21 กรกฎาคม 2547 14:56 น.
ยวน พระบาท
--- อันนี่หรือคือชีวิตที่คิดถึง
ดั้งดลปะประจักษ์ซึ้งจึงจักเห็น
พากายามาตามน้ำอย่างที่เป็น
เหตุไฉนจึงเย็นเต็มหัวใจ
--- แม้มีรักชักนำอยู่ลำหน้า
มีความหวังกำลังมากลับมาใหม่
นับเป้าหมายย้ายพลังเป็นดังไอ
พุ่งทะยานกลางใจของน้องนาง
--- แม้นมีบุญหนุนนำอยู่เต็มอก
วาสนาพาประสพก็พบหาง
ลิขิตฟ้ามาชี้ก็มีทาง
เทพนั้นสร้างสะพานตรงกลางใจ
--- สู้ฟ่าฟันหนทางยามลำบาก
สู้บันบากฝากจิตคิดไปไหน
ที่ทำนี้นนั่นเพราะนางอยู่กลางใจ
ทำลงไปไปหนใดก็ไปดี
--- เหตุไฉนไหนฟ้าไยใจพลิกผัน
วาสนามาพลันล้วนหันหนี
บุญที่เคยเลยสร้างมากแม้นมากมี
แต่หาได้ให้มีเช่นนมนาน
--- แกล้งนำหน้าล้านักก็พักพ่อน
แกล้งตามหลังละเลิงล่อนลองอาจหาญ
แกล้งตีห่างตามทางจากวันวาน
แกล้งรำคาญพาลเกเรด้วยเล่ห์กล
--- แม้นถึงที่ดีสุดที่จุดหมาย
คล้ายได้คลายความโศกที่โชกหน
คล้ายได้คลายขับทุกข์สุขกมล
คล้ายได้จบพบคนที่รู้กัน
--- แต่ได้สุขสุขจริงหาจริงไม่
ยามเมื่อใจในวิหกยังผกผัน
ยามเมื่อใจในมัจฉานำพามัน
ยามเมื่อใจไม่จีรังอยู่ยังยืน
--- ยามอกหักถูกเค้าเฝ้าหักอก
น้ำตาตกอกชอกชำจำต้องฝืน
เจ็บไม่จำจำจักเจ็บใจสะอื้น
สุดขมขืนขืนขมตรอมตรมจินต์
--- อันที่ทางร้างแรมจึงแกมหยุด
นิ่งสดุดสุดสงัดจัดถวิล
ที่ดูสูงสูงไปหาได้ยิน
เสียงคนดินดินนี้ที่ข้ามา
--- สุดหนาวเหน็บเจ็บจิตที่คิดถึง
คิดคำนึงคนึงนิตย์ทุกทิศา
คิดถึงรักรักร้าวร้างโรยรา
คิดถึงกาลเวลาที่พาไป
--- คิดถึงโศกเศร้าจิตจึงคิดถึง
คิดถึงความอันพึ่งดึงจิตไว้
คิดถึงขำขำย้ำกำลังใด
คิดถึงสุขก็ทุกข์ใจในบันดล
20 กรกฎาคม 2547 22:10 น.
