28 เมษายน 2546 23:31 น.
ม้าก้านกล้วย
ฝนตกลงมาในนาน้ำ
ชุ่มฉ่ำเนืองนองมองเสมือน
แพรเงาวาววับรับแสงเดือน
กลาดเกลื่อนพฤกษานานาพรรณ
กบเขียดเบียดเบ่งตระเบ็งแข่ง
สาดแสงดาวเดือนเหมือนสวรรค์
ลูกหลานหลากหลายสายชีวัน
ผายผันสำราญสนานเนา
ฝนมาสร้างสรรค์วันไสว
รุกไล่ไอแดดเคยแผดเผา
ชโลมน้ำค้างอันบางเบา
ขัดเกลากลมกล่อมย่อมรื่นรมณ์
เริ่มเก็บกวาดกลั่นพันธุ์ข้าวเปลือก
ฝัดเลือกเม็ดลีบบีบแล้วบ่ม
ตกกล้าแปลงนาหม่าน้ำตม
ผสมปุ๋ยหมักแล้วพักไว้
แอกอานผานไถในกระท่อม
พรักพร้อมเพราะเราเอาใจใส่
เทียมทุยลุยนามาเทือกไถ
แปรไล่ตัดดะจะพลิกดิน
ปาดเหงื่อเจือลงคงจะเค็ม
เติมเต็มพลังหวังทรัพย์สิน
ใช่มุ่งมากไป พอได้กิน
ปลาชิ้น ข้าวหม้อ ก็พอแล้ว
(ม้าก้านกล้วย)
27 เมษายน 2546 23:20 น.
ม้าก้านกล้วย
เมื่อส่วนต่อ ของความฝัน ฉันสูญหาย
ล้มละลาย ไร้อาวรณ์ ก่อนจะสาง
คล้ายคลับคลา พาอาภัพ จึงอัปปาง
แค่เลือนลาง ระหว่างเพ้อ ละเมอลวง
ฝันว่าเธอ ยอดชีวัน ที่ฉันภักดิ์
ฝันว่ารัก ที่ถนอม ออมและหวง
ฝันว่าหวัง วิมานหรู ดูกรอบกลวง
ฝันว่าดวง ชะตาต่ำ ดำมืดมน
ในสำนึก รู้สึกอึ้ง ถึงกับเหม่อ
ไม่รู้เผลอ พลาดพลั้งเพลี่ยง เพียงเหตุผล
เธอน่ารัก รู้จักชาย หลายหลายคน
เลยสับสน เลือกมิได้ ใจลำเอียง
ในเริ่มต้น คืนวิกฤต จิตวิตก
รู้ว่าอก ใกล้จะแตก แยกเป็นเสี่ยง
คนเช่นฉัน แค่ใกล้ชิด มิตรใกล้เคียง
เป็นได้เพียง เพื่อนคนหนึ่ง พึงสังวรณ์
ก่อนจะหลับ ตาลงฝัน มันขื่นขม
ก่อนจะข่ม เข้านิทรา พาสังหรณ์
ก่อนจะเจอ วิปริต จิตนิวรณ์
และก็ก่อน จะผวา ตื่นมาครวญ
เมื่อส่วนต่อ ชีวิตฉัน กับฝันร้าย
แผ่ขยาย ฟื้นอดีต กรีดและข่วน
ขยายร่อง สยองรอย ร้อยรัญจวน
ปั่นและป่วน ทั้งตื่นนอน และตอนฝัน
(ม้าก้านกล้วย)
26 เมษายน 2546 22:37 น.
ม้าก้านกล้วย
ช่อเอยช่ออัญชันพันรั้วไผ่
ทั้งพุ่มใบแน่นหนาพากันชื่น
เบ่งช่อบ่งส่งช่อดอกออกดกดื่น
เลื้อยพันผืนยื่นพันพวงมาควงคลอ
ม่วงก็ไม่ เหมือนม่วงหม่น ปนสีเหลือบ
ครามก็เคลือบ แซมขาว พราวทั้งช่อ
แม้นมิโชย กลิ่นขจร อ่อนละออ
กลีบก็ล้อ ใจรวน ชวนละเมอ
แม้นหนึ่งดอก ออกดาดดาด อาจไม่เด่น
หากแต่เป็น เล่ห์สลอน ซ้อนเผยอ
หลงเสน่ห์ ช่อสล้าง พลางพร่ำเพ้อ
แทรกเสนอ ทรวงสนาน หว่านสกล
เก็บดอกเกลื่อน มาพะนอ ก็กระไร
เมื่อดอกใหม่ ก็แย่งแย้ม แกมฉงน
แลละลาน บานระบาย คล้ายจะดล
กล่อมกมล จนฉ่ำชื่น รื่นสราญ
ไม่นึกเลย จะลุ่มหลง ดงดอกม่วง
เล่ห์ใดลวง หรือมนตรา มาเสกสาน
ต้องคำสาป เป็นภู่ผึ้ง ซึ่งร้าวราญ
และต้องการ มธุธาร หวานบำเรอ
ตรึงตราช่อ อัญชัน อันโดดเด่น
ราวจะเป็น ภักษา มาเสนอ
มิอาจเลี่ยง หลบได้ ร่ายละเมอ
ราวได้เจอ สิ่งที่ใจ หวังไว้นาน
(ม้าก้านกล้วย)
25 เมษายน 2546 19:42 น.
