23 กุมภาพันธ์ 2548 11:46 น.
ม้าลาย
พัดผ่านพรมโลกพร้อม.........ฤดูกาล
เสียงแผ่วสายลมหวาน.........แว่วสะท้อน
ทิ้งฝนท่วมชลธาร...............ชายทุ่ง
ไม้แตกยอดผลิซ้อน...........ซับน้ำยามวสันต์
ดุจทิพย์ชโลมไล่ร้อน.........คลายลง
ปัดเป่าราวประจง..............จูบไล้
โลกแล้งเอิบอิ่มสรง..........สนานสุข
หว่านเมล็ดพันธุ์พืชไว้....... ผลิก้านดอกผล
ลมเปลี่ยนทิศกลับย้อน.........ยามหนาว
แรงปลิดใบไม้กราว...............ร่วงพื้น
แล้งผ่านโลกทุกคราว...........คราพิสูจน์
รากหยั่งลึกย่อมฟื้น..............อีกครั้งหลังฝน
หายใจเข้าออกคล้าย...........ชีพคน
มีรับมีให้วน.......................สลับบ้าง
เกิดแก่เจ็บตายชนม์.............ชีพหนึ่ง
แทนที่เสื่อมสูญสร้าง..........วัฏไว้ให้เห็น
8 มกราคม 2548 00:09 น.
ม้าลาย
ใต้ผิวพื้นคลื่นน้ำสีครามนั้น
บนผืนทรายหาดสวรรค์เช้าวันหนาว
ใต้กองโคลนกองดินสาบกลิ่นคาว
บนผืนโลกรวดร้าวใต้เลือดริน
พรากชีวิตพรากหัวใจไปต่อหน้า
พรากน้ำตาหลั่งไหลไม่รู้สิ้น
พรากทำลายบ้านเรือนศพเกลื่อนดิน
พรากวิถีพลัดถิ่นสิ้นหนทาง
จากแดนไกลข้ามฟ้ามาครึ่งโลก
จากใจโศกค้นหาสุดฟ้ากว้าง
พบชีวิตเหมือนหวังยังเลือนราง
พบน้ำใจไม่จืดจางจดจำไว้
คลื่นสูงฝ่ามหาสมุทรสุดแรงคลั่ง
คลื่นน้ำตาท้นฝั่งยากยั้งได้
คลื่นอาสาบรรเทาทุกข์ลูกหลานไทย
คลื่นน้ำใจหลั่งรินทั่วดินแดน
รักพี่น้องร่วมโลกร่วมโศกด้วย
รักกันช่วยพลิกฟื้นร่วมหมื่นแสน
รักเพื่อนบ้านผองญาติผู้ขาดแคลน
รักทดแทนใจสลายใต้คลื่นมาร
แก้ไขตามคำแนะนำของคุณก๊อง ขอบคุณครับ
7 ธันวาคม 2547 22:44 น.
ม้าลาย
ทีละน้อยละน้อยค่อยค่อยหล่น
ทีละหยดหยาดฝนบนยอดคลื่น
ทันใดเสียงฟ้าร้องก็ก้องครืน
ยกแผ่นน้ำหมุนพื้นเป็นคลื่นควง
ดันเกลียวม้วนสูงกล้าด้วยพายุ
แรงโถมดุกระแทกฟ้าน้ำตาร่วง
ซัดสาดซ้ำกระหน่ำดาวพราวล้านดวง
จนดับล่วงลาคืนเคยดื่นดาว
แสงฟ้าแลบแปลบปลาบทอดทาบน้ำ
ส่องคลื่นดำปนฟองเกร็ดฟ่องขาว
ฉายรูปเงามัจจุราชทอดพาดยาว
กู้เบ็ดราวเกี่ยวสิ้นดวงวิญญาณ
เหล่าล่วงลับเพราะลมพัดจมร่าง
ล่องลอยคว้างชีวินสิ้นสงสาร
เขียนชะตามหรรณพจนจบกาล
กำหนดวารตามแต่กระแสกรรม
6 ตุลาคม 2547 08:45 น.
