12 มีนาคม 2549 10:46 น.
ม้าลาย
๑
ชีวิตคือขดร้อย...........เกลียวธุลี
สืบธาตุบรรพบุรุษมี......แบบไว้
กำเนิดจากสิ่งดี...........กำหนด
ยังชีพเพียงเพื่อใช้.......ล่วงแล้วคืนดิน
๒
หวานลิ้นวันเปิดแย้ม......เปลือกตา
หวานรักอกมารดา.........อุ่นเต้า
หวานมธุรสธารา...........แห่งโลก
หวานแรกเบิกตาเจ้า......เบิ่งฟ้าดินหวาน
๓
เพียงน้ำตาลแตะลิ้น......รับสาร
ปากย่อมยิ้มยิ่งหวาน.....ดุจด้วย
แรงขับเคลื่อนพลังงาน..ชีวิต
ซ่อนลูกกวาดในถ้วย.....นับร้อยพันสี
๔
มีหัวใจเพื่อแจ้ง.............ใจตน
ดิ้นเรียกร้องดิ้นรน........ไขว่คว้า
เวียนท้องอิ่มหิววน.........ทุกข์สุข
เรียนกฎจนเติบกล้า.......กับรู้แบ่งปัน
๕
วันเดือนเคลื่อนผ่านพ้น.....วัยเยาว์
สรรพรสสะสมเอา..............ออกใช้
รักหวานรสหวานเรา.........ร่วมเสพ
รับส่งสัมผัสได้....................ลึกล้ำหลากหลาย
๖
ใจกายกำหนดคล้อย.......ตามกัน
กำหนัดสัตว์สืบพันธุ์........สุขสร้าง
หลากรูปร่างสีสัน............ปรากฏ
แต่งโลกงามอวดอ้าง.......ถูกต้องตามวิถี
๗
มีรอยยิ้มแตะแต้ม...............ดวงตา
เพียงพริบแย้มแววพา.........วาบพร้อย
หัวใจสูบฉีดทา...................เลือดฝาด
หวานหยดงามหยดย้อย........หยดน้ำผึ้งพระจันทร์
๘
วันชื่นยังนึกย้อน..............กลับไป
คืนสุขคือสงบใจ.................จากนี้
ประสบการณ์ผ่านยุคสมัย..เจนจบ
จากเด็กคนหนึ่งชี้.............เรียกร้องเอาขนม
๙
อมยิ้มมองเหล่าล้วน.......ลูกหลาน
ราวว่าย้อนวันวาน..........กลับได้
ดอกไม้เมื่อแย้มบาน.....ย่อมร่วง โรยแล
ร่อนกลีบพราวตกใต้......พุ่มพร้อมผลิผล
๑๐
จนวันจมทุกข์ด้วย..........ความชรา
ประสาทเสื่อมสองตา.......ขุ่นต้อ
ไร้สัมผัสรสครา..............ครองสติ
นอนนิ่งทนเหนื่อยท้อ......ที่แท้สัจธรรม
๑๑
มือสั่นกำช้อนตัก...........อาหาร
ป้อนเฒ่ามิรู้หวาน.........แตะลิ้น
ต่างคนตระหนักการ......พลัดพราก
จนหมดลมจึ่งสิ้น............สุดสร้างเวรกรรม
๑๒
หวานล้ำยามโลกแย้ม....ยิ้มมา
วางแตะบนเปลือกตา.....หลับพริ้ม
เคียงคู่ตราบจนวา-........ระสุด ท้ายฤๅ
นึกสุขย่อมสุขลิ้ม.............รสน้ำตาหวาน
16 มกราคม 2549 19:00 น.
ม้าลาย
กระดานดำว่างร้าง.......คำเขียน
ทุกที่คือโรงเรียน........อ่านได้
คิดเองฝึกเองเพียร......ท่านว่า
สำเร็จหลักสูตรไร้.......สักข้อกังขา
เสียงชอล์กเคยขีดเส้น.....แสลงหู
เสียงตะคอกคำครู...........ตอกหน้า
หนังสือสั่งให้ดู...............ให้ท่อง
แปรงลบกระดานคว้า........จับขว้างสั่งสอน
ไม้เรียวถูกหักทิ้ง........เงียบงำ
ไร้เรื่องควรท่องจำ......เลิกป้อน
สารพัดเครื่องมือนำ......ถูกผิด
วัตถุสื่อสะท้อน...........ยุคนี้ทันสมัย
เคยจำเคยเจ็บครั้ง........ครูตี
หนังแตกแต่ละที.........แทบไข้
สิทธิมนุษยชนมี...........ตามข่าว
หน้าหนึ่งครูกับไม้.........ยิ่งย้อนคิดถึง
น้ำตาครูหยดนั้น........ไปไหน
วันรับปริญญาใคร.......เล่าซึ้ง
เสียงจริงจากหัวใจ.......จึงสื่อ
คุกเข่าลงละขึ้ง..........กราบพร้อมรับพร
............
วันนี้วันครูครับ ทำให้นึกย้อนกลับไปกาลครั้งหนึ่งในห้องปฏิบัติการน้ำตาเล็ด วิชาหนึ่ง พอดีว่าตรงกับวันรับปริญญาของรุ่นพี่ จึงมีรุ่นพี่หลายคนในชุดครุยเข้ามาคุกเข่ากราบครู และวันนั้นก็ได้เห็นครูร้องไห้
31 ธันวาคม 2548 12:12 น.
ม้าลาย
ส่ง...ความสุขเปิดไว้...........ไม่ปิด
ท้าย..ฝากมากมายมิตร.......พี่น้อง
ปี....หมาร่วมแรงจิต...........จอต่อ จอแล
ระกา..เก่าแล้วว่าต้อง..........ผ่านให้ผ่านไป
ส่งความสุขเปิดไว้ไม่ปิดท้าย
ฝากมากมายมิตรพี่น้องปีหมา
ร่วมแรงจิตจอต่อจอแลระกา
เก่าแล้วว่าต้องผ่านให้ผ่านไป
จากจอหนึ่งจอไหนในปีนี้
โลกยังมีสีชมพูเดิ้ลอยู่ไหม
ทิ้งภาระกายกรรมนำเหนื่อยใจ
ของขวัญหลังอานมอไซค์เต็มไปเลย
ให้ปีหมาจุดความคิดมีสิทธิ์หวัง
ฟังหูไว้หูตั้งใจเปิดเผย
ทั้งฉันเทอร์เรียกกันวุ่นคนคุ้นเคย
ชงเหล้าบางแก้วเสยชนแก้วกัน
จะเป็นหัวหรือหางดาบสร้างไว้
ลับคมให้ก่อนปักกิ่งสักฝัน
เป็นไม้ใหญ่ชะชิสุริยัน
เผาเท่าไรก็ไม่หวั่นเนอะพวกเรา
12 ธันวาคม 2548 18:43 น.
ม้าลาย
ขอบฟ้าเรืองรับขวัญตะวันรุ่ง
แดดส่องมุ้งลมพัดสะบัดไหว
ทอริ้วคลื่นทองคำเหลืองรำไร
อาบประทับดวงใจอุ่นนัยน์ตา
นกกระจิบกระจอกจ้อล้อเสียงแจ้ว
น้ำค้างแก้วเม็ดใสเกาะใบหญ้า
ลมอ่อนโลมไม้ไหวแกว่งไปมา
บรรเลงเพลงเบิกฟ้าเปิดตาวัน
คำกระซิบเพียงแผ่วคงแว่วซึ้ง
พ้นคืนหนึ่งผ่านข้ามขอบความฝัน
คลอลำนำรักเรียงเคียงคู่กัน
ในอ้อมจันทร์อ้อมดาวพราวดวงใจ
แดดเช้าเรืองฉาบฟ้ามาเรื่อยแล้ว
สัมผัสแผ่วคลำค้นคนหลับใหล
หลับตาพริ้มยิ้มย้อนซ่อนความนัย
ซ่อนความลับเรื่องใดเมื่อคืนนี้
28 พฤศจิกายน 2548 12:39 น.
ม้าลาย
เมื่อค้นพบใครบางคนที่ค้นหา
อ่านความลับในสายตาเห็นกว่าเห็น
คำเดียวออกจากปากเคยยากเย็น
จึงกล่าวซ้ำซ้ำเป็นร้อยร้อยครั้ง
ใต้รอยยิ้มแผลเจ็บเคยเก็บไว้
ผูกหัวใจตรึงล่ามกับความหลัง
ซุกซ่อนตัวตนไว้ใต้ภวังค์
ไม่รับรู้รับฟังเสียงใจใคร
คนบางคนมีค่าเพื่อหาพบ
เพื่อช่วยลบความทรงจำเคยร่ำไห้
จากล้มลุกคลุกคลานจนผ่านไป
เติมดวงไฟพริบแพรวเต็มแววตา
ค้นโลกมืดกระทั่งเห็นทางสว่าง
เป็นรูปร่างใครบางคนที่ค้นหา
ฉันพบแล้วจึงย้ำคำนั้นมา
มันมีค่าเท่าไรฤๅไม่รู้