8 พฤษภาคม 2545 20:45 น.
ม้าก้านกล้วย
เพียงขอให้ได้แอบชมได้แอบชื่น
ฝันยามตื่นพาสุขล้นกมลได้
แม้หวังชิดหวังเชยเขนยละมัย
รู้ตัวว่าหวังไกลเกินไปแล้ว
จะขออยู่อย่างกระต่ายไร้คุณค่า
ไม่อาจกล้าเอื้อมคว้าจันทราแก้ว
ขอได้อาบแสงฉายพร่างพรายแพรว
เพียงพอแล้วสำหรับชายที่พ่ายรัก
จะยอมช้ำก่อนจะตรมระบมช้ำ
ยอมระกำก่อนวิตกอกจะหัก
แม้นแววตาเย้ายวนเจ้าชวนชัก
ก็ตระหนักมิใช่ชายที่หมายปอง
เสน่ห์นางหว่านโปรยโรยระริน
เกี่ยวใจชายชาวดินถวิลพ้อง
ลืมว่าสูงเลิศเลอเผยอมอง
แล้วก็ต้องร่วงหล่นกมลราญ
จึงหันหลังจากลาดอกฟ้าหรู
ลงมาอยู่แดนดินถิ่นสถาน
เป็นชายเช่นหนุ่มเหน้าเจ้าสำราญ
ประสบการณ์ร่วงจากฟ้าจะจำไว้
รู้ว่าดินควรปองมองดอกดิน
ดอกกระถินดอกหญ้ามาคว้าไขว่
ประดับแซมสมสวยด้วยดอกไม้
เสียบบนแจกันใจชายชาวดิน
(ม้าก้านกล้วย)
8 พฤษภาคม 2545 20:43 น.
ม้าก้านกล้วย
เคยเอ่ยโอษฐ์โปรดปรานสคราญสวย
เคยชมด้วยใจจริงยิ่งกว่าสรรค์
ว่านางงามเกินคำมารำพัน
เพียงจำนรรค์มิเทียมทัดวัดไล่เลียง
แต่ครั้นพี่ได้มาสบตาน้อง
ได้แต่จ้องลืมหายใจลืมบ่ายเบี่ยง
ลืมแม้มารยาทมิอาจเลี่ยง
มิกล้าเกี่ยงกายหลบกลัวลบเลือน
โองามใดจะปานนงคราญได้
เด่นไฉไลกว่าใครในผองเพื่อน
โอษฐ์ละม้ายเสี้ยวสรวงของดวงเดือน
ยิ้มแย้มเหมือนระพีมณีรำไพ
คงไม่อาจชมสาวใดได้อีกแล้ว
เหมือนพบแก้วสำรวยสวยสดใส
แววเพชรงามอร่ามตาจ้าจับใจ
ล้อเริงไฟวาววิไลไหวอารมณ์
จะเอ่ยปากฝากรักกลัวหักหาญ
จึงค่อยหว่านตาหวานสานผสม
จะเร่งรัดหยัดยืนกลัวลื่นล้ม
จึงต้องก้มขัดเคืองชำเลืองแล
โอยเจ้าเอยอกพี่นี้คงแตก
ด้วยรักแรกสูงเสมอชะเง้อชะแง้
เปรียบกระต่ายกลางไพรได้เพียงแล
หวังอยู่แค่จันทรากลางฟ้าไกล
(ม้าก้านกล้วย)
7 พฤษภาคม 2545 07:36 น.
