3 กุมภาพันธ์ 2546 20:13 น.
ม่านฝน
ความรัก ในมุมมองของใครหลาย ๆ คนคงต่างกันออกไป แต่สำหรับฉันแล้ว รัก มีความหมายความยุ่งยากซับซ้อนเกินกว่าจะสรรหาถ้อยคำใดมาอธิบายได้หมด
ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยของฉันในวันนี้ยังคงดำเนินไปเหมือนเช่นทุกวัน คือตื่นขึ้นมาในตอนเช้าเพื่อเข้าเรียน เจออาจารย์ เจอเพื่อน ๆ เฮฮาปาร์ตี้กันตามประสาเพื่อนฝูง ทั้งผู้หญิงและผู้ชายเราต่างมีความรักแบบเพื่อนให้แก่กัน ไม่เคยเลยสักครั้งที่หัวใจจะคิดเกินเลยไปถึงคำว่า คู่รัก
ไม่รู้นะว่าเป็นเพราะฉันอิจฉา หรือเพราะการปิดกั้นตัวเองจนทำให้มองโลกแคบ และกลายเป็นคนใจแคบ ที่เผลอคิดตำหนิ และรังเกียจพฤติกรรมของพวกนักเรียน นักศึกษา ที่ควงคู่กันไปพรอดรักกันตามผับ คลับ บาร์ หรือเลยเถิดถึงขั้นอยู่กินด้วยกันอย่างออกหน้าออกตา และฉันคงบ้าไปแล้วที่คิดไปว่าพวกหนุ่มสาวในรั้วมหาวิทยาลัยเดียวกันนี้ควงคู่กันเพียงเพราะความโก้เก๋ หรือเป็นค่านิยมที่ต้องมีแฟนไม่อย่างนั้นจะเชย..เห่ย..ขึ้นคาน จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่วาเลนไทน์ปีนี้ ฉันยังคงใช้ชีวิตต่อไปเรื่อย ๆ เพียงลำพังอย่างไม่มีอะไรให้จดจำ
เพื่อนสนิทคนหนึ่งของฉัน เธอผู้ซึ่งมีความรักอยู่เต็มหัวใจ ได้ถ่ายทอดความรู้สึกคล้าย ๆ นิยามของคำว่า รัก ให้ฟังว่า ความรักไม่จำเป็นต้องประกอบไปด้วยการดูหนัง ฟังเพลง เต้นรำ หรือการลงเอยด้วยเรื่องของsex เสมอไป เพราะความรักเกิดขึ้นได้ทุกที่ ทุกอากัปกิริยาของคนที่รักกัน จนอาจพูดได้ว่าเพียงแค่ได้ยินเสียงจามของคนที่เรารักก็มีความสุขแล้ว จริงอยู่ที่บางคนอาจควงคู่กันเพียงเพราะความโก้เก๋ แต่แท้ที่จริงเมื่อมองดูลึก ๆ และนาน ๆ จะค้นพบว่าคู่รักบางคู่อาจเริ่มต้นด้วยความไร้เดียงสา หรือความรักหวานแหววแบบเด็ก ๆ แต่ลงเอยด้วยการวางแผนของอนาคตอย่างมีเหตุผลไว้เพื่อที่จะฝากชีวิตของกันและกันในวันข้างหน้า และเมื่อถึงเวลานั้นแล้ว วาเลนไทน์ ก็ไม่มีความสำคัญอะไรกับเขาเลย เพราะทุกวัน ทุกชั่วโมง ทุกนาที เขาก็สามารถเติมความรักให้กันได้
บางคนก็พูดถึงความรัก..ว่ามันซาบซ่ายิ่งกว่าโซดาตราสิงห์...เพื่อนฉันอีกนั่นแหละ...เธอคือผู้หนึ่งซึ่งมีความรักหล่อหลอมหัวใจอยู่ตลอดเวลาก็พูดว่าความรักนั้นแสนจะซาบซ่า ถ้าใครไม่เคยดื่มก็คงไม่รู้ อาจเดาเอาเองว่ามันคงทำให้เจ็บแสบหัวใจโดยที่ยังไม่เคยลองลิ้มรสมันเลยสักครั้ง ข้อจำกัดมากมายหลายอย่างของคนบางคน อาจกีดกันให้รักไม่บังเกิด ความกังวลทำให้รัหถูกเก็บงำ บดบัง ที่สำคัญนอกจากรักจะประกอบไปด้วยอะไรหลาย ๆ อย่างแล้ว รักคือการให้ตามนิยามที่ใครหลายคนพูดไว้
จากมุมมองของเพื่อนอีกคนหนึ่งซึ่งไม่เคยมีความรักเช่นเดียวกัน...เธอบอกว่าความรักนั้นมีพลัง มีความหมายมากมาย อย่ามองเพียงความรักที่ผิดพลาดของคนบางคนเฉกเช่นหนุ่มสาวบางคนที่มองไม่เห็นค่าของมันและอย่าตีความคำว่า รัก ตามความรู้สึกนึกคิดของตัวเองจนไม่ยอมเปิดใจให้ใครเข้ามา...
