30 ตุลาคม 2546 08:21 น.
ม้าก้านกล้วย
ลมหนาวร่ำไรมาไล้โลม
เหนี่ยวโน้มรวงอ้วนจวนจะเกี่ยว
ไหวหวิวลมพราวอยู่กราวเกียว
คมเคียวจะตวัดตัดเจ้าลง
โอ้เอ๋ยเจ้าเคยอรชร
ใบอ่อนเรียวคายชายจึงหลง
ชูยอดทอดสง่ากว่าหญ้าพง
สูงส่งสู่ฟ้ากว่าแพงพวย
ก็เพราะหวังผลจึงปรนเปรอ
ก็เธอดลผลผลิตสวย
ก็น้ำตามฟ้ามาอำนวย
ก็ช่วยไล่ชุมกลุ่มมดแมง
แม้นหากปีไหนมิได้ฝน
ดิ้นรนแทบบ้าชะตาแกล้ง
น้ำทดรดดินแทบสิ้นแรง
ปรับแปลงนาไปให้ประทัง
แม้นเช่นปีนี้มีฝนชุก
หากทุกหย่อมย่านทุกบ้านหลัง
ข้าวหลากมากนามาประดัง
ตองยังยอมรับปรับราคา
ลมหนาวร่ำไรมาไหลหลาม
เย็นท่ามทุ่งทองของสูงค่า
ปลดปรับปมเปล่าผ้าขาวม้า
เดินหน้า. . . คว้าเคียวเกี่ยวรวงทอง.
(ม้าก้านกล้วย)
เกี่ยว เถิดหนาพ่อเกี่ยว
ช้า. . . ช้า . . .เกี่ยวเถิดหนาแม่เกี่ยว
อย่ามัวชะแง้แลเหลียว
เดี่ยวเคียวจะเกี่ยวก้อยเอย
20 ตุลาคม 2546 23:52 น.
ม้าก้านกล้วย
สุพรรณหงษ์ ละล่องระนาบชล
ดังอินทรภูวดลชลอล่อง
ระริกราว ธารา ทาด้วยทอง
ตามครรลอง เจ้าพระยา ณ ธานี
รายล้อมด้วย หมวดหมู่เอนกชาติ
ราวสวรรค์นั้นวาดระบัดสี
อร่ามกว่าวาระใดในราตรี
ดารณีสง่าเด่นเช่นวิมาน
พาลีรั้งทวีปสุครีพคู่
ประกอบหมู่พยัคฆากล้าหาญ
กราบนี้กระบี่ปราบเมืองมาร
กระบี่รานรอนราพย์อยู่กราบไกล
อศุรวายุภักษ์ ชักอาวุธ
เรือครุฑเหินเห็จเกล็ดกะไหล่
มีอสูรปักษี มีเอกชัย
ครุฑเตร็จไตร จักรเด่น เป็น เรือธง
บรรดาแซงแข็งขันดั้นฝีพาย
กระหนาบซ้ายกระบวนขวามหาหงษ์
เสมอเสก อเนกชาติภุชงค์
ดั้งลง ฝีพาย คล้ายรัสมี
สะอื้นแล้วโสมนัสทัศนา
บุญชีวาของชาวพารานี้
ชาติอื่นเมืองใด ฤาใหนมี
คำกวีมิเสี้ยวแสนแม้นสักนิด
สดุดีอลังการตระการตา
เพื่ออาคุนตุกามหามิตร
เชื่อมสัมพันธภาพทราบสนิท
ประกาศกฤษฎาไกรของไทยเรา
(ม้าก้านกล้วย)
18 ตุลาคม 2546 01:46 น.