ยวน พระบาท
ก่อนจะบอกออกความอาการช้ำ
โอ้ระยำย่ำจิตให้คิดถึง
ความเจ็บปวดรวดระร้าวดาวดึงส์
หทัยไร้ที่พึงจึงได้ไป
อันปวดหนึ่งเจ็บจริงยิ่งในอก
ปวดสดสดปวดจนร่ำน้ำตาไหล
แพ้เพียงพิษฤทธิ์ยาหาบรรลัย
ก็หาไม่ได้ตายวายชีวัน
อันปวดสองปวดหัวจนตัวสั่น
ปวดหัวพลันนั้นหนักนักสักร้อยผัน
ก็ปันเปลี่ยนเวียนหายกลายดีครัน
ปวดนั้นนั้นยังเปลี่ยนเป็นเยี่ยงดี
อันเจ็บสามตามเจ็บเจ็บนิดนิด
ค่อยสะกิดจิตถลอกลอกไม่หนี
ไม่มีหายหาได้คลายสุดอัปรีย์
เจ็บนิดนี้ทวีเร่งเต็มกำลัง
โบราณว่า ถ้าคำนวณร่วมความรู้
ชะตาชูดูนภาก็หาขลัง
ริสู้ฤทธิ์ลิขิตฟ้า บ้าพลัง
หมดความหวังหมดเรี่ยวแรงหมดแสนยา
เจ็บแล้วปวดยวดยิ่งทุกจินต์จิต
ร้อนสุดคิดฤทธิ์เกินคาดที่อาจหา
ร้อนเพราะรักพิษที่รักสุดพรรณนา
รักจนบ้ารักคนบ้าบ้าเนิ่นนาน
นางเดินเดี่ยวเที่ยวยั่วมั่วทุกทิศ
ไม่เคยคิดว่ากล้าบ้าอาจหาญ
ร้อยคืนวันพันปีที่ผ่านพาน
ไม่เคยพาลเป็นเช่นนี้ไม่ชื่นชม
เดินยักคิ้วหลิ่วตาหาสำเหนียก
ไม่ต้องเรียกก็พอบอกเพราะเสียงขรม
เดินมาลองกับผมผิดนิยม
แกล้งไม่สนแต่สุดทนล้นบรรยาย
แกล้งควงหนุ่มดุ่มดุ่มเดินเมินหน้าผม
ใจระทมจมทุกข์ทุกทิศสาย
นั่นแกล้งเล่นหรือเห็นจริงทีเดียวตาย
จะลองชายหรือลองเชิงเพื่อเพลินพา
วอนสายลมวนเวียนใจเจียนช้ำ
จงช่วยนำคำขอโทษอย่าโกรธหนา
ยอมแล้วจ้าข้ายอมจริงทุกสิ่งนา
ขอเพียงนางกลับมาหาข้าก็พอ
20 กรกฎาคม 2547 21:56 น.
ยวน พระบาท
ก่อนจะบอกออกความอาการช้ำ
โอ้ระยำย่ำจิตให้คิดถึง
ความเจ็บปวดรวดระร้าวดาวดึงส์
หทัยไร้ที่พึงจึงได้ไป
อันปวดหนึ่งเจ็บจริงยิ่งในอก
ปวดสดสดปวดจนร่ำน้ำตาไหล
แพ้เพียงพิษฤทธิ์ยาหาบรรลัย
ก็หาไม่ได้ตายวายชีวัน
อันปวดสองปวดหัวจนตัวสั่น
ปวดหัวพลันนั้นหนักนักสักร้อยผัน
ก็ปันเปลี่ยนเวียนหายกลายดีครัน
ปวดนั้นนั้นยังเปลี่ยนเป็นเยี่ยงดี
อันเจ็บสามตามเจ็บเจ็บนิดนิด
ค่อยสะกิดจิตถลอกลอกไม่หนี
ไม่มีหายหาได้คลายสุดอัปรีย์
เจ็บนิดนี้ทวีเร่งเต็มกำลัง
โบราณว่า ถ้าคำนวณร่วมความรู้
ชะตาดูชูนภาก็หาคลัง
ริสู้ฤทธิ์ลิขิตฟ้า บ้าพลัง
หมดความหวังหมดเรี่ยวแรงหมดแสนยา
เจ็บแล้วปวดยวดยิ่งทุกจินต์จิต
ร้อนสุดคิดฤทธิ์เกินคาดที่อาจหา
ร้อนเพราะรักพิษที่รักสุดพรรณนา
รักจนบ้ารักคนบ้าบ้าเนิ่นนาน
นางเดินเดี่ยวเที่ยวยั่วมั่วทุกทิศ
ไม่เคยคิดว่ากล้าบ้าอาจหาญ
ร้อยคืนวันพันปีที่ผ่านพาน
ไม่เคยพาลเป็นเช่นนี้ไม่ชื่นชม
เดินยักคิ้วหลิ่วตาหาสำเหนียก
ไม่ต้องเรียกก็พอบอกเพราะเสียงขรม
เดินมาลองกับผมผิดนิยม
แกล้งไม่สนแต่สุดทนล้นบรรยาย
แกล้งควงหนุ่มดุ่มดุ่มเดินเมินหน้าผม
ใจระทมจมทุกข์ทุกทิศสาย
นั่นแกล้งเล่นหรือเห็นจริงทีเดียวตาย
จะลองชายหรือลองเชิงเพื่อเพลินพา
วอนสายลมวนเวียนใจเจียนช้ำ
จงช่วยนำคำขอโทษอย่าโกรธหนา
ยอมแล้วจ้าข้ายอมจริงทุกสิ่งนา
ขอเพียงนางกลับมาหาข้าก็พอ
8 กรกฎาคม 2547 22:04 น.
