6 มกราคม 2546 08:46 น.
ม้าก้านกล้วย
ก็เลิกรักราร้างห่างเหินกัน
เลิกสัมพันธ์บั่นสัมผัสขัดและข้อง
ตัดสวาทขาดไปไม่ปรองดอง
ไม่แม้มองหน้ากันเมื่อพานพบ
ใช่ว่าโกรธขึ้งเคืองเรื่องถูกหลอก
แต่อยากบอกว่าเสียใจไม่รู้จบ
แผลที่โดนเล่ห์พิษไม่คิดลบ
รักตลบรักตะแลงเสียดแทงใจ
แต่เอาเถอะ ถึงอย่างไรสายเกินแก้
จะเผื่อแผ่กุศลกันวันปีใหม่
จัดกระเช้ามาเผื่อเพื่ออภัย
โปรดรับไป . . น้ำใจ ให้ต่อกัน
มีลูกจากเชื่อมแห้งกับแกงหยวก
สะเดาลวกน้ำปลาหวานฝานและหั่น
แห้วกระป๋องของฝากจากสุพรรณ
ล้วนแต่สรรค์หามาให้เอาใจนัก
มีน้ำหวาน น้ำระกำ น้ำสละ
เทปธรรมะสอนใจให้ตระหนัก
เรื่องบาปบุญคุณโทษ โกรธ หลง รัก
และผงซักฟอกให้ ล้างใจเธอ
ยาสีฟันซื่อสัตย์กับใกล้ชิด
ไว้สะกิดเตือนใจให้อย่าเผลอ
ลูกบ๊วยเค็มลูกท้อดองของแก้เก้อ
ให้เพื่อเธอเพื่อสะใจปีใหม่เอย
(ม้าก้านกล้วย)
31 ธันวาคม 2545 22:59 น.
ม้าก้านกล้วย
ปาหนัน
สวยลาวัลย์ศักดิ์ศรีเจ้ามีหนาม
ใบเจ้าเขียวขจีดอกที่งาม
ในทุกยามเย้ายวนชวนเด็ดดม
เจ้าชูช่อสูงส่งให้หลงไหล
จะเด็ดได้ฤาหากขวากหนามข่ม
กลิ่นตลบอบอวลแม้ทวนลม
ใคร่สะสมถนอมไว้ให้นานนาน
เจ้าห่อนวลหุ้มงามตามบัญญัติ
เจ้าเคร่งครัดลัทธิมิต่อต้าน
ซึ่งคงคู่ควรค่ากว่าระราน
ในสถานสรวงสวรรค์อันจำเพาะ
ขอชมเชยใช่จะเย้ยหรือหยามหยัน
ด้วยเจ้านั้นสูงค่ากว่าสืบเสาะ
ด้วยรักและศรัทธาปาหนันเพราะ
ซึ้งเสนาะความสวยด้วยความดี
ปาหนัน
แม้เจ้านั้นเกิดระหว่างกลางแสงสี
ก็ไร้ใครกระทำมาย่ำยี
เจ้าจึงมีราคากว่าไม้ใด
กอกลุ่มกราดกั้นนั้นปกป้อง
หนามของจริยะจะฝักใฝ่
ศรัทธาเพื่อปฏิบัติขจัดภัย
เจ้าจึงสูงค่ากว่าใครในแผ่นดิน
(ม้าก้านกล้วย)
18 ธันวาคม 2545 08:27 น.
ม้าก้านกล้วย
เธอทวงถามคำรักจากปากฉัน
อยู่ทุกวันว่าฉันนั้นรักเธอไหม
จะให้รีบเพ้อพร่ำไปทำไม
ก็เมื่อใจรับรู้อยู่อาจินต์
ยังไม่บอกออกมาว่าฉันรัก
เพราะตระหนักรักมีค่ากว่าเล่นลิ้น
เพลงแว่วแว่วแผ่วบรรจง คงได้ยิน
เก็บลูกชิ้นไว้สุดท้ายให้เต็มคำ
Save the best for last อาจจะรู้
ฟังฟังดูเหมือนว่า ช่างน่าขำ
แต่เชื่อไหม หากใคร ได้ลองทำ
จะดื่มด่ำเอมกมลล้นอารมณ์
วันดีดี วันใหม่ยังไม่มา
ต้องตั้งตารั้งรอขอจงข่ม
อย่าคร่ำเคร่งแม้นเร่งรวดอาจชวดชม
หากพึงสม ใจสนาน นานสักนิด
เธอล่ะก็ รอไม่ได้ เลยเชียวหรือ
ถ้าจะถือคำมั่นอันพลั้งผิด
เอาเพียงคำนำครรลองของชีวิต
แค่ใกล้ชิด ทุกเวลา ก็น่าจะพอ
ลูกชิ้นเนื้อนุ่มนักพักใจก่อน
อย่าใจร้อนหุนหัน ฉันร้องขอ
เพียงแค่คิดถึงกันเท่านั้นพอ
อยากให้รอ รั้งใจวอน ก่อนบอก รัก
(ม้าก้านกล้วย)
18 ธันวาคม 2545 08:22 น.
