25 กุมภาพันธ์ 2547 23:47 น.
ม้าก้านกล้วย
ฉันคือนางฟ้า
ผู้ซึ่งมีน้ำตามาพรมพร่าง
ละล่องลอยลมเย็นเป็นน้ำค้าง
เกาะอยู่กลางยอดหญ้าในป่าเย็น
ฉันโศกเศร้าใจ
เพราะทุกผู้ใครใครที่ได้เห็น
โลกเบื้องล่างมืดดำและลำเค็ญ
เกือบกลายเป็นนรกหมกไหม้ม้วย
ฉันมีน้ำค้าง
หลั่งมาล้างคราบไคลเอาใจช่วย
ทุกวันนี้คนเบื้องล่างช่างสำรวย
และสร้างสรรค์เสริมสวยด้วยสำอางค์
ฉันไม่เคยรู้
ทั้งที่ดูแลโลกให้โศกสร่าง
เดี๋ยวนี้ใจผู้คนบนโลกกว้าง
ยิ่งแตกต่างห่างเหินจนเกินไป
มีสารช่วยสำอางค์ล้างกมล
ไว้ปรุงปรนใจให้สวยด้วยหรือไม่
พรมน้ำค้างกลางฟ้ามาเพียงใด
จะพอล้างหัวใจใสเท่าเดิม
ฉันจะพร่ำพรม
น้ำค้างตรมตรอมใจใสและเสริม
หวังให้น้ำค้างก่อและต่อเติม
เพียงเพื่อเพิ่มความดีที่หายไป
(ม้าก้านกล้วย)
5 กุมภาพันธ์ 2547 23:23 น.
ม้าก้านกล้วย
โศกทรวง อีกคราว หนาวจะล่วง
ทิ้งท่วง ห้วงโหย โรยจากฝัน
ฤา ฤดี หวังฟื้น คืนและวัน
ค้านคั้น คลาดคล้อย พลอยไม่สม
ภาวนา ทุกคราว หนาวอย่าคลาย
หนาวกาย จางด้วย ผ้าผวยห่ม
เหน็บนั้น ตอกช้ำ ย้ำระบม
คืนตรม ค่ำเหงา รักเราร้าง
กาลล่วง คืนค่ำ กำลังแล้ง
กลั่นแกล้ง กระหน่ำ คำถากถาง
เยือกย้ำ ใจเติม เริ่มเลือนลาง
เหินห่าง เส้นทาง ยิ่งห่างไกล
ใบเขียว กรอบเหลือง เปลืองแรงปลิว
หลุดลิ่ว ร่อนถม ลมไถล
ยากนัก ยื้อรัก เมื่อหักใจ
จากไป พร้อมหนาว เมื่อคราวนั้น
เลยรอ ลมเหนือ เผื่ออดีต
กราดกรีด ย้อนกลับ เพื่อรับขวัญ
รุ่มรอ รักชื่น ทุกคืนวัน
หวังอัน หวานหวาน ผ่านมาเยือน
นี่จวน ฤดูกาล จะผ่านช่วง
จิตห่วง โหยเหือด มันเชือดเฉือน
วันเหงา เฝ้ารอ ก็กว่าเดือน
หนาวเลื่อน เลือนแห้ง เป็นแล้งแล้ว
(ม้าก้านกล้วย)
4 กุมภาพันธ์ 2547 22:27 น.
