16 กันยายน 2544 23:22 น.
ม้าก้านกล้วย
บนศาลา เรือนกว้าง ข้างทางเปลี่ยว
มีหนังสือ เล่มเดียว ตั้งวางอยู่
กลอนลำนำ คำคัลไลย ใครจะดู
มีกระทู้ เป็นกวี มีพรรณนา
เด็กมากมาย มาอาศัย ชายคาร่ม
เกรียวกราวขรม เล่นกัน เป็นหรรษา
บ้างจ้ำจี้ ตีโย โล้ชิงช้า
บ้างขี่ม้า ก้านกล้วย ไปด้วยกัน
หม้อข้าวหม้อแกง ขายดี ที่ใต้ถุน
เอาดินฝุ่น ใบไม้ ขายแข่งขัน
บ้างมาหยิบ หนังสือ ยื้อแย่งกัน
ต่างดึงดัน จนฉีกแยก แตกขาดไป
ไร้คน รู้ค่า ตำราเล่ม
ไร้คน อิ่มเอม เปรมใจใส่
ไร้ผู้ ที่จะรู้ คู่ความนัย
ไร้ใคร สนใจ ในลีลา
ครั้นบัดดล มีคน อีกคนหนึ่ง
เพิ่งมาถึง ใครก็เห็น เป็นคนบ้า
เด็กหนีลิบ หยิบหนังสือ ถือขึ้นมา
อ่านถ้อยคำ พรรณนา อยู่คนเดียว
ค่อยค่อยกอบ ค่อยค่อยเก็บ เย็บเป็นเล่ม
ร้อยอารมณ์ คมเข้ม จนเต็มเหนี่ยว
บ้างยิ้มหัว ระรัว ตัวคนเดียว
บ้างร่ำให้ ใจเหงา เศร้าวังเวง
บนศาลา เรือนกว้าง ข้างทางเปลี่ยว
คนคนเดียว อ่านหนังสือ ถือคร่ำเคร่ง
ซึ้งคุณค่า บรรณกวี ที่บรรเลง
เป็นกันเอง รักถนอม ทนุนำ
ถึงใครใคร เห็นแม้ แค่คนบ้า
ยังเห็นค่า ลีลา พรรณนาพร่ำ
เข้าถึงบท ถึงกลอน สั่งสอนจำ
แล้วเก็บกำ ตำราไว้ ไปกับตน
จะถามว่า หนังสือนี้ มีค่าไหม
แค่คนบ้า เก็บไป ใครฉงน
แต่หนังสือ ล้ำค่า คณาจน
แม้คนบ้า กล้าเก็บขน ไว้ข้างกาย
-(ม้าก้านกล้วย)-