28 กุมภาพันธ์ 2545 22:19 น.
ม้าก้านกล้วย
คนที่รักหวังไว้ไม่ได้เชย
คนร่วมเรียงเคียงเขนย มิได้หวัง
สุขและโศกโลกนี้ไม่จีรัง
สิ่งที่ตั้งใจจะทำคือวันนี้
เธอคนนั้นมิใช่คนใกล้ตัว
แต่ใจยังพันพัวกลัวเกินลี้
จะแอบซ่อนไว้ก็ได้คงไม่ดี
จึงบอกไว้ตรงนี้ให้เธอรู้
ตัดสัมพันธ์กันไกลเยื่อใยนั้น
ยังโยงระยางกางกั้นซึ่งกันอยู่
ทอดถอนใจทุกข์เพียงใดใจยังสู้
เพราะวันนี้มีเธออยู่เคียงข้างกัน
ไม่คิดจะเปรียบเธอกับรักก่อน
ไม่คิดจะตัดรอนวอนรักมั่น
ไม่คิดจะขุดรื้อยื้อสัมพันธ์
เป็นแค่เพียงห้วงฝันวันรำพึง
สัญญา นะสัญญา
จะร่วมกันก้าวหน้าประสาซึ้ง
เธอจะอยู่ในวันหน้าที่มาถึง
ร่วมทางซึ่งร่วมกันกวาดจนลาดเตียน
อย่าน้อยใจไปเลย คนดี
รักเธอนี้ สุดชีวินสิ้นเสถียร
แม้วันนี้ จะลำบากจะพากเพียร
และจะเรียนรู้ซึ้ง ซึ่งกันและกัน
เธอคนก่อนแค่เงารางกลางอดีต
แค่บางช่วงของชีวิตยังคิดฝัน
แต่เวลาผันผายทั้งหลายนั้น
ตัวฉันมั่นใจทำให้เธอ . . . . . .คนเดียว
(ม้าก้านกล้วย)
27 กุมภาพันธ์ 2545 23:16 น.
ม้าก้านกล้วย
บทกวีที่เสนอสรรค์จรรโลงสนาน
ซึ่งสร้างสานจากคำคมอารมณ์ศิลป์
ไม่เคยคิดทำร้ายใครให้พ่ายพิน
ไม่เคยสิ้นสายสุดฉุดอาวรณ์
เพียงประสมคารมสมความคิด
เพียงลิขิตตราไว้ให้โอนอ่อน
เสกเรื่องหลากราวเป็นเช่นละคร
ร่ายคำกลอนวอนว่าประสาซึ้ง
กวีคือถ้อยสำเนียงเพียงเสนาะ
กวีคือเพลงเพราะเพียงบทหนึ่ง
กวีคือแทนท้อพ้อรำพึง
กวีคือสิ่งซึ่งระบายฤดี
กวีเป็นผู้สร้างทางแห่งฝัน
กวีนั้นคันฉ่องส่องวิถี
กวีวาดหวังวางสร้างชีวี
เพราะกวีจึงมีวันฝันสมใจ
ฉันสร้างตัวแทนฉันขึ้นมาหนึ่ง
ด้วยซึ้งก็สร้างเธอขึ้นไว้ให้
แล้วจูงมือร่วมทางฝันอันแสนไกล
สุขอื่นใดมิเทียบได้แล้วนะเธอ
แม้นจะต่อว่ากันว่าฝันเฟื่อง
แม้นขุ่นเคืองเพราะกลัวใจใครจะเผลอ
แม้นเกรงว่าฉันคงหลงละเมอ
ยังมั่นคงต่อเธอเสมอมา
ยังเป็นแค่หนึ่งคนในความจริง
ยังสร้างทำทุกสิ่งอย่างทรงค่า
เพียงบางบทของชีวีที่อ่อนล้า
ขอเวลา ตามใจฝัน ฉันหน่อยนะ
(ม้ากานกล้วย)
26 กุมภาพันธ์ 2545 22:04 น.