ยวน พระบาท
... น้ำเซาะหาดทรายขาววาวระยับ
สุขสะงัดชักสบายคลับคล้ายเห็น
สรวงสวรรค์ชั้นวิมานอย่างที่เป็น
ขอเปรียบเอ็งเช่นน้ำวิ่งตามทราย
จินต์จิตนิ่งสิงสถิตจนมิดหาด
สุดคิดคาดคิดคำนึงคิดมาดหมาย
กายาก่ายกรายกล้ำล้ำลวดลาย
วาดกลายกลายหลายบทจบหนึ่งตอน
น้ำคลื่นเคลื่อนเลื่อนครบพบริมฝั่ง
น้ำคลื่นฝังตั้งตัวตรงลงสนอง
น้ำคลื่นจบกระทบทรายตามครรลอง
น้ำก็วอนงอนง้อทรายที่ตายรัง
น้ำลูกใหม่ใจจะมาก็มาถึง
คราครั้งนี้เคร้าคลึงถึงสวรรค์
แม้นจะจบใจความตามกำลัง
แต่ใจท่านยังหวนหาราร่ำไป ...
6 กรกฎาคม 2547 22:40 น.
ยวน พระบาท
กลางสนามการประจัญโรมรันราว
ชุดสีขาววาวสง่ามีราศี
ชุดสีดำกำหราบด้วยฤทธี
ใช่ได้ดีดีนักประจักษ์กัน
กลศึกรับรุกบุกหนักหนา
ชุดขาวนำได้ชัยมาไม่หุนหัน
ชุดดำแกร่งนำบุกสุดกำลัง
สองฝ่ายนั้นยังมีขวัญกำลังใจ
ชุดดำตั้งดั้งด้นตีอุตรุด
รณยุทธ์สุดทานทนจำทนไหว
ทัพม้าบุกบากบันฝ่าฟันไป
หลังจะให้ได้ชัยในสงคราม
ชุดขาวนั่งนิ่งนิ่งพิงผนัง
รวมพลังขับสู้รบจบรอบสาม
อันกำลังต่อกำลังไม่ตั้งตาม
ต้องใช้ความฉลาดเข้าครองงำ
ส่งธนูคู่หอกลอบประจักษ์
นำไปหักประหัดหารหาได้ขำ
สง่ปืนใหญ่ยิงหนุนเต็มกำลัง
คอยจุนเจือที่เหลือกำเอาชัยมา
ฝ่ายดำไหนไหนดูคิดดูใหม่
ลมเป็นใจใช่ดีโชคมาหา
นำแม่ทัพรับบุกทุกเวลา
หวังพึ่งพานำเป็นขวัญกำลังคน
อันรบหนักครานี้ที่ยามสอง
ตามครรลองควรประจักษ์มักเป็นผล
แต่งานนี้มิดีเพราะทานทน
อยู่มั่นคงดำรงได้อย่างไร
สุดท้ายนี้ชี้กันที่ลานกว้าง
กลางสนามแม่ทัพอันยิ่งใหญ่
แต่ไฉนธรรมชาติกำเนิดภัย
ประหลาดใจในชีวิตลิขิตไป
อันกระดานหมากรุกของตูนี้
จะเล่นจบพบวิธีนำสมัย
แต่คู่ขาพาล้มโต็ะในทันใด
สุดหัวใจห้ามจิตคิดตีกัน
จากกระดานลากกว้างแปดแปดช่อง
สู่กลางห้องตีกันมันสนั่น
สู่ลานบ่อนก็อัดกันพัลวัน
เจ็บกันไปหลายวันหลับฝันดี