่
ม้วนแกตอบมาอีกยี่สิบคำ ผมคนซึ่งไม่เคยจะออกจากห้องสี่เหลี่ยมมานานปี
ตอนนี้พี่ม้วนแกลากผมไปไหนมาไหนด้วยตลอด ผมพึ่งรู้นี่แหละว่าการที่เรา
ได้ออกไปไหนมาไหนไปตะลอนๆชีวิตอยู่ข้างนอกบ้างมันก็เป็นอีกรสชาติหนึ่ง
ของชีวิต พี่แกให้เหตุผลกับการที่เราไปไหนต่อไหนอย่างอิสระว่า
"ฝนตกขี้หมูไหล คนจัญไรมาเจอกัน" ผมอดนึกในใจอย่างขำๆไม่ได้ว่า
อ้าว..นี่พี่ว่าผมหรือเปล่าเนี่ย..
จะว่าชีวิตเหมือนละครก็คงไม่แปลก โดยเฉพาะชีวิตของผม ซึ่งเหมือน
ฟ้าเล่นตลกให้พบแล้วพราก พรากแล้วพบ ตลอดเวลาที่ผมอยู่ที่คอนโดนี้เวลา
ที่ผมว่างพอที่จะนึกถึงใครสักคน มันก็จะมีเงาจางๆของหนำเลี๊ยบวกวนมา
ในสัมผัสของผมเสมอผมพยายามที่จะติดต่อหาเธอ แต่ไม่เคยสำเร็จ ผมไม่รู้
ว่าบ้านเธออยู่ไหน เบอร์โทรเธอเปลี่ยนไปเป็นเบอร์อะไร นานกว่าเจ็ดปีที่เรา
ไม่ได้ติดต่อกัน แต่แล้วฟ้าก็ลิขิตขีดเส้นมาให้ผมจนได้ เพราะเมื่อผมคุยเรื่อง
หนำเลี๊ยบให้พี่ม้วนฟัง อยากให้พี่ม้วนช่วยตามหาเธอคนนี้ให้ผม ปรากฎว่าสิ่ง
ที่ผมค้นหากลับอยู่ใกล้แค่ปลายตาผมเอง เพราะหนำเลี๊ยบกลายเป็นเพื่อน
สนิทของรุ่นน้องพี่ม้วน ภาพในความฝันของผมกำลังจะเป็นจริงแล้ว...
เฝ้าเก็บรักหลบเร้น รอยฝัน
กอดกักรักกว่า หมื่นมื้อ
ถวิลประหวัดวัน วารก่อน
หวามอกหวามซออื้อ อื่ออื้ออึงไฉนฯ
ดวงดาวดุจร่วงร้าว รอยหาย
ดังอกระทกจะวาย จากหล้า
ดุจแก้วจะหล่นกลาย แหลกล่วง
ทรวงทรุดสุดล้าถ้า ทบเถ้าธุลีสลายฯ
เร้นรอยรักรอบเร้น รอยฝัน
แอบรักแอบรำพัน หนึ่งผู้
รอเจ้าจวบเจียนผัน ผ่านภพ
รอรักรอยอดชู้ ชิดช้อนฉะม้ายชมฯ
จำนนแก่ฟากฟ้า ชะตา
รักกลับกลายจากลา จากเจ้า
อยากพบอยากสบตา สบต่อ
อยากบอกอยากเอื้อนเว้า เอ่ยอู้ความเฉลยฯ
ปลายอนันตกาลโน่นนั้น เนิ่นไกล
รอรักรอดวงใจ รักเจ้า
จักสถิตย์ท่ามดาวใด ดวงเดี่ยว
คงมั่นมโนเคล้า คลาดเคล้าบ่คลายถวิลฯ
* * * * *