9 มกราคม 2550 07:51 น.
มีน[า]
สายฝนยังคงตกลงมาไม่ขาดสายตั้งแต่ตอนเย็น แต่ด้วยความรัก ความคิดถึงที่เธอมีให้เขามันมีมากเกินกว่าที่จะทนรอถึงวันรุ่งขึ้น จึงต้องชวนเพื่อนสาวลงจากพอพักมาโทรศัพท์หาเขา และแม้อีกฝ่ายจะไม่อยากลงมาด้วยฝนตกหนัก แต่ก็ไม่อยากขัดใจเพื่อน และรู้ดีว่าถึงเธอไม่ลงมาเป็นเพื่อน อีกฝ่ายก็คงลงมาคนเดียวอยู่ดี งั้นไม่สู้เธอลงมาเป็นเพื่อนน่าจะดีกว่า
หอพักที่พวกเธอพักอยู่เป็นหอพักทั่วๆไปในกรุงเทพมหานคร เมืองหลวงที่แสนวุ่นวาย แออัดไปด้วยผู้คนต่างที่มา ต่างระดับชั้น ต่างจิตต่างใจ
พิณทิรา เฝ้าคิดถึงเขาชายอันเป็นที่รัก และชื่นชม เฝ้าคิดถึงเขามาตลอดตั้งแต่ตอนเริ่มคบกันใหม่ๆ เมื่อสองปีก่อน เขาเป็นรักแรกของเธอ เขาซึ่งเข้ามาเติมเต็มหัวใจที่เปลี่ยวเหงาของวัยสาวให้เต็มไปด้วยความรู้สึกวาบหวาม หวานไหว ด้วยถ้อยคำพร่ำรำพัน ตลอดทุกการกระทำที่เขาแสดงออกว่ารักเธออย่างมากมาย
สองปีก่อน เขาเป็นรุ่นพี่เธอหนึ่งปี และกำลังจะจบการศึกษาในระดับมัธยมศึกษาปีที่ 6 ของโรงเรียนมีชื่อในอำเภอ ในจังหวัดเล็กๆ ของภาคใต้ ส่วนเธอเรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ด้วยความที่ชื่นชมในความสามารถในการเรียนและนิสัยหลายๆอย่างของเขาทำให้ พิณทิรา พาตัวเองเข้าไปอยู่ใกล้ๆ เขาเสมอ เขาเองก็ยังไม่มีใครในหัวใจ เมื่อพบกันหลายๆ ครั้งประกอบกับความช่วยเหลือของเพื่อนๆ หลายๆคนที่ช่วยเป็นสื่อให้ สุดท้ายเขาและเธอก็ตกลงใจที่จะคบกัน
และแม้จะคบกันแล้วก็ตาม พิณทิราก็ยังคงรักษาระยะระหว่างเขากับเธอไว้เป็นอย่างดี เธอไม่ยอมแม้จะให้เขาได้จับมือ แม้ว่าหัวใจจะต้องการ แต่ความที่ได้รับการปลูกฝังจากทั้งบิดา และมารดา ให้รักในเกียรติ์ของผู้หญิง อย่าปล่อยเนื้อปล่อยตัวให้ใครง่ายๆ ไม่เหมือนเด็กสมัยใหม่ บางคนที่แทบจะเข้าไปนั่งบนตักของกันและกัน
เขาเองก็ไม่เคยจะหักหารน้ำใจเธอ แต่เขาก็มีอีกหลากหลายวิธีที่ทำให้เธอรู้ว่าเขารักเธอมากมายเพียงใด และออกจะโรแมนติกไม่น้อย จนหลายครั้งที่เธอก็นึกอายเพื่อนๆเหมือนกัน ทั้งที่ใจอิ่มเอิบไปด้วยรักที่เขามอบให้
เพื่อนๆ ต่างเข้าใจในความรักของทั้งคู่ หลายคนคิดอิจฉาเธอที่ได้เขามาเป็นคนรัก เขาที่แสนดีทุกอย่าง และทำทุกอย่างเพื่อให้เธอมีความสุข
พี่จะจบ ม.6 แล้ว พี่คงคิดถึงพิณ แย่เลยตอนไปเรียนมหาวิทยาลัย เขาเคยพูดกับเธอแบบนี้