ม้าก้านกล้วย
วันนี้จะวาดภาพจากความฝัน
พรมพู่กันเป็นเรืองรายของสายรุ้ง
มีเส้นโค้งของลำคลองมีท้องทุ่ง
มีแอ่งคุ้งเวิ้งว้างธาราวน
แต้มสีเขียวระลอกไหวของใบข้าว
แต้มสีขาวเป็นละอองของหยาดฝน
แต้มสีครามเลื่อมลายในสายชล
แต้มสีหม่นในร่มเงาเถาพฤกษา
ในภาพนั้นมีจินตนาการ
จากสถานที่ห่างไกลในโลกหล้า
ที่ที่ไร้จริตริษยา
มีแนวนาขุนเขาลำเนาพฤกษ์
มีไออุ่นสัมผัสที่บริสุทธิ์
จึงผาดผุดงดงามตามความรู้สึก
ให้ดื่มด่ำรับรู้อยู่ลึกลึก
ให้ผนึกอารมณ์ไว้ในภาพนั้น
จะเติมฝูงปลาไปในน้ำนอง
จะแต้มผองสกุณาบนฟ้าฝัน
เติมแมงปอล่องลอยอีกร้อยพัน
เติมตะวันแทรกลงตรงชายเขา
และสุดท้ายจะวาดกระท่อมน้อย
จะปลดปล่อยใจไปให้คลายเศร้า
จะจับจองครองอยู่รู้เพียงเรา
เพราะจะวาด นวลเจ้า เคล้าเคียงเรียม
อยู่ในท่าม ทิวทัศน์ ตวัดแปรง
ซ่อนในแสงรุ้งหลบสงบเสงี่ยม
สรวงสวรรค์ไหนเล่าจะเท่าเทียม
เพราะตระเตรียม จับจอง เพื่อสองเรา
วันนี้จะวาด อนาคต
ให้ปรากฏ กลางอุรา ว่าไม่เหงา
วาดเสียง แห่งสายลม พรมเบาเบา
และวาดเงาไม้งาม ตามตะวัน
วาดสาย เส้นยาว ขาวสะอาด
พิรุณสาด เส้นไหม ในฟ้าฝัน
พรูพร่าง เป็นทาง กลางแวววัน
เสมือนสาย สัมพันธ์ อันชุ่มเย็น
โปรดเถิด นวลพี่ ที่เรียมหวัง
ภาพพี่ตั้งตรงใจให้นางเห็น
คำหวานหวาน หว่านอ้อน ที่ซ่อนเร้น
ภาพนี้เป็น ดั่งคำพ้อ เพื่อขอรัก
4 กุมภาพันธ์ 2547 22:25 น.
ม้าก้านกล้วย
วันนี้จะวาดภาพจากความฝัน
พรมพู่กันเป็นเรืองรายของสายรุ้ง
มีเส้นโค้งของลำคลองมีท้องทุ่ง
มีแอ่งคุ้งเวิ้งว้างธาราวน
แต้มสีเขียวระลอกไหวของใบข้าว
แต้มสีขาวเป็นละอองของหยาดฝน
แต้มสีครามเลื่อมลายในสายชล
แต้มสีหม่นในร่มเงาเถาพฤกษา
ในภาพนั้นมีจินตนาการ
จากสถานที่ห่างไกลในโลกหล้า
ที่ที่ไร้จริตริษยา
มีแนวนาขุนเขาลำเนาพฤกษ์
มีไออุ่นสัมผัสที่บริสุทธิ์
จึงผาดผุดงดงามตามความรู้สึก
ให้ดื่มด่ำรับรู้อยู่ลึกลึก
ให้ผนึกอารมณ์ไว้ในภาพนั้น
จะเติมฝูงปลาไปในน้ำนอง
จะแต้มผองสกุณาบนฟ้าฝัน
เติมแมงปอล่องลอยอีกร้อยพัน
เติมตะวันแทรกลงตรงชายเขา
และสุดท้ายจะวาดกระท่อมน้อย
จะปลดปล่อยใจไปให้คลายเศร้า
จะจับจองครองอยู่รู้เพียงเรา
เพราะจะวาด นวลเจ้า เคล้าเคียงเรียม
อยู่ในท่าม ทิวทัศน์ ตวัดแปรง
ซ่อนในแสงรุ้งหลบสงบเสงี่ยม
สรวงสวรรค์ไหนเล่าจะเท่าเทียม
เพราะตระเตรียม จับจอง เพื่อสองเรา
วันนี้จะวาด อนาคต
ให้ปรากฏ กลางอุรา ว่าไม่เหงา
วาดเสียง แห่งสายลม พรมเบาเบา
และวาดเงาไม้งาม ตามตะวัน
วาดสาย เส้นยาว ขาวสะอาด
พิรุณสาด เส้นไหม ในฟ้าฝัน
พรูพร่าง เป็นทาง กลางแวววัน
เสมือนสาย สัมพันธ์ อันชุ่มเย็น
โปรดเถิด นวลพี่ ที่เรียมหวัง
ภาพพี่ตั้งตรงใจให้นางเห็น
คำหวานหวาน หว่านอ้อน ที่ซ่อนเร้น
ภาพนี้เป็น ดั่งคำพ้อ เพื่อขอรัก