4 กันยายน 2548 03:30 น.
มือ ไหม้พาย
-๑-
ลมหนาววูบหนึ่งซึ่งพัดหวน
พากลิ่นลำดวนอบอวลทุ่ง
สุดขอบฟ้าไกลมีสายรุ้ง
หมอกขาวกลางมุ้งปรุงแต่งดอย.
-๒-
'บนฟ้ามีเมฆลอย บนดอยมีเมฆบัง'
ความหวังหนุ่มสาวช่างเหงาหงอย
คนเก่าเฒ่าชราตั้งตาคอย
วันที่ลูกน้อยนั้นเติบตน.
ลมหนาวพัดพามาเยือนถิ่น
ผ้าห่มขาดวิ่น-ความขัดสน
เสียงร้องลำบากคนยากจน
คงไม่ดังถึงคนในสภา.
แม่จ๋า...ไม่เป็นไร
หยุดร้องไห้เสียทีเถิดหนา
ลูกจะไปทำงาน-ส่งเงินมา
ซื้อผ้า ซื้อข้าว ซื้อเตาไฟ.
หนทางเมืองหลวงนั้นลวงลึก
ยิ่งนึกยิ่งต้องเผลอร้องไห้
คิดถึงเรื่องเก่าครั้งเยาว์วัย
เสียงเพลง-หัวใจ-ใต้ฟ้าคราม.
-๓-
'อ้ายคนจนจำต้องทนปั่นรถถีบ
จะไปจีบอีน้องคนงาม'
ยังไม่เคยมีรัก-รู้จักความ
ไร้เดียงสา นิยามของความรัก.
ความจนลักพาความเป็นเด็ก
แม้ยังเล็กแต่ภาระก็แสนหนัก
ถึงเหนื่อยล้ายังเอนพิงได้อิงพัก
นอนตักแม่หนุนอุ่นนิทรา.
'ทุกครั้งที่ความมืดคลาย
หมายถึงวันที่ดีกว่า
คือโอกาสชีวิตให้เราฟันฝ่า
ขอบฟ้ามีตะวัน'.
-๔-
แว่วเสียงสะล้อซอซึง
คิดถึงจุดหมาย-ปลายฝัน
'เมื่อดอกไม้แย้มบาน ให้คนหาญสู้ไม่หวั่น
คือรางวัล แด่ความฝันอันยิ่งใหญ่ให้เธอ'.
-๕-
ลมหนาววูบหนึ่งซึ่งพัดหวน
ทบทวนความทรงจำสม่ำเสมอ
บทเพลงเหล่านั้นที่ฉันเจอ
สอนให้ฉัน ยิ้มให้เธอ-เจ้าน้ำตา.
'ทุกครั้งที่ความมืดคลาย
หมายถึงวันที่ดีกว่า
คือโอกาสชีวิตให้เราฟันฝ่า
ขอบฟ้ามีตะวัน'.
......................................
คิดถึง จรัล มโนเพ็ชร -เพชรเม็ดงามล้านนา
ระลึก 3 กันยายน -4 ปีแห่งจากไป ไม่จากใจ...
......................................