22 มิถุนายน 2548 11:37 น.
ม้าก้านกล้วย
อับอายจังเลย ไม่เคยฝัน
เพราะทุกวันงานนั้นมันสุมหัว
ภารกิจวาระงานพาลรัดตัว
กว่าที่หัวจะถึงหมอน นอนเหมือนตาย
ไม่ใช่ไม่รู้สึกไม่นึกถึง
แต่ความซึ้งซับกมลที่หล่นหาย
จากเหตุให้หาเสบียงมาเลี้ยงกาย
เหมือนเวียนว่ายในกองกรรมทำแต่งาน
ตั้งใจไว้ว่าจะหาเงิน
ขัดเขินแค่หาค่าอาหาร
ร้อยรับนับคาวแค่ข้าวจาน
เหมือนโปรยหว่านเงินจมถมไม่เต็ม
อับอายจริงจริงยิ่งกว่าจน
ลำบากบุกทุกข์ทน เหมือนสนเข็ม
อาหารว่างพอจุนเจือคือเหงื่อเค็ม
เลียเล็มริมฝีปาก ลากสังขาร
แล้วจะเหลือเวลาใดไว้นอนฝัน
แล้วจะมีใครกันในวันหวาน
แล้วเมื่อไหร่จะหลุดตน พ้นบ่วงมาร
แล้วมนต์ใด ได้บันดาล ให้ผ่านผัน
อยากจะมีคนหนึ่งคิดถึงมาก
และก็อยากเคียงข้างคอยสร้างฝัน
คอยเป็นแรงใจให้กันและกัน
อยากจะมี วันนั้น . . .หรือฝันไป.
(ม้าก้านกล้วย)
21 มิถุนายน 2548 14:32 น.
ม้าก้านกล้วย
ในคืนวัน ที่ฉัน นั้นไร้เพื่อน
มีรูปหนึ่งซึ่งเตือนเสมือนว่า
ร้อยพันวันพรากที่จากลา
ย้ำตราตรึงเตือนถึงเพื่อนใจ
ไม่รู้ว่าวันนี้ ยังมีเรา
อยู่ในเงาเคลือบคลางอย่างสงสัย
หรือเพราะระยะทางที่ห่างไกล
ปรับแปรไมตรี นี้เสียแล้ว
ทางโน้นเป็นอย่างไรก็ไม่รู้
ยังอยากอยู่อย่างเสมือนเป็นเพื่อนแก้ว
ยังจดจำประกายตาที่จ้าแวว
ลืมเสียแล้ว หรือไร ใจของเธอ
จ้องมองรอยยิ้มพิมพ์ผนีก
สนิทลึกลงใน หทัยเสมอ
ละม้ายมาตรอนึ่งองค์หลงละเมอ
เสมือนเธอแสร้งสรวลชวนสราญ
คิดถึง . . . คิดถึง .จริง . . จริง นะใจ
ส่งคนึงลอยไกลไปสนาน
รับรู้ได้หรือเปล่า ว่าร้าวราน
ดั่งไฟผลาญ กมลผง จนหลงเพ้อ
คิดไปฝ่ายเดียวเชียวนะเรา
ทุกเช้า สาย บ่าย เย็น เป็นเสมอ
อย่า นะ อย่าปล่อยให้คอยเก้อ
รอ นะรอ แต่ เธอ เสมอไป
(ม้าก้านกล้วย)
29 พฤษภาคม 2548 20:38 น.
ม้าก้านกล้วย
puff the magic dragon
PUFF, the magic dragon lived by the sea
And frolicked in the autumn mist in a land called Honah Lee,
Little Jackie Paper loved that rascal PUFF,
and brought him strings and sealing wax and other fancy stuff.
Together they would travel on a boat with billowed sail
Jackie kept a lookout perched on PUFF's gigantic tail,
Noble kings and princes would when'er they came,
Pirate ships would lower their flags when PUFF roared out his name
A dragon lives forever but not so little boys
Painted wings and giant rings make way for other toys.
One gray night it happened, Jackie Paper came no more
And PUFF that mighty dragon, he ceased his fearless roar.
His head was bent in sorrow, green scales fell like rain,
PUFF no longer went to play along the cherry lane.
Without his life-long friend, PUFF could not be brave,
So PUFF that mighty dragon sadly slipped into his cave.
