7 สิงหาคม 2552 18:33 น.
ม่านดอย
ดาวเดือนเกลื่อนนภาเพลาดึก
ใจระทึกไหวหวั่นจันทร์เจ้าขา
ป่านฉะนี้คนดีคงนิทรา
รู้ไหมว่าคนอยู่หลังนั่งตาปรอย
เสียงหรีดหริ่งเรไรก้องไพรสันต์
คิดถึงวันก่อนเก่าเศร้าเหงาหงอย
ถ้อยน้ำคำร้อยเรียงเสียงสำออย
ใจละห้อยคอยหาทุกราตรี
พระพายจ๋าพาคำลำนำเศร้า
ลอยถึงเขาคนไกลห่างต่างวิถี
วอนเดือนดาวพราวพร่างหว่างนภี
บอกเขาทีมีบางใครใจอาดูร
นั่งละเมอเพ้อฝันจันทร์เจ้าเอ๋ย
กระไรเลยชีวินเหมือนสิ้นสูญ
ยิ่งตัดใจใยรักถ้กเพิ่มพูน
ความเกื่อกูลหนหลังยังฝังตรึง
ทรมานหมองหม่นกมลข้า
ในอุราร้อนเร่าเฝ้าคิดถึง
นอนไม่หลับซับน้ำตาพารำพึง
ร่ายกลอนซึ้งถึงคนไกลใจคร่ำครวญ
5 สิงหาคม 2552 16:28 น.
ม่านดอย
คุณมารดานั้นหนาหาใดเปรียบ
มิมีเทียบเทียมได้ในโลกนี้
สู้อาบเหงื่อท่วมตัวชั่วชีวี
ทุกอย่างพลีเพื่อลูกน้อยเจ้ากลอยใจ
ยามลูกรักเจ็บปวดแม่รวดร้าว
ยามเจ้าเศร้าหมองหม่นจักทนไหว
แม่เจ็บมากว่าร้อยเท่าเจ้าทรามวัย
ลูกนั้นไซร้มีค่ายิ่งกว่าสิ่งใด
ลูกมีสุขสดใสใจแม่ชื่น
ยามค่ำคืนมองจันทร์อันสดใส
ขอลูกข้าสุกสว่างทางยาวไกล
คุณพระตรัยแก้ไขข้องอย่างหมองตรม
แม่มิเคยหวังสิ่งใดในตัวลูก
เพียงแต่ปลูกฝังจิตคิดเหมาะสม
เป็นคนดีศรีสง่าค่าควรชม
ดังทีแม่อบรมบ่มสอนมา
ทำอะไนอย่าให้ใครเดือนร้อน
ก่อนเข้านอนน้อมนำธรรมคาถา
ใช้อยุ่คู่ทางชีวิตพิจารณา
เกิดปัญญาพาให้ไม่หลงทาง
มีเวลาน้อยนิดคิดสะสม
มั่นอบรมภาวนาพระทั้งสาม
พระพุทธนำพระธรรมส่งพระสงฆ์ตาม
ทำคุณงามความดีมีศีลทาน
เพียงแค่นี้ก็ชื่นในหทัยแม่
ถึงยามแก่ทิ้งสังขาราอธิษฐาน
ให้ลูกหลานทุกคนพ้นบ่วงมาร
ถึงนิพพานถ้วนทั่วทุกตัวตน
5 สิงหาคม 2552 00:57 น.
ม่านดอย
โบกมือลาอาลัยใจสลาย
รักมลายคลายสิ้นเสน่หา
ต้องกล้ำกลืนฝืนยิ้มปริ่มน้ำตา
ช้ำอุราร้าวรานปานขาดใจ
ยืนตัวสั่นรันทดสรดกำสรวล
ฤทัยครวญช้ำนักจักทนไหว
จำต้องตัดสวาทขาดเยื่อใย
ยิ่งสัมพันธ์ยาวไกลใจระบม
ดูซิฟ้ายังครวญหวนร่ำไห้
พิรุณใสรวยรินจินต์ขื่นขม
ฟ้าร้องครืนยืนหนาวร้าวระบม
ต้องนนอนซมพิษรักหนักเหลือเกิน
โอ้แรงฤทธิ์พิศวาสบาดใจร้าว
ยามถึงคราวรักร้างมาห่างเหิน
หัวอกหม่นหมองไหม้ใจยับเยิน
ขอหมางเมินความรักชั่วกัปล์กัลป์