ม้าก้านกล้วย
ใจนะใจโอ้ใจเอ๋ยใจหวั่น
เมื่อใจขวัญใจนางใจห่างหาย
ใจจะขาดใจไร้ใจละลาย
ใจสลายใจพะวงหลงใจรอ
ดวงใจพี่ใจนี้มีใจหนึ่ง
ใจที่ซึ่งมอบใจไว้ใจไหนหนอ
ใจโลเลหลายใจตัดใจพ้อ
ใจพี่ง้อขอใจเจ้าเข้าใจรัก
ใจอ่อนใจสะอาดอาจขาดใจ
ใจนางใยไม่มีใจต่อใจภักดิ์
ไม่เห็นใจเมื่อมอบใจจนใจหัก
เผลอใจรักใจเว้าวอนอยากถอนใจ
รักเพราะรักหลงรักด้วยรักยิ่ง
เพราะรักจริงยิ่งรักเก้อเผลอรักให้
เมื่อรักแล้วรอรักตอบมอบรักไว้
แต่รักไร้ไม่มีรักรักระทม
รักเต็มทรวงรักจะรักจนรักเก้อ
รักจะเพ้อรักจะเหม่อเผลอรักขม
รักแต่น้องรักแต่นางรักอย่างตรม
รักลมลมรักลวงลวงห่วงรักลา
จนรักเลือนจากรักกลายเป็นไม่รัก
จนเกรงรักซ้อนรักซ่อนรักกว่า
แม้มั่นรักรักเธอรักเสมอมา
รักแม้ว่าเธอไม่รักก็รักเดียว
กลอนสองท่อนนี้ เป็นกลอนกลที่เรียกว่ากลอนกระทู้ เจ็ดแบก หรือ กระทู้ฝนแสนห่า (ไม่ใช่กลอนฝนแสนห่า นะ เพราะกลอนฝนแสนห่าเนี่ย แต่งแล้ว นำเสนอไม่ได้ คือ มันใช้ตัวพิมพ์ ไม่ได้ เป็นกลอนถอดรหัส ) กลในกลอนก็คือ ใช้คำใดคำหนึ่ง ในทุกท่อนกลอน โดยให้หลากหลายความหมาย ให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ อ่านแล้ว จะ สะดุด เป็น ท่อน ๆ ซึ่งเป็นลีลาที่ สวยงามและ ชวนฉงนยิ่งนัก
(ม้าก้านกล้วย)
17 ธันวาคม 2545 08:35 น.
ม้าก้านกล้วย
เช้า
วิหคร้องก้องกู่อยู่ในนา
ดังจะเชิญสุริยามาเยือนรุ่ง
ค่อยแย้มย้ายชายฟ้ามาจรุง
ฉาบเรืองรุ้งในหยาดน้ำยามฟ้าสาง
ฉายฉานปานจะกวาดดารกา
กลบดาวเกลื่อนเลือนจากฟ้าจ้าสว่าง
ตะวันแจ้งแจ่มนภามาสล้าง
จนกระจ่างแจ่มชัดสวัสดี
สาย
แสงสูรย์สูงพ้นฟ้าขึ้นมาแล้ว
รำเพยแผ่วรำไพผ่องส่องวิถี
รอนฤทธิ์ยะเยือกเฉียบเปรียบดังมี
เปลวอัคคีร้อนเร่าเข้าคุกคาม
น้ำค้างบนยอดหญ้ามาแห้งหาย
ระเหยกลายเป็นไอในสนาม
ร้อนและร้อนแรงรุกทุกโมงยาม
ด้วยวาววามเปลวแดดที่แผดเผา
บ่าย
ไอร้อนลอยเร้นเต้นระรวย
ขึ้นเป็นพวยพลุ่งพล่านผ่านโขดเขา
ระริกร้อนหลอนตาว่ามีเงา
เหมือนตั้งเตาต้มตนบนตะกอน
แดงแดดแผดกล้าเกินกว่าทน
ทั้งรุมลนเผาสุมจนรุ่มร้อน
กว่าจะเลยกาลคล้อยคอยแดดอ่อน
ก็อาวรณ์แสงทรงกลดรันทดใจ
เย็น
เมื่อรวิแกร่งกล้ามาทั้งวัน
ย่อมจะผันผ่อนให้จันทร์นั้นไสว
มาประโลมโลกบ้างอย่างละไม
เพื่อทดแทนแดนวิไลให้ร่มเย็น
ยามเมื่อโลกโหยหาอาทิตย์ห่าง
ก็อ้างว้างราวกลีที่ทุกข์เข็ญ
โลกเมื่อไร้สุริยาเวลาเย็น
จึงจะเห็นค่าประไพเมื่อไร้แสง
(ม้าก้านกล้วย)