แหม แต่เราก็ติดต่อกันได้ตลอดนี่ แม้จะพูดไปแบบนั้นแต่ก็รู้สึกใจหายไปเหมือนกัน เมื่อรู้ว่าจะต้องจากกันไปไกลเพื่อเรียนต่อ แต่ก็มั่นใจในรักที่เขามีให้เธอ เท่ากับที่มั่นใจในรักที่เธอมีให้เขาว่ามันจะไม่เปลี่ยนแปรไป ไม่ว่าทั้งสองจะห่างกันไปเท่าไร จะนานเท่าไร แต่รักนี้จะไม่เปลี่ยนแปลง
ถ้ามีโอกาสพี่จะแวะมาหาบ่อยๆนะ เขาให้สัญญา
พิณ กลัวแต่พี่จะไปเจอคนใหม่ที่สวยน่ารักกว่า พิณแล้วก็คงลืมพิณ สาวเจ้าพ้อ
พี่จะลืมพิณได้ยังไง พิณคือหัวใจพี่ คำหวานของเขายังคงแววอยู่จนทุกวันนี้
ใครกันนะบอกว่ารักแรกมักไม่สมหวัง แต่รักแรกของเธอกับเขาไม่เคยเปลี่ยนแปลง
อีกสี่ปี พี่เรียนจบแล้ว พี่จะไปขอพิณนะ เราจะสร้างอนาคตด้วยกัน เขาเคยพร่ำบอกต่างๆนานา เกี่ยวกับอนาคตที่จะมีเพียงเขาและเธอ ครอบครัวเล็กๆ ที่อบอุ่น มีลูกด้วยกัน เขาจะทำทุกอย่างให้เธอมีความสุขที่สุด เธอเองเคยฝันถึงวันนั้นเสมอ ผู้หญิงคนหนึ่งจะมีอะไรสุขไปกว่ามีครอบครัว ที่อบอุ่น มีสามีที่ดีที่รักและทำทุกอย่างเพื่อความสุขของครอบครัว และภรรยา เธอจะเป็นผู้หญิงที่โชคดีที่สุดในโลก เมื่อวันนั้นมาถึง เธอเฝ้าแต่วาดฝันถึงวันนั้น ในอนาคตที่ไม่ไกลนัก
ปีแรกที่เขาไปศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัย เขาไม่เคยผิดคำพูดที่เคยให้ไว้ ทั้งเขียนจดหมายมาหาตลอด และกลับมาหาเธอทุกครั้งที่มีโอกาสในช่วงวันหยุดยาว ตลอดจนมีของฝันติดมือมาให้เธอเสมอ แต่ของเหล่านั้นไม่ได้มีความหมายกับเธอมากไปกว่าการได้พบเขาเลย เธอเองโทรศัพท์ไปหาเขาเสมอ แม้ว่าทั้งเธอจะไม่มีโทรศัพท์มือถือใช้ ด้วยว่าในตอนนั้นโทรศัพท์มือถือยังมีราคาแพง และไม่เหมาะกับเธอและเขาที่ยังไม่มีรายได้อะไร ไม่เหมือนสมัยนี้ที่แทบจะไล่แจกกันอยู่แล้ว ดังนั้นเธอจึงมักจะโทรไปเข้าเบอร์ที่หอพักของเขา แม้บ้านเธอจะมีโทรศัพท์บ้านใช้แต่เธอไม่สะดวกให้เขาโทรติดต่อมาเพราะเรื่องที่เธอคบกับเขาเธอปิดเป็นความลับ ไม่ได้บอกให้ใครรู้ด้วยบิดาไม่ชอบให้บุตรสาวคบผู้ชายก่อนจะเรียนจบ ดังนั้นในครอบครัวเธอจึงมีเพียงน้องสาวที่เรียนอยู่ ม.4 คนเดียวเท่านั้นที่รู้เรื่องระหว่างเธอกับเขา
พิณ ไปเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยพี่นะ เขาเอ่ยชวนในวันปีใหม่ที่เขากลับมาและมาพบเธอเหมือนทุกครั้งที่เขามักจะกลับมาเสมอๆ ความจริงนี่เป็นเรื่องที่เขาคิดไว้นานแล้วและพูดกับ เธอเสมอ มาตั้งแต่เขาจบไปใหม่ๆ
