19 เมษายน 2547 16:13 น.
ม้าก้านกล้วย
ภูสูงผาแล้งแซงแซวบ่วง
บินควงเคียงคู่อยู่บนฟ้า
เลาะข้ามเส้นทางกลางพนา
ลัดลาไร่ร้อนมาผ่อนพัก
เขาค้อเขาโล้นเขาโค่นเขา
ไร้เงาไม้ใหญ่ไว้ปกปัก
ลมร้อนผาดแผลงรุนแรงนัก
ปีกบางกางกักเพื่อดักลม
ผู้ผัวบินโผโต้ลมเหิร
เมียเมินเพลินพิศสนิทสนม
ผัวผู้ชวนชู้ชิดชูชม
แม่เมียละเล่นลมระดมตาม
ลัดฟ้ามาโน่นแล้วแซงแซงบ่วง
แสลงหลวง รอรับสดับถาม
ฤา ระเริงเล่นสนุกทุกโมงยาม
จนลืมความระวังภัยในสังคม
กระสุนดินกลมดิกจิกเจ้าเจ็บ
ตรงตะเข็บ วังทองต้องขื่นขม
ผู้ผัวทรุดซวนทวนแรงลม
ถลาล้มถล่มดิน สิ้นประดี
ทั้งเด็ก ทั้งหมา วิ่งมาแย่ง
ร่างแซงแซวพ่ายใต้วิถี
จากแม่เมียแซงแซวแล้วหรือนี่
ทั้งชีวีไม่เหลือใครไม่เหลือเลย
ภูสูงไร้แล้ง . . แซงแซวบ่วง
โหยห่วงห้วงเวลาเหมือนชาเฉย
ไหนหนอ ผู้พี่ที่ชื่นเชย
ผู้ที่เคยเคียงนาง อยู่ข้างใจ
แซงแซวบินวน สับสนทรวง
ผัวผู้ห่วง ไม่รู้ไปอยู่ไหน
กลิ่นเคว้งควันจางจางเขาย่างไฟ
แทบสิ้นใจตายตามความคะนอง
ซากแซงแซวผัวตัวนิดเดียว
มิพอเรี่ยวอิ่มหลังประทังท้อง
กรงกระสุนดินดำแค่ลำพอง
แค่แซ่ซร้องว่าฉมัง ช่างหัวมัน
(ม้าก้านกล้วย)
10 เมษายน 2547 23:40 น.
ม้าก้านกล้วย
พระเจ้าทรงสร้างโลกเพียงหกวัน
ต่อจากนั้นความรักจักสืบสาน
สร้างทุกหนุ่มสาวคราวสคราญ
เป็นการกระตุ้นปรุงพยุงขวัญ
ในพายุน่ากลัวก็หัวเราะ
เพียงเพราะใจมีรักปักทรวงมั่น
อยู่ในแดดร้อนเปรี้ยงยามเที่ยงวัน
แต่ใจนั้นหากจืดชืดก็มืดมน
รักจึงเป็นวัจนะในประกาศ
แห่งศาสดาเอกปัจเจกผล
ชื่นชุบชูชีวามหาชน
เพราะฉะนั้นทุกคน จงค้นหา
มีรักประดับใจให้สวยงาม
หว่างท่ามกลางฤดีนี้แกร่งกล้า
คล้องใจใช้รักร่วมชักพา
เปิดฟ้าสร้างวิมานอันเรืองรอง
สรรพสิ่งล้วนคู่กันนั้นฉันใด
ปัจจัยรักที่ดี พีงมีสอง
เกี่ยวเกิดด้วยเพลงบรรเลงพ้อง
เกี่ยวคล้องก้อยกัน ณ วันเพ็ญ
ให้เหมือนอาทิตย์รักจันทรา
ดุจมัจฉา - วารีดั่งที่เห็น
น้ำรักป่าโอบคุลมให้ชุ่มเย็น
ซึ่งเป็นสมการอันสมดุลย์
โปรดเถิดทุกผู้อยู่ในห้วง
เติมตวงพลังใจให้โลกหมุน
จงจุนเจือเอื้อเฟื้อเกื้อการุณ
แล้วคุณก็จะราวพระเจ้าแห่งรัก
(ม้าก้านกล้วย)
8 เมษายน 2547 00:12 น.
ม้าก้านกล้วย
โรงเรียนของเด็กน้อยบนดอยสูง
หลังคามุงด้วยตองตึงขึงเป็นตับ
ไม่มีรถใหญ่น้อยมาคอยรับ
จะไป-กลับก็เดินดงลงบันได
มีกลุ่มนักศึกษามาเข้าค่าย
จากหลากหลายสถาบันอันยิ่งใหญ่
อาคารเรียนหลังงามทำด้วยไม้
หลังคาใหม่สูงสง่ากว่าบ้านเรือน
เอาขนมหวานหอมมากล่อมเกื้อ
เอาเสื้อมาให้ไม่เคยเปื้อน
ตั้งค่ายพัฒนากว่าค่อนเดือน
ดูเหมือนบ้านป่าน่ายินดี
วันสุดท้ายคราวค่ายต้องย้ายแยก
หยุดงานแบกหามเสาล้วนเข้าที่
ลาคงลับเหลือไว้แต่ไมตรี
และใยดีที่สานก่อต่อกันไว้
ชาวดอยจัดงานวันอำลา
สำรับคับคาทั้งกาไก่
ก็ถึงคราวถามวจีที่สงสัย
ว่าเมื่อไหร่ จะอาสามาเป็นครู
มาสร้างโรงเรียนอยู่กลางดอย
เด็กน้อยเรียนอย่างไรยังไม่รู้
เพราะทั้งย่านตำบลนี้ ไม่มีครู
แล้วพวกหนู ครูเป็นใคร ไม่รู้เลย
(ม้าก้านกล้วย)