17 มิถุนายน 2552 19:37 น.
ม่านดอย
โลกาวุ่นครุ่นคิดหนักรักปั่นป่วน
กามเทพแผลงศรทวนเสน่หา
มีหลายคู่มากมายหน่ายอุรา
ร่วมวิวาห์ไม่นานพาลแยกทาง
บางคู่ดุสดชื่นรื่นหรรษา
รู้ไหมว่าข้างในใจหม่นหมาง
ต้องฝืนยิ้มหน้าใสใจอัปปาง
เพราะต้องวางภาพพจน์บทสังคม
บางคู่เศร้าเคล้าน้ำตาน่าสงสาร
รักร้าวรานสะท้านใจให้ขื่นขม
ต้องหันหลังจากจรซ่อนความตรม
โธ่พระพรหมองค์ไหนทำได้ลง
บางคู่หวานซ่านซึ้งตรึงดวงจิต
แนบสนิทชิดชื่นระรื่นหลง
คอยหวงหาอาลัยใฝ่พวง
ด้วยมั่นคงรักเติมต่อขอชมเชย
บางคู่ไซร้ผิดไปให้กังขา
คู่วิวาห์ชายกับชายใครเฉลย?
หญิงกับหญิงยิ่งแปลกแหวกโลกเลย
กามเทพเจ้าเอ๋ยเผยความที
บางคู่หนอเมียดีศรีแม่บ้าน
สามีพาลเมามายน่าหน่ายหนี
เมากลับมาหาเรื่องเคืองทุบตี
กามเทพตัวดีช่วยตีความ
บางสามีแสนดีพลีใจให้
ภรรยาไม่สนใจในเรือนสาม
ชอบละเลยหน้าที่สตรีงาม
วอนพ่อกามฯแผลงศรใหม่ได้ไหมเอย
16 มิถุนายน 2552 17:26 น.
ม่านดอย
น่าสงสารสาวงามนามเครือฟ้า
เสน่หาพาให้ใจโศกศัลย์
ทุกข์ระทมขมขึ้นฝืนจาบัลย์
ตราบสูญสิ้นชีวันมั่นรักเดียว
เป็นตำนานรักรัดทดกำสรดสรวล
นางคร่ำครวญเพราะใจไม่เฉลียว
ดวงฤทัยมั่นในรักภักดิ์ชายเดียว
เขามิเหลียวแลมองหมองใจตรม
คุณนายร้อยบางกอกหลอกลวงรัก
จึงประจักษ์รักซ้อนซ่อนขื่นขม
พบสาวงามเครือฟ้าน่าภิรมย์
ได้เชยชมสมฤทัยไม่นำพา
อุธาหรณ์สอนใจให้สาวเหนือ
อย่าหลงเชื่อชายเจ้าชู้อู้ "จ๊ะจ๋า"
เดี๋ยวจะช้ำชอกจินต์รินน้ำตา
เช่นเครือฟ้าลาตายพ่ายรักลวง
13 มิถุนายน 2552 20:02 น.
ม่านดอย
ชีวิตจริงอิงนิยายเบื่อหน่ายนัก
ทั้งอกหักรักร้าวเคล้าขื่นขม
ทนอยุ่เดียวเปลี่ยวเหงาเศร้าระทม
น้ำตาพรมโลมไล้ทั่วใจกาย
เหมือนเกิดมาฟ้าพิโรธลงโทษข้า
ถูกสาบมาให้รับกรรมตามที่หมาย
ต้องทนทุกข์ทรมานปานเจียนตาย
สิ้นสลายพ่ายทุกอย่างทางมืดมน
ทุกทิวาราตรีมีแต่ฝัน
เหม่อมองจันทร์คืนเพ็ญเด่นเวหน
เก็บหัวใจใส่แสงดาวพราวเบื้องบน
ฝากถึงคนแดนไกลได้ยลยิน
อยากจะเผยความนัยเอ่ยให้รู้
เรื่องร่วมคู่เคียงครองน้องมิหมาย
ขอสิ้นภพจบรักพักใจกาย
ตราบฟ้าสิ้นดินมลายหน่ายรักลวง
รู้ฤทัยพี่ภักดิ์รักนวลน้อง
ขอเคียงครองปองพี่ที่แดนสรวง
ร่วมภิรมย์สมรักสลักทรวง
อยู่ในห้วงพิศวาสในฝันเอย
31 พฤษภาคม 2552 19:15 น.