(Leonart Lipton 1959)
พัพฟ์
เจ้าฟัพฟ์มังกรวิเศษ
อยู่ในเขตทะเลใหญ่
ร่าเริงกับหมอกไสว
ในดินแดน โฮน่า ลี
เจ้าหนูแจ๊กกี้น้อย
โรจน์ลอยรักเจ้ามังกร ยี้
ซื้อขนมสรรหานานามี
เชือกอย่างดี สีผึ้ง เจ้าพึงใจ
เพื่อจะเที่ยวโต้ โล้คลื่นเล่น
คอนเด่น โคนหางค่อนข้างใหญ่
เพื่อท่องไปสนุกสนานสราญใจ
ใครต่อใครพากันกลัวเกรง
เรือขุนนางก็ต้องจอด ทอดสมอ
รั้งรอให้เจ้ามังกรเก่ง
แม้โจรสลัด ห้าว จ้าวนักเลง
ยังต้องเร่งรีบปลด เพื่อลดธง
มังกรเจ้าเป็นอนันต์
แต่เด็กนั้นยังสูงส่ง
เวลาไม่จีรังรั้งตรง
จบลงที่ควร ล้วนเติบกาย
คืนฟ้าสีหม่นมาถึง
ไร้ซึ่งสองมิตรสนิทสหาย
ไม่มีเงาเล็ก ๆ ของเด็กชาย
สูงวัยเกินกว่า มาเริงร้อง
หัวเจ้าคู้ต่ำระกำนัก
เกล็ดหักหลุดร่อน กร่อนกะหร่อง
โปรยร่วงเหมือนเม็ดฝน หล่นกอง
ไร้ความคะนองใจไร้สราญ
เมื่อขาดมิตร เหมือนไร้หัวใจแกร่ง
หมดแรงน่าอนาถ ขาดเหิมหาญ
จมขลุกอยู่ในถ้ำบาดาล
ตราบนับนานเช่นนั้น ตลอดไป
(ม้าก้านกล้วย 2005 )
17 เมษายน 2548 23:14 น.
ม้าก้านกล้วย
จะอยู่ไกลแค่ไหน หากใจหวัง
แค่เพียงครั้งได้กลับมารับขวัญ
แม้พบพานเพื่อนใหม่ในแห่งนั้น
ก็อย่ากั้นกีดปิด มิตรแห่งเรา
บางโอกาสที่ห่างไป ไม่มีเพื่อน
จงติดเตือน ใจตรง จงอย่าเหงา
แม้ตัวตน มิติดสอย คอยบรรเทา
ก็ฝากเงา แทนเราไว้ ในทุกยาม
มิต้องทวง มิตรภาพ เพราะทราบซึ้ง
ว่ามิตรหนึ่ง พึงใจ ไม่ต้องถาม
อดีตที่ ร่วมจด นั้นงดงาม
บันทึกความ หมายดีดี มีต่อกัน
อย่าบอกนะว่าใจเธอจะเผลอไผล
อยากรู้ไหม ความนัย ของใจฉัน
เธอจากไกล วันใด เหมือนไร้จันทร์
คืนวันนั้น จะวังเวง เหมือนเพลงครวญ
แม้มากมาย มองเมียง เพียงค่าน้อย
ดังหิ่งห้อย ล่องลอย คอยลมหวล
ริบหรี่เรือง ชานประเทือง สีเหลืองนวล
เธอก็ชวน ให้คำนึง ถึงทุกคราว
สำหรับฉัน หิ่งห้อย เจ้าลอยฟ้า
สว่างกว่า บุหลัน ในวันหนาว
ระยิบรับ ระยับ กลาง น้ำค้างพราว
สว่างราว โคมสว่าง กลางห้องใจ
(ม้าก้านกล้วย)
14 เมษายน 2548 02:22 น.
ม้าก้านกล้วย
พีงพิศเพียงแพร แม่เนื้อไหม
โหยไห้หาห้วง สรวงสวรรค์
หม่นหมองเหม่อมอง ท้องฟ้านั้น
อิ่มเอมอกอัน พลันรำพึง
เพ่งพรมเพลงพิณ ระรินรื่น
ดาวดื่นเดือนดึก ระลึกถึง
คราวคู่เคียงครั้ง ยังลึกซึ้ง
หนาวหนึ่งหน่วงเหนี่ยว เชียวนะใจ
แพรผ้าแผ่ผืน ขึ้นคลุมฟ้า
เลาะลัดเลี่ยงลา น้ำตาไหล
กู่กล่อมกรีดก้อย ให้ลอยไกล
สู่แสงสวยใส ส่งไปหา
ล่องลอยเลยล่วง ไปทวงถาม
ขึ้นขอบเขตข้าม แล้วถามว่า
ร้างรักหรือไร ไม่เมตตา
วิงวอนไว้ว่า อย่าลืมกัน
พึงพิศเพลงแพร แม่คงเหงา
กรีดเกลากลัดกลึง ถึงใจฝัน
ปล่อยปอยเปื้อนปร่า น้ำตาอัน
ไหลหลั่นหลอมลง แม่คงคา