ฉันเคยซึมซาบนิยามความรักเหล่านั้นมาแล้วตั้งมากมาย จากคำพูด จากบทเพลง หรือจากละครโทรทัศน์ มันออกจะหวานซึ้งชวนให้เลี่ยนจนต้องเบือนหน้าหนี หนีหนีจนไกลออกมาเกินกว่าจะย้อนกลับไปเพื่อค้นหาความหมายแท้จริงของคำว่า รัก นั้นได้อีก
สิ่งหนึ่งที่ทำให้ฉันรู้สึกมีอคติกับความรักของหนุ่มสาวก็คือ การแสดงความรักแบบฉาบฉวยจนดูไร้ค่า เหมือนการตีตราจองตั๋วหนังในราคาไม่กี่ร้อยบาทเพื่อที่จะเข้าไปในโรงหนัง แล้วใช้เวลาเพียงสองสามชั่วโมงในการดื่มด่ำเรื่องราวทั้งหมด และออกมาแบบต่างคนต่างแยกย้ายกลับบ้าน อาจมีบ้างที่รู้สึกซาบซึ้ง ประทับใจในเนื้อหา แต่ไม่นานก็ลืมเลือนไป
เคยมีคนบอกว่าคนเราเกิดมาเพียงชาติเดียว อยากทำอะไร อยากบอกใครว่ารัก ก็ไม่ต้องเก็บซ่อนไว้ ฉันว่ามันก็จริงนะ
แต่นั่นไม่ได้เป็นบทสรุปของการมีความรักแบบสะเปะสะปะ นึกอยากบอกรักใครก็บอก หรือนึกอยากมีsex กับใครก็ตามอำเภอใจ ทำอย่างกับว่าหัวใจของคนเป็นเพียงชักโครก โดยมีความรักเป็นแค่น้ำที่หล่อเลี้ยงปากโถไว้ไม่ให้ของเสียย้อนกลับหรือมีกลิ่นเท่านั้น
เคยมีชายหนุ่มอยู่หนึ่งคนเข้ามาทำท่าทีเหมือนจีบฉัน คอยเอาอกเอาใจส่งยิ้มและถามไถ่สารทุกข์สุกดิบกันทุกวัน ฉันก็ไม่ได้ปฏิเสธมิตรภาพของเขาไปหรอกนะเราต่างเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน พูดคุยเฮฮากันดีตามประสาเพื่อน แต่นานวันเข้าเขาก็ทำทีเหมือนจะเร่งรัดให้ฉันคบกับเขาเป็นแฟนฉันเริ่มรู้สึกท้วงเขาขึ้นในใจว่าแท้ที่จริงแล้วคำว่า แฟน มันคืออะไรกันแน่ ไม่ใช่มิตรภาพและความรู้สึกดี ๆ ที่เคยมีให้กันหรอกหรือ
แล้วถ้าคำว่า แฟน คืออะไรที่มากกว่านั้น แล้วมันคืออะไรกันเล่านอกเหนือจากความถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน การเข้าใจซึ่งกันและกัน การให้ในสิ่งที่อยากจะให้โดยไม่หวังสิ่งตอบแทนแล้วยังมีอะไรที่ฉันต้องมอบให้เขาเพื่อยืนยันในมิตรภาพอีก?
ฉันยังยืนยันที่จะไม่เปิดโอกาสให้ใครเข้ามายุ่มย่ามในหัวใจ และไม่เปิดโอกาสตัวเองเพื่อค้นหาความหมายของความรักตราบจนสักวันที่ฉันแน่ใจแล้วเท่านั้น ว่าชีวิตคู่คือการร่วมทุกข์ร่วมสุขกันอย่างแท้จริง ไม่ใช่เพียงแค่การและเสพสุขเพียงชั่วเวลาหนึ่งแล้วเลิกลาจากกันไป เพื่อที่ต่างฝ่ายต่างต้องเจ็บช้ำ หรือต้องเจ็บช้ำเพียงฝ่ายหนึ่งฝ่ายเดียว ....