16 สิงหาคม 2548 23:12 น.
ม้าก้านกล้วย
ปิงเอย เอ่อจน แม่ล้นฝั่ง
หลากหลั่งล้างไหลใดกันหนอ
หนักหน่วง เหลือต้าน สะท้านท้อ
พักพอเถิดแม่ เฮาแพ้ภัย
หวังรื่น รมย์แม่ ปิงแผ่ป้อง
จึงครองพาราอยู่อาศัย
ยึดฝั่งปิงอยู่รู้แก่ใจ
นับกาลนานไกลหลายร้อยปี
บ่เกยหันแม่ กระแสเกรี้ยว
กำเดียวหลามรวมท่วมล้นปรี่
บ๋ฮู้กองล่องกลหนตางหนี
ตึงบ่มี ตี้หลบภัย ณ ใดกัน
วอนแม่ วารี ศรีเวียงพิงค์
สางสิง ผีร้าย ตนใดนั่น
อุทกสาปสา แทบจาบัลย์
โทษทัณฑ์ อินทรา หรืออาภัพ
หนตาง กลับกลาย เป็นสายน้ำ
แจ่งขะต้ำ จมต่ำ ระกำกลับ
สูญสินสิ้นเพียง จะเซี่ยงทรัพย์
ฉวยจับ หยิบมือ พอถือไหว
ปิงแม่เอ่อท้นจนล้นท่วม
น้ำรวมร้อยแหล่งรุนแรงไหล
ท่วมบ้าน เมืองหมด รันทดใจ
เชียงใหม่ พัฒนา เป็นบาดาล
(ม้าก้านกล้วย)
16 สิงหาคม 2548 15:35 น.
ม้าก้านกล้วย
รักคือร้อยมาลานานาพันธุ์
สุดแต่สรรล่าเร่หาเกษร
ผู้หารักจักประหนึ่งผึ้งภมร
ย่อมไชชอนร่อนล่า มาลานั้น
บ้างไปพบน้ำหวานอันหอมหวน
ปานจะทวนลมรำพึงถึงสวรรค์
ผิเสพย่อมหอมล้ำร่ำรำพัน
ผิผู้อันพึงใจได้ลิ้มรัก
หนึ่งใน ร้อยล้าน วนาลี
ย่อมมี น้ำขม จมกระอัก
ภมรใด ไปเชย เลยสำลัก
แล้วทึกทัก ว่ามวล มาลีทราม
กลับเกลียดความรักเสียนักหนา
ตราหน้ารังเกียจและเหยียดหยาม
ไม่ฟังคำอธิบายไม่สนความ
และคิดตามรสรับกลับปิดใจ
แต่หากยังมีอีกในซีกหนึ่ง
ภู่ผึ้ง หลงร่าน น้ำหวานใส
หล่อเลี้ยงในกล่องห่อเพื่อล่อใจ
อยู่ใน หม้อข้าว หม้อแกงลิง
รักนั้นฉาบร้ายไว้ในหวาน
สังหาร ง่ายดาย ช่างร้ายยิ่ง
สร้างแหล่งรังรักให้พั้กพิง
กลับสิง สาปฆาตกรลวง
(ม้าก้านกล้วย)