ม้าก้านกล้วย
โอหนอ ม้าหมุนวุ่นวายใจ
แล้วทำไมยามอยู่กลับฟูเฟื่อง
ไปขี่เล่นลูบหัวหู อยู่เนืองเนือง
แล้วใยเรื่องกลายร้ายได้เพียงนี้
วันนี้อุตส่าห์มาถึงบ้าน
จะเรียกขานเหมือนวันวานพาลหลบหนี
เด็กที่เคยเล่นกับเราเขาก็ลี้
ช่างไม่มีใครบ้างอยู่ข้างกาย
ไม่เอาแล้วโลกกว้างช่างกลั่นแกล้ง
ดูช่างแล้งน้ำใจกันมันน่าหน่าย
นึกว่าโลกภายนอกนั้นสบาย
กลับไปเป็นม้าไม้ในถิ่นเดิม
จึงตัดสินใจกลับไปหา
หมู่มิตรม้า วนหมุน เหมือนรุ่นเริ่ม
กลับไปเป็นพระเอกเฉกเช่นเดิม
กลับไปเติมความหรรษาผู้มาเยือน
ไม่เป็นไม้แปลกป่า ปลาแปลกน้ำ
จะไม่ตามใจเบาเขลาเราไร้เพื่อน
ไปอยู่ในที่ประจำทำเสมือน
แล้วคอยเตือนใจจำไม่ทำแล้ว
ตรงนั้นยังมีที่ว่างอยู่
ประจำคู่ประจำทำประจำแถว
ไม่มีม้าดื้อรั้นต่อไปแล้ว
เดินตามแนวชีวิตลิขิตไว้
ม้าหมุน ในสวนสนุก ตัวนั้น
ทุกวันจะวิ่งวนปนโยกไหล่
คึกคะนองตามครรลองที่ต้องไป
กลางแสงไฟ กลางเสียงร้อง ของเด็กน้อย
(ม้าก้านกล้วย)
26 กุมภาพันธ์ 2545 22:04 น.
ม้าก้านกล้วย
ม้าหมุน ในสวนสนุกเก่า ตัวหนึ่ง
นึกถึงโลกกว้างใหญ่ภายนอกรั้ว
อยากปลดแอกออกไปให้ท่องทั่ว
จะดีชั่วอย่างไรไม่เคยลอง
เฝ้าแต่เวียนวนสร้างความสนุก
โยกปลุกอารมณ์สุขปลุกรื่นร้อง
เป็นขวัญใจเด็กน้อยคอยตามมอง
เป็นพระเอกของกองคาราวาน
อยู่ร่วมกันกับเพื่อน หลากหลายหน้า
มีทั้ง ม้า เสือ แกะ และ หงส์ ห่าน
บางตัวก็เก่ามาก ซากโบราณ
เพราะทำงานอยู่กัน นับนานนัก
วันนี้ เป็นตายร้ายดี จะหนีเที่ยว
เสาที่เหนี่ยวร่างไว้ ตั้งใจหัก
แม้เพื่อนฝูงทั้งผอง จะร้องทัก
แต่ว่ารักจะผึ่งผาย ภัยผจญ
เราคือพระเอกของเด็กเด็ก
ไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ได้เคยขน
พาท่องอยู่บนลานที่หมุนวน
ได้หลุดพ้น ตามใจพลาง อย่างคะนอง
ด้วยความคิดว่าตัวอิสระ
จึงจะกระโดดพลาง วางผยอง
เต้นย้ายซ้ายขวา ท่าลำพอง
แล้วล่องเข้าเมืองอย่างเขื่องคับ
ชาวบ้านเห็นม้าปะหลาดก็หวาดหวั่น
จึงพากันซ่อนลูกไว้ในห้องหับ
ไม่มาร้องเกรียวกราวราวต้อนรับ
หนำซ้ากลับขับออกไปให้พ้นเมือง
(ม้าก้านกล้วย)
25 กุมภาพันธ์ 2545 22:19 น.
ม้าก้านกล้วย
ขออย่าเอาคำกลอนมาละเลง
ขออย่าเอาบทเพลงมาผลาญพร่า
วัดสูงต่ำล้ำเหลื่อมเอือมระอา
เพราะกวีมีค่าเหนือกว่านั้น
จงใช้ใจลิขิตลงขีดคำ
จงลำนำเรี่อยไปตามใจฝัน
บทกวีแทนถ้อยได้ร้อยพัน
แทนหมื่นกัณฑ์แทนแสนล้านอารมณ์คม
จงจรรโลงโลกกวีด้วยชีวิต
ใช้ความคิดสร้างสรรค์ให้สวยสม
ร้อยถ้อยมาพันพลางแลพร่างพรม
เรียงคารมรวมลำนำทำเป็นกลอน
แม้นท่านรักการวรรณศิลป์
ควรจะยินดีที่มีผู้สอน
ควรน้อมรับคำวิจารณ์ต้านนิวรณ์
ควรจะอ่อนน้อมนับกับผู้ชม
อย่าเอาอัตตาออกมาวัด
อย่าขัดคอขวางวางท่าข่ม
เขียนบทกลอนออกมาไว้ ให้คนชม
ต้องน้อมก้มรับคำวิจารณ์การณ์
ลดทิฐิลงบ้างเพื่อสร้างมิตร
คงจะได้ใกล้ชิดสนิทสมาน
คงจะแลกเปลี่ยนกวีกานท์
คงจะใจเบิกบานมากกว่านี้
(ม้าก้านกล้วย)