ม้าก้านกล้วย
เมฆจ๋า ไม่เห็นหน้า ตั้งนาน
ล่องลอยผ่าน ลมบน อยู่หนไหน
กระจายคลี่ คลุมฟ้า นภาใด
หายไป ไร้วี่แวว ลืมแล้วหรือ
ฉันฝากให้ เฝ้าใคร ไว้คนหนึ่ง
ความคิดถึง ที่มากมาย จากใจสื่อ
คนที่เคย กอดประคอง ด้วยสองมือ
คนที่คือ ทั้งหัวใจ ก็ไม่ปาน
ฉันจากมา ทางนี้ ไม่มีเมฆ
ฟ้าวิเวก ลมวังเวง บรรเลงผสาน
ดวงดารา ระยับตา น่าร้าวราน
เมฆไม่ผ่าน เอาห่วงใย ไปส่งเลย
ร้อนเร่า ไม่เทียบเท่า กมลห่วง
ถ้อยทั้งปวง ฝากจากใจ ไปเปิดเผย
คำซ้ำซ้ำ ซึ้งละมุน ซึ่งคุ้นเคย
กระไรเลย ไม่สนใจ ไม่นำพา
เมฆเอ๋ย จำได้ไหม ใครร้องขอ
ให้ช่วยต่อ สายสัมพันธ์ วันห่วงหา
ให้เชื่อมใจ สองผู้ห่าง อย่าร้างรา
ไม่รู้ว่า คนทางนั้น เป็นฉันใด
คนทางฟาก ฟ้านี้ มีแต่หวัง
เพียงพลัง ของคิดถึง จึงฝันใฝ่
สักวันหนึ่ง จะข้ามฟ้า มาปลอบใจ
จะเนิ่นนาน เพียงใด ใจยังรัก
(ม้าก้านกล้วย)
24 เมษายน 2546 19:06 น.
ม้าก้านกล้วย
เธอ รู้ไหม ใจฉันนั้นใจน้อย
เธอให้คอยเช้าค่ำกับคำมั่น
คำสัญญาที่กำลังจะฆ่าฉัน
คำรำพันวันวานพาลถูกลืม
ก่อนเธอลาจากมาหาความจริง
ก่อนทุกสิ่งจะจบลงตรงปลาบปลื้ม
ก่อนบอกกันมั่นใจให้ด่ำดื่ม
ก่อนหยิบยืมคำหวานมาพรรณา
จะจากกันเดี๋ยวเดียวเดี๋ยวก็กลับ
ไม่ลาลับจงรอเพราะโหยหา
จะฝากลมฝากเมฆินทร์ฝากดินฟ้า
ไม่เกินกว่าอึดใจจะใกล้ชิด
แต่แล้วก็ห่างหายกลายห่างเหิน
เหมือนเธอเมินมิกังวลคนสนิท
ที่เคยเอ่ยว่ารักมากฝากชีวิต
ใยไม่คิดว่าคนรอ จะท้อใจ
ลืมแล้วกระมังว่าสัญญามั่น
ลืมคืนวันหยอกเย้าเอาใจใส่
ลืมก้อยเรียวเกี่ยวคล้องสองหัวใจ
ลืมว่าใครถูกทิ้งร้างท่ามกลางฝัน
จมน้ำตากับสัญญาว่าจะกลับ
แล้วลาลับลืมเลยเคยสุขสันต์
กลับกลอกกันเกินไปไม่ผูกพัน
เหลือแต่ฉันกับสัญญาบ้าบ้าบอบอ
(ม้าก้านกล้วย)