ม้าลาย
เรียกว่า---ประชาธิปไตย
จากไฟลุกโชนจนมอดถ่าน
ซากศพทับถมอุดมการณ์
จดจารึกตำนานแห่งพานปูน
อนาถเอ๋ย---หัวอกนกพิราบ
แค่เค้าเงาภาพผู้สาบสูญ
กับคราบน้ำตาความอาดูร
บนกองปฎิกูลอดีตกาล
เสรีภาพล่องหนอยู่บนฟ้า
เมฆเทามืดทาดุจผ้าม่าน
กลั่นกระสุนโปรยห่ามาเป็นทาน
คร่าผลาญเลือดท้นถนนนอง
คือ---ตุลาคม
เพียงลมพัดอู้อยู่กึกก้อง
โหยหาสิ่งใดในพานทอง
หรือเสียงร้องที่แหบหายในพายุ
++ ภาพเก่าๆ ++
จากรอยเท้ากาจกล้า...............กว่าพัน
ก้าวเก็บรอยร้าววัน.................หนึ่งไว้
พึงหวนคิดย้อนหัน..................กลับนึก ตรึกแล
ทวนเรื่องราวล้วนให้................ชัดได้บัดดล
วีรชนพลีชีพไว้.......................ให้ชม
ภาพศพเลือดอาบจม.................ร่างสิ้น
หว่างหนหว่างใจตรม.................ตรอมพรั่น นั้นแล
ตนอยู่เพื่อทนดิ้น.....................ต่อสู้รอใคร
อุดมการณ์ซ่อนไว้...................ในไพร
พฤกษ์โอบล้อมตรึกใน..............สติตั้ง
ตริไฉนโลกแห่งใจ...................แห้งเหือด เดือดฤๅ
ใดก่อเวรกรรมครั้ง...................ใหญ่ให้ร้อนดิน
อำนาจมืดล้อมร่าง....................ดังฝัน ร้ายแล
หลากร่างกอดกายกัน................ก่ายดิ้น
ทิ้งกองเลือดฆ่าฟัน...................วันเก่า
รินรดท่วมสิ้นลิ้น.......................ปากร้องทักความ
สู่ยุคเงียบไร้สรรพ.....................ขับเสียง
สร้างเปลือกซ่อนพรางเพียง.........ครอบไว้
รอบหนามแตกเถาเรียง..............รุกยอด ทอดแล
ตามผูกโซ่ล่ามไร้......................ค่าไร้ปรานี
วิญญาณนักต่อสู้.......................อยู่ไหน
เล่าดุจเรื่องเก่าใน......................อดีตนั้น
ผิดที่วิรชนใด............................สร้างเรื่อง เคืองฤๅ
ดีแค่ฝากผีรั้น............................ยั่วแม้ตัวตาย
จากรอยเท้ากาจกล้ากว่าพันก้าว
เก็บรอยร้าววันหนึ่งไว้พึงหวน
คิดย้อนหันกลับนึกตรึกแลทวน
เรื่องราวล้วนให้ชัดได้บัดดล
วีรชนพลีชีพไว้ให้ชมภาพ
ศพเลือดอาบจมร่างสิ้นหว่างหน
หว่างใจตรมตรอมพรั่นนั้นแลตน
อยู่เพื่อทนดิ้นต่อสู้รอใคร
อุดมการณ์ซ่อนไว้ในไพรพฤกษ์
โอบล้อมตรึกในสติตั้งตริไฉน
โลกแห่งใจแห้งเหือดเดือดฤๅใด
ก่อเวรกรรมครั้งใหญ่ให้ร้อนดิน
อำนาจมืดล้อมร่างดังฝันร้าย
แลหลากร่างกอดกายกันก่ายดิ้น
ทิ้งกองเลือดฆ่าฟันวันเก่าริน
รดท่วมสิ้นลิ้นปากร้องทักความ
สู่ยุคเงียบไร้สรรพขับเสียงสร้าง
เปลือกซ่อนพรางเพียงครอบไว้รอบหนาม
แตกเถาเรียงรุกยอดทอดแลตาม
ผูกโซ่ล่ามไร้ค่าไร้ปรานี
วิญญาณนักต่อสู้อยู่ไหนเล่า
ดุจเรื่องเก่าในอดีตนั้นผิดที่
วิรชนใดสร้างเรื่องเคืองฤๅดี
แค่ฝากผีรั้นยั่วแม้ตัวตาย
4 กันยายน 2547 16:37 น.
ม้าลาย
เสียงคลื่นสาดเซาะทรายริมชายน้ำ
เล่าลำนำขุนเขาเงี้อมเงาผา
ผู้หยัดขืนแรงทะเลและเวลา
จวบหินกล้ากร่อนเห็นเป็นพื้นทราย
กลืนเหล่าซากเสื่อมสลายบนชายหาด
บดเป็นธาตุทับถมจนจมหาย
บ้างฝากรอยงดงามของความตาย
เป็นรูปคล้ายพิมพ์ลงบนผงดิน
ตกตะกอนแทรกไปใต้ผิวพื้น
หล่อหลอมกลืนผนึกแน่นกับแผ่นหิน
ซึมซับสารอินทรีย์ซากชีวิน
สร้างเป็นสินสายแร่และน้ำมัน
สิ่งล้ำค่ารอไว้ให้ขุดค้น
เพียงสู้ทนฝ่าดินฝ่าหินกั้น
เช่นผงถ่านหลอมแกร่งใต้แรงดัน
ก่อผลึกเพชรหลากสีสันให้ชื่นชม
พลังชีวิตหมุนเวียนเปลี่ยนรูปร่าง
ผ่านสสารสลับสร้างส่วนผสม
ผสานรูปสลายร่างฝังดินจม
เพื่อปะทุเถ้าลอยลมปิดผืนฟ้า
หินละลายท่วมทะลักจากปล่องเขา
กลบชีพเก่าจมไว้ใต้ภูผา
ให้ชีพใหม่ฝังรากฝากชีวา
ผลัดเปลี่ยนหน้าสุขและโศกบนโลกเดิม