20 มิถุนายน 2548 00:35 น.
ม้าลาย
จากขอบฟ้าจรดน้ำ..........เนานาน
ยามสงบนิ่งสนิทปาน.......กระจกแก้ว
ฟ้าพิโรธทะเลลาญ..........กระหายเลือด
เคียงคู่คงไม่แคล้ว..........เนื่องร้อยอารมณ์
เปล่งแสงสีส่องสะท้อน....ทอฝัน
เงาทาบเงาผูกพัน..........ภาพพ้อง
หลากรุ้งหว่างวารวัน........คืนวาด
ฟ้ารุ่งฤๅค่ำคล้อง............ขอบน้ำงามเสมือน
ฟ้าเผาแดดแผดร้อน.........ราวไฟ
น้ำระเหยผ่าวไอ...............อาบฟ้า
สองสัมผัสสนิทใน............ทรวงอุ่น
ผูกจิตไมตรีจ้า................จวบสิ้นแสงตะวัน
จันทร์แรมคราค่ำคล้อย.......คืนเหงา
แสงส่องน้ำงามเงา.............เงื่อนแจ้ง
รับรู้ระลึกเรา.....................แรมห่าง
ไร้จิตราวจันทร์แล้ง............ร่วงฟ้าเฟือนหน
น้ำตาฝนหล่นฟ้า................เลือนฝัน
พายุกระแทกพลัน...............พลิกน้ำ
คลื่นมหาสมุทรผัน...............เปลี่ยนภาพ
เสียงอัสนีบาตซ้ำ................โศกเกรี้ยวกราดไฉน
มองขอบฟ้าจรดน้ำ...............เนิ่นนาน
หลายหลากอารมณ์ผสาน......ซับซ้อน
เปลี่ยนฉากแต่งตามวาร.......วันวาด
สุขโศกหนาวเย็นร้อน..........ย่อมรู้เพียงเรา
20 มิถุนายน 2548 00:32 น.
ม้าลาย
แสงเทียนส่องสะท้อน..................ตัวตน
ปรากฏเงาคู่คน...........................ขนาบข้าง
เกิดด้านสว่างโดยดล....................มืดอีก ด้านฤๅ
สองภาพแสงเพลิงสร้าง................สิ่งเร้นเห็นไข
เคลื่อนขับนัยเนื่องคล้อง..............เคียงกัน
เงาทาบหน้าหลังหัน....................สลับได้
ส่องทางส่องสีสัน.......................ส่องโลก
คืนมืดกระจ่างใต้........................หยดน้ำตาเทียน
วนเวียนระเหิดแห้ง.......................ลอยหาย
เศษซากหลอมละลาย..................หล่อซ้ำ
สาวไส้เสียบเส้นสาย.....................สลักรูป
สืบทอดศิลป์ศาสตร์ล้ำ-.................ค่าแม้นควรเมือง
เรืองโรจน์คงชั่วครั้ง........................ชั่วคืน
ไส้หมดน้ำตากลืน..........................กลบเถ้า
วาสนามิอาจฝืน.............................ตะวันรุ่ง
เทียนดับลงเมื่อเช้า........................สถิตไว้เชิงเทียน
24 พฤษภาคม 2548 01:37 น.
ม้าลาย
มือพุ้ยน้ำไขว่คว้าทั้งตาบอด
ไร้ทางรอดเวียนว่ายในความหลง
แต่ละวันจมคลื่นซัดขึ้นลง
และยังคงเคว้งคว้างอยู่อย่างนั้น
เกาะเรือรั่วหลงทางฝ่ากลางฝน
ไร้เครื่องยนต์หางเสือช่วยเอื้อฝัน
พลิกคว่ำหงายตายซากเพราะรักกัน
สู้ดึงดันดื้อไฉนไม่ยอมแพ้
โทษพายุโชคชะตาสารพัด
ด้วยอ่อนหัดเกินกว่าหาทางแก้
ปล่อยอารมณ์ผันผวนเปลี่ยนปรวนแปร
ตามกระแสน้ำซัดจักพัดพา
ใช้ชีวิตทั้งชีวิตวนติดกับ
แตกย่อยยับกลางทะเลเสน่หา
ทุกข์ถมทุกข์โถมถั่งประดังมา
จมน้ำตาท่วมท้นสิ้นหนทาง
ไม่มีฝั่งฝันใดเพื่อไปถึง
ไม่มีสุขสุดซึ้งเพื่อพึงสร้าง
มีแต่ไห้โหยหวนคร่ำครวญคราง
จากรักค้างรอยแค้นฝังแน่นใจ
11 พฤษภาคม 2548 23:29 น.
ม้าลาย
สัมผัสแผ่วบรรเลงบทเพลงรัก
สุดห้ามหักอำนาจปรารถนา
ใต้มนต์ดาวพราวพร่างเกลื่อนกลางฟ้า
เปล่งประกายสายตาส่องราตรี
ประสานมือเต้นรำตามใจก้าว
กอดกายผ่าวรุกรับสลับที่
ร่ายลีลาร้องเล่นเจนเวที
เนื้อแนบเนื้อสุขนี้อยู่เนิ่นนาน
จังหวะเนิบดนตรีต่างลีลาศ
สืบปลายเท้าก้าววาดสอดประสาน
โอบเอวชิดสนิทนำเช่นชำนาญ
เคลื่อนขยับรับต้านตามทำนอง
เสียงร้องรับขับขานประสานเสียง
พลอดพร่ำเพียงสุขมอบตอบสนอง
ยิ้มตอบยิ้มกระหยิ่มย้ำยิ่งลำพอง
จังหวะเร่งเพลงร้องระทึกใจ
ผ่อนบรรเลงบทช้าอีกคราหนึ่ง
พร่ำจุมพิตสนิทซึ้งสร้างรอยใหม่
พิศดวงหน้างดงามแฝงความนัย
ซ่อนสุขใต้รอยยิ้มเพริศพริ้มเพรา
ซ่านทรวงซบสวมกอดสอดประสาน
แต่งวิมานด้วยรักสลักเสลา
พลันเสียงเพลงหวานแว่วเพียงแผ่วเบา
ก็จุดเร้าไฟปรารถนาอีกคราครั้ง
3 มีนาคม 2548 00:13 น.
ม้าลาย
หลายคำบอกไว้ให้รับรู้
หลายคำฟังดูเหมือนไร้ค่า
หลายคำยึดมั่นดังสัญญา
หลายครั้งหลายคราคือแค่คำ
ร้อยพันผูกรักด้วยอักษร
ร้อยวันคืนวอนทุกเช้าค่ำ
ร้อยฝันล่วงไปมิได้ทำ
ร้อยช้ำร้อยสิ่งไม่จริงใจ
ลมปากพูดไว้แล้วหายลับ
พัดกลับหวนหันนั้นที่ไหน
สัญญาเช่นกันเมื่อผ่านไป
เหลือใครหลงคำถลำทาง
สัญญามัดใจใครไม่ได้
คำพูดแฝงนัยความหมายกว้าง
ตีความคลุมเครือเพื่ออำพราง
ยกเลิกล้มล้างเมื่ออำลา