ม้าก้านกล้วย
กว่าความรักจะมั่นคงและลงเอย
ก็ต้องเอ่ยคำลามาหลายครั้ง
คงเพราะรักที่มีไม่จีรัง
ทิ้งไว้เป็นเบื้องหลังฝังใจไว้
ยังไม่รู้เส้นทางในข้างหน้า
จะถลาล้มเศร้าอีกเท่าไหร่
แต่ทุกครั้งรักที่เผยเอ่ยออกไป
ล้วนตั้งใจจริงจังทุกครั้งครา
เมื่อได้เปิดเผยตนไปหนหนึ่ง
สุขและซึ้งซึมและเหงาเฝ้าศึกษา
พบคำตอบสั้นสั้นอันล้ำค่า
ได้รู้ว่าสองเราไม่เข้ากัน
มันมิใช่ความผิดของผู้ใด
ต้องเป็นไปตามลิขิตที่ขีดขั้น
โศกระทมนิดนึงแค่หนึ่งวัน
ต่อจากนั้นก็เปิดใจไว้รอรัก
แม้รักใหม่ที่ได้มาจะพาพลาด
แม้รักอาจคลาดไปหัวใจหัก
ก็ยังต้องตั้งหน้าค้นหารัก
ให้รู้จักรู้ใจให้ค้นหา
ไม่ใช่คนลวงโลกหรือโชคร้าย
แค่ผู้ชายหนึ่งคนบนโลกหล้า
แค่หนึ่งใจหล่อหล่อพ่อให้มา
ปรารถนารักจริงจากหญิงเดียว
(ม้าก้านกล้วย)
14 ตุลาคม 2546 23:38 น.
ม้าก้านกล้วย
วิเวกนักยามจะสนธยา
ทิวะวาระมืดลง
อาลัยรักยามจะอัสดง
ฤทัยคงสลายลาง
ดาราระยิบกระพริบประกาย
รักสลายขจายสร่าง
หวังฤทธิ์ประพัสจากคัคนางค์
โปรดสว่างชโลมชม
เจ็บปวดฤดีสุดที่จะทน
เจ็บนะจนกมลขม
จะจืดจะจางหักร้างอารมณ์
ที่ระทมตลอดมา
วิเวกเพราะใจรักไม่จิรัง
พินาศพังกระทั่งว่า
สุดดวงฤดีมิปรารถนา
รักจะลาจะโรยเลือน
บัดนี้ฤทัยจะไร้สราญ
สุดแต่กาลจะกลบเกลื่อน
มิเหลือฤทัยเก็บไว้ติเตือน
พิษฟั่นเฟือนจะเปื้อนใจ
(ม้าก้านกล้วย)
11 ตุลาคม 2546 22:37 น.
ม้าก้านกล้วย
เกาะงามยามน้ำทะเลแรง
เกาะแกล้งกั้นกลางขวางแรงคลื่น
เกรี้ยวกราดกร่อนกัดแล้วพัดคืน
กวาดกลืนก้อนกรวดอวดพลัง
กลมกล่อมก้อนกรวดเป็นลวดลาย
ขัดคายเหลี่ยมเล็งให้เปล่งปลั่ง
หินแข็งแกร่งกลายก็พ่ายพัง
จนกระทั่งกลมก้อนสะท้อนน้ำ
เพียงหยดน้ำน้อยในกระแส
ก็แค่แรงคลื่นกลืนกระหน่ำ
ร้อยวันพันปีมีประจำ
สาดซ้ำแทรกซอนแล้วซ้อนซัด
เกาะก้อนศิลาก็ว่าแกร่ง
อวดแท่งสง่าเงื้อมเลื่อมระบัด
ต้านทานคลื่นลมโหมสะพัด
หวังวัดความทนบนธารา
ร้อยวันพันปีมิสั่นคลอน
สั่งสอนสัจธรรมอันล้ำค่า
เก่งแกร่งแข็งเพียง พสุธา
อวดว่าสูงเด่นเป็นหลักชัย
อาจต้านทานลมโถมปะทะ
อาจจะคงทนพ้นสมัย
เกิดแก่เจ็บจนจะพ้นวัย
ต้องปรักหักไปในไม่ช้า
วารีเปรียบกาลอันเลยล่วง
ถามทวงสังขารประมาณค่า
กัดเกาะเลาะกรวดปวดอุรา
มิช้าจะจมเป็นตมทราย
(ม้าก้านกล้วย)