มหาวิทยาลัยที่เขาไปเรียนเป็นมหาวิทยาลัยเล็กๆ ที่จังหวัดหนึ่งในภาคใต้ เขามักบอกเสมอว่า แม้จะเล็ก แต่ด้านการเรียนการสอนไม่ได้ด้อยกว่าที่อื่น เครื่องมือก็พร้อมกว่าด้วยซ้ำ ที่สำคัญที่นั่นอยู่กันแบบพี่น้อง อบอุ่น และมีความสุข
ทำไมพิณทิราจะไม่อยากไปเรียนที่เดียวกับเขา ในเมื่อเธอคิดถึงเขาทุกลมหายใจอยู่อย่างนี้ แต่เหมือนฟ้าแกล้ง ในการสอบเก็บคะแนนที่จะใช้รวมกับ GPA รอบที่ 2 เพื่อใช้เป็นคะแนนในการสอบเข้ามหาวิทยาลัย จังหวัดที่เธออยู่เกิดน้ำท่วมหนัก ทำให้เธอเองไม่ได้ไปสอบในครั้งที่ 2 ทั้งที่ตลอดเวลาเธอเองทุ่มเทเวลาส่วนใหญ่ในการอ่านหนังสือ และเตรียมตัวสอบครั้งนี้ สุดท้ายคะแนนของเธอไม่เพียงพอที่จะสอบเข้ามหาวิทยาลัยเดียวกับเขา ช่วงนี้เขาเองก็หายไปไม่มาหาเธอ เขาให้เหตุผลว่าเขากำลังทำงานพิเศษช่วงปิดเทอมเพื่อจะได้มีค่าใช้จ่ายในตอนเปิดเทอม เธอไม่ได้บอกเขาเรื่องที่ไม่สามารถสอบเข้าที่เดียวกับเขาได้ และคิดว่าเขาคงเข้าใจ
สุดท้ายเธอและ อุษา เพื่อนรักก็ตัดสินใจไปเรียนต่อที่กรุงเทพ เมืองฟ้าที่หลายคนใฝ่ถึง เหมือนกับเพื่อนๆคนอื่นๆ และนักเรียนอีกหลายหมื่นคนทั่วประเทศ
อุษา เป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของเธอ ตั้งแต่เข้าเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 และนับแต่นั้นทั้งสองก็คบกันเป็นเพื่อนที่รู้ใจกัน ซึ่งอุษานี่เองที่เป็นหนึ่งในแม่สื่อที่ทำให้เขาและเธอได้คบกัน อีกทั้งยังค่อยปลอบใจ ยามเธอไม่สบายใจ คอยช่วยคิดช่วยแก้ปัญหาต่างๆให้เสมอ นอกจากพ่อแม่ครอบครัว และเขาอันเป็นที่รักแล้ว อุษาคืออีกคนที่เธอรักและห่วงใย
เธอมาเรียนอยู่กรุงเทพฯ กว่า 2 เดือนแล้ว กับเพื่อนรักอย่างอุษา ในขณะที่ข่าวเกี่ยวกับเขาเงียบไป เธอเคยโทรศัพท์ไปหาเขาที่หอพักจึงทราบว่า เขาย้ายออกไปเช่าบ้านอยู่กับเพื่อนๆของเขา สุดท้ายเธอตัดสินใจเขียนจดหมายไปถึงเขา เพื่อบอกเขาถึงที่อยู่ใหม่ และเรื่องอื่นๆที่เกิดขึ้นช่วงหลายเดือนที่ไม่ได้ติดต่อกัน ช่วงเวลาที่นานที่สุดที่ไม่ได้ติดต่อกันนับตั้งแต่คบกันมา เธอคิดว่าเขาเองก็คงร้อนใจเช่นกันที่ติดต่อเธอไม่ได้
อีกเกือบเดือนที่เธอได้รับจดหมายตอบจากเขา เขาบอกว่าเขาไม่รู้จะติดต่อเธอยังไง จะโทรไปถามที่บ้านเธอก็ไม่กล้า เขาบอกที่อยู่กับเธอ และเบอร์โทรศัพท์ของบ้านที่เขาไปเช่าอยู่กับเพื่อนๆ เขายังบอกอีกว่าเขาเสียใจที่เธอไม่ได้ไปเรียนที่เดียวกับเขา แต่เขาก็เข้าใจทุกอย่างดี เพียงแต่คงขึ้นไปหาเธอที่กรุงเทพไม่ได้ เพราะมันไกลกันมาก เธอตอบจดหมายไปถึงเขาว่าเธอเข้าใจ จากนั้นเธอก็โทรศัพท์คุยกับเขาเสมอ แต่หลายครั้งที่เธอโทรไปไม่พบเขา เพื่อนๆของเขาบอกว่าเขาเข้าไปในมหาวิทยาลัยยังไม่กลับเข้ามา ในขณะที่เขาเองก็ไม่ค่อยได้โทรหาเธอบ่อยนัก แต่พิณพิราก็คิดในแง่ดีว่า เขาคงยุ่งกับการเรียนมาก และคงเรียนหนักมาก ตามที่เขาเคยบอกเธอ และไม่ว่าอย่างไรเธอยังคิดว่าเขายังคงเหมือนเดิม เหมือนความรักที่เธอมีให้เขาที่ยังเหมือนเดิมตั้งแต่วันแรกที่คบกันจวบจนวันนี้ แม้ระยะห่างของเขาและเธอจะเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว
ความจริงใช่ว่าจะไม่มีผู้ชายมาสนใจเธอ แต่ในเมื่อใจของเธอมีเจ้าของไปแล้ว เธอจึงปฏิเสธทุกไมตรีที่ยื่นเข้ามา
หนึ่งในนั่น วุฒ เป็นคนหนึ่งที่ยังไม่เลิกตื้อเธอทั้งที่เธอบอกปฏิเสธเขาไปตรงๆแล้ว และยังบอกว่าหัวใจเธอมีเจ้าของแล้ว แต่วุฒยังไม่ล้มเลิกความพยายาม เด็กหนุ่มให้เหตุผลว่า ตื้อเท่านั้นที่ครองโลก กับ รักแท้แพ้ใกล้ชิด จนเธอก็อ่อนใจที่จะพูดกับเขาอีก แต่เจ้าหนุ่มก็ยังพยายามวนเวียนแวะมาหาอยู่เสมอ ด้วยความที่เรียนอยู่คณะเดียวกัน อีกทั้งยังมีหอพักอยู่ใกล้กัน วุฒ จึงหาเหตุมาพบเธอบ่อยๆ ความเป็นคนขี้เล่น ทำให้หลายครั้งที่ พิณทิราลืมเรื่องเศร้าๆ ไปเหมือนกัน แต่เธอก็คิดกับเขาแค่เพื่อนเท่านั้น
มีอยู่ครั้งหนึ่งที่เธอเล่าเรื่องของวุฒ ให้เขาคนนั้นฟังเจตนาเพื่อแกล้งให้เขาหึงเล่นๆ เท่านั้น แต่สิ่งที่เธอได้รับกลับมาคือความเงียบ เธอไม่รู้ว่าเขาคิดอะไร นั่นทำให้เธอน้อยใจไปบ้าง อย่างน้อยเขาน่าจะแสดงออกอะไรบ้างว่าเขารู้สึกอะไร หรือแสดงออกบ้างว่าเขาไม่พอใจที่มีผู้ชายอื่นเข้ามายุ่งกับคนรักของเขา แต่เขากลับเงียบแล้วเปลี่ยยนเรื่องคุยไป ความเชื่อมั่นที่เคยเต็มเปี่ยมว่าเขายังคงรักเธอไม่เปลี่ยนแปลงเริ่มสั่นคลอน
ฟ้าแลบปลาบ ตามด้วยเสียงฟ้าร้องสนั่นหวั่นไหว ฝนที่ตกตั้งแต่ตอนเย็นยังคงไม่มีทีท่าว่าจะหยุด เหมือนฟ้าจะรับรู้ว่าดวงใจน้อยๆของเธอแทบแตกสลาย เมื่อคนที่เธอเฝ้าหลงรักมาตลอด ทั้งเชื่อใจมาตลอด จะมาเอ่ยบอกกับเธอว่า ขอให้รักของเราสิ้นสุดลงเท่านี้ ขอให้เราเป็นพี่ชายน้องสาวกันเท่านั้น พิณพิราไม่เข้าใจ เธอเฝ้าถามหาเหตุผล แต่เขาไม่ตอบ เขาบอกเพียงเสียใจ เรื่องที่ผ่านมาขอให้เป็นความหลัง น้ำตาใสๆ หยดลงอาบแก้มเนียนเธอปล่อยโทรศัพท์ในมือ ในหัวไม่รับรู้เรื่องราวอะไรอีกแล้ว ภาพความรักความหลังที่เคยหวานชื่นผ่านเข้ามาในความทรงจำ พร้อมๆกับ ภาพอนาคตที่วาดฝันพังทลายลง น้ำตาพรั่งพรูลงอาบสองแก้ม ในขณะที่เจ้าตัวทรุดลงก้มหน้าร้องไห้
พิณ เป็นอะไร อุษาร้องอย่างตกใจเมื่อเห็นสภาพเพื่อนรัก
เขาเลิกกับเราแล้ว เสียงพิณทิราพร่ำเพ้อ ไม่ขาดปาก พร่ำพูดซ้ำไปซ้ำมาอย่างนั้น เหมือนไม่รับรู้อะไร ทำเอาอุษารู้สึกสงสารเพื่อนสุดทน เธอตรงเข้าเขย่าตัวเพื่อนอย่างแรงเพื่อเรียกสติ แต่อีกฝ่ายเหมือนไม่รับรู้อะไร ยังคงร้องไห้ปานว่าใจจะขาดลงให้ได้ เมื่อชายที่รักมานาน บอกตัดรักสั้นๆ ง่ายๆ ผ่านทางโทรศัพท์เท่านั้น รักของเธอไม่มีค่าพอสำหรับเขา คำรักที่เขาเคยบอกเป็นเพียงคำหลอกเท่านั้นหรือ เธอเฝ้าถามตัวเอง
พิณทิรา หยุดฟูมฟายร่ำไห้แล้ว แต่น้ำตายังไหลอาบแก้ม ดวงตาแดงก่ำ หลังจากผ่านการร้องไห้มานาน
เราจะโทรไปถามพี่เขาว่าทำไมทำกับพิณแบบนี้ อุษาบอกเจตนาของตน
อย่าเลยนะษาเราไม่มีอะไรจะพูดแล้ว เขาก็พูดมาชัดเจนแล้ว ว่าให้เรื่องมันจบกันไป พิณทิรา ห้ามเพื่อน
แล้วตัวจะมานั่งเสียใจโดยไม่รู้เหตุผลอย่างนี้หรือ
ถ้าเขาอยากบอกเขาก็คงบอกเราไปแล้ว
แล้วตัวจะทำใจได้หรือ
เราจะพยายาม ต่อไปเราจะตั้งใจเรียนอย่างเดียว จะมีแต่พ่อ แม่และน้องๆ พิณทิราปาดน้ำตาออกจากแก้ม พยายามทำจิตใจให้เข้มแข็ง มีเพียงอุษาเท่านั้นที่พอจะทราบว่า ใจของเพื่อนรัก ปวดร้าวเพียงใด เมื่อรักมากก็ช้ำมากเป็นธรรมดา
พิณพิรา เหม่อมองออกไปยังสายฝันที่ตกพร่ำๆ ด้านนอกหอพัก มันตกมาตั้งแต่เย็นวาน โดยไม่มีทีท่าจะหยุดตกแม้แต่น้อย ภาพความหลังกระจ่างจัดในความทรงจำ อีกกี่ปีหนอ เธอจะลืมเขา น้ำตาพาลจะไหลลงมาอีก หากสาวเจ้ากล้ำกลืนฝืนไว้ ไม่อยากให้มันไหลออกมาอีกแล้ว
ปล่อยมันเถอะพิณ ร้องไห้ให้พอเถอะเพื่อน ให้พอกับความเสียใจ เสียงเพื่อนปลอบมา พิณพิราก็ปล่อยโฮอีกครั้ง อุษาโอบเพื่อนรักไว้ ร่างนั้นสะอื้นสั่นสะท้านปานจะขาดใจ อุษาไม่นึกเลยว่าผู้ชายที่สุดแสนดีคนนั้นจะแปรเปลี่ยนไปถึงเพียงนี้ หรือกาลเวลาทำให้คนเปลี่ยนได้จริง แล้วนี่หากไม่มีเธออยู่ด้วย เพื่อนรักของเธอคนนี้จะทำอย่างไร จะมีแรงก้าวสู้ไปข้างหน้าได้หรือ แม้เจ้าตัวจะทำเป็นเข้มแข็ง แต่อุษาก็รู้ว่าอีกฝ่ายเปราะบางเพียงใด
เช้าวันใหม่ แดดอุ่นสาดส่องเข้ามาในห้องนอน ฟ้าหลังฝนมักสวยเช่นนี้เสมอ
เมื่อคืนอุษาปลอบเพื่อนสาวอยู่ทั้งคืน กว่าอีกฝ่ายจะหลับก็เลยเที่ยงคืนไปหลายชั่วโมง ดังนั้นกว่าจะงังเงียตื่นขึ้นก็สายมากแล้ว ดีที่วันนี้เป็นวันอาทิตย์ จึงไม่ต้องไปมหาวิทยาลัย
ขอบใจมากนะษา ถ้าไม่