ม้าก้านกล้วย
มันกลืนกิน โค้งฟ้า นภาใส
มันลุกไล่ แสงวาม รามสูร
มันทดแทน สวยสง่า อย่างอาดูร
มันพอกพูน ม่านเมฆ เสกพลัง
มันพัดโหม โจมจู่ อยู่อึงอล
มันโหมหน แห่แหน แสนบ้าคลั่ง
มันเหือดหด แห้งหาย สายฝนหลั่ง
มันโยธา โพยมยั้ง ตั้งเค้าคอย
บัดดล พายุ ก็เกี้ยวกราด
พัดสาด กระหน่ำหนุน พิรุณร้อย
เปรี้ยงปร้างปน โปรยปราย สายฝนปรอย
เมฆาลอย ลงต่ำ ดำทะมึน
เหมือนร่างเงา ไพร่พล สกลราบ
เหมือนกองทัพ แปรปราบ กระหนาบตื่น
ใช้วาโยเป็น ไพร่แสน นักแม่นปืน
ใช้ฝนชื่น ชุ่มสะอาด เป็นศาสตรา
มันก่อกอง ทัพใหญ่ ไล่คิมหันต์
ทัพกำแหง แห่งวสันต์ อันเกริกกล้า
มันเกรียวกราว ปนตระหนก เมื่อยกมา
เป็นอาณัติ แสดงว่า หน้าฝนเยือน
จึงโห่ร้อง รับฝน บนผืนนา
จึงส่งเสียง เจรจา มาลั่นเลื่อน
กบเขียดปาด ดาษดา กถากระเทือน
ราวเอ่ยเอื้อน ต้อนรับ ทัพเมฆินทร์
(ม้าก้านกล้วย)
7 พฤษภาคม 2545 07:34 น.
ม้าก้านกล้วย
เพราะตั้งใจ จะไป ตามที่นัด
เพราะว่าผลัด เธอไว้ ตั้งหลายหน
เพราะเกรงโดน ต่อว่า จะเสียคน
แต่เพราะฝน ตกมา ไม่กล้าพอ
จะตกมา ทำไม ก็ไม่รู้
ดูสิดู เสียนัด โดนตัดพ้อ
ฉันมิได้ ลืมหลง เธอคงรอ
เดี๋ยวชุดหล่อ จะเปียกปอน ก่อนจะเจอ
จะแก้ตัว อย่างไร ไม่ให้โกรธ
คงต้องโทษ ฝนฟ้า ทำท่าเซ่อ
คงต้องอ้าง เรี่อยเปี่อย เหนื่อยเลยเธอ
ไม่ได้เผลอ ลืมเวลา อย่าว่ากัน
เอาเป็นว่า วันนี้ มิได้ไป
ไม่เป็นไร นัดใหม่ ได้ไหมนั่น
ฝนตกมา ท่าจะดี มีไฟฝัน
จะขอนอน ตอนกลางวัน ให้ฝันดี
ว่าแล้วก็ โดดลง ที่ตรงหมอน
ใจรอนรอน ง่วงหนักหนา ตาปรือหรี่
กางแขนขา ตามสบาย คลายฤดี
วันพรุ่งนี้ ค่อยนัดใหม่ คงได้นะ
เธอคง เข้าใจฉัน คนมันง่วง
เธอคงไม่ห่วงใยไม่ยี่หระ
เธอคง เข้าใจดี มีธุระ
ก็ฝนน่ะ ตกทำไม ใจเลยเคลิ้ม
(ม้าก้านกล้วย)
6 พฤษภาคม 2545 19:23 น.
ม้าก้านกล้วย
วันนี้ฝนจะตกลงมาไหม
จะเมื่อไหร่มากเพียงไรใจอยากรู้
จะตกริน หรือตกหนัก ทะลักซู่
ก็ถามดูเพื่อจะได้เตรียมใจรอ
ฉันจะไปร้องไห้กลางสายฝน
เพราะกมลฉันหม่นเกินทนท้อ
เพราะสูญเสียรักที่เฝ้าพะเน้าพะนอ
จะตัดพ้อกับใครก็ไม่มี
เธอที่ฉันมอบรักมอบหัวใจ
เธอมาหันหลังให้เหมือนหน่ายหนี
เธอตัดรอนเยื่อใยตัดไมตรี
เธอคนที่หวังสร้างอนาคต
ฉันเคยหวังจะสุขอยู่เพียงสอง
แต่ก็ต้องแหลกกระจายสลายหมด
มันหดหู่จาบัลย์เกินรันทด
เหมือนถูกบดใจสลายกลายเป็นจุล
ก็ไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใคร
ก็เพราะไร้ทางไปเมื่อใจขุ่น
จะเรียกร้องนานามาการุณ
ก็ว้าวุ่นเกรงเขาเย้าเขาเยอะตน
จึงต้องรอให้ฝนนั้นหล่นไหล
จึงจะไปร้องไห้กลางสายฝน
จึงจะใช้ฝนชะจางล้างกมล
เพื่อจะทนต่อไปในพรุ่งนี้
(ม้าก้านกล้วย)