ม่านดอย
ดวงฤดีเงียบเหงาเศร้าโหยหวน
แสนรัญจวนหวนไห้อาลัยหา
ยอดหทัยสายสวาทนิราศลา
อนิจาไปลับไม่กลับคืน
คิดถึงถ้อยวลีที่แม่สอน
พออ่านกลอนพระคุณแม่แลสุดฝืน
ระลึกกถึงวาจาพากล้ำกลืน
ทุกวันคืนแม่จ๋าลูกอาดูร
คิดถึงแม่ทุกคราน้ำตาไหล
ความเอ็นดูรู้แก่ใจไม่มีสูญ
รักห่วงหวงลูกน้อยคอยเกื้อกูล
อีกเพิ่มพูนหนุนนำลูกถูกวิธี
ต่อนี้ไปใครเล่าเฝ้าพร่ำเพรียก
คอยร่ำเรียกห่วงหาลูกยาหยี
รับประทานอาหารนะคนดี
ตื่นเสียทีสายแล้วเจ้าแก้วตา
กลับแล้วหรือเจ้าเอยแม่เอ่ยทัก
คอยฟูมฝักลูบไล้ปลายเกศา
ลูกออเซาะเว้าวอนอ้อนวาจา
นอนหนุนขาพาสุขลืมทุกข์ตรม
ทุกคืนวันร้องไห้ใจแทบขาด
โอ้อนาถดวงฤทัยให้ขื่นขม
ต่อแต่นี้มีแต่ลูกทุกข์ระทม
อยากสิ้นลมหายใจไปด้วยกัน
ยามลูกทุกข์ขื่นขมระบมหนัก
อ้อมกอดรักจากแม่แผ่กระสันต์
ช่วยลูกให้คลายทุกข์ปลุกชีวัน
สุดรำพันสรรวาจามากล่าวชม
มองดาราเหมือนตาแม่แลหาลูก
ความพันธ์ผูกของเราเหงาขื่นขม
คิดถึงแม่ร้าวใจให้ระทม
วอนอินทร์พรหมบ่มวาจาพาถึงเธอ
ต่อแต่นี้ไม่มีแล้วแก้วตาลูก
เถ้ากระดูกผูกพันธ์กันเสมอ
ขอพบกันทุกชาติปรารถนาเจอ
ขอให้เธอสู่สวรรค์ชั้นวิมาน
17 พฤษภาคม 2552 02:20 น.
ม่านดอย
หวลคิดถึงคืนเพ็ญเดือนเด่นหล้า
ทั่วนภาดารารายฉายเวหน
แม่นวลนางงามเหลือเกินเดินให้ชม
ดังอัปสรจากแดนพรหมสมเทพี
แต่ละนางร่างระหงส์องค์เอวอ่อน
อรชรกรนิ้วผิวนวลฉวี
ค่อยเยื่องย่างดังหงส์เหิรเดินเวที
ดุจดังเทพเทวีหนีมาเยือน
เกล้าผมมวยขวยขัดทัดดอกเอื่อง
ช่อสีเหลืองเรืองอร่ามงามเชือดเฉือน
นุ่งผ้าซิ่นดิ้นทองมองติดเตือน
ข่มดาวเดือนให้หมองเป็นรองเธอ
ผ้ารัดอกปกปิดถันอันขาวผ่อง
เพลินพิศมองโฉมไฉไลใจอาจเผลอ
เข็มขัดเงินวาววับรัดเอวเธอ
งามเลิศเลอสมส่วนนวลอนงค์
ผ้าสไบไหวพลิ้วปลิวสบัด
งามเด่นชัดเอวกิ่วคิ้วขนง
แม่ทำบุญใดเล่าเจ้าโฉมยง
ทั้งทรวดทรงวงพักตร์ลักขณา
จะให้เลือกน้องนางใดใจสับสน
แต่ละคนดลฤทัยให้ใฝ่หา
ตัดสินใจแสนยากลำบากตา
กรรมการเจ้าขาเบอร์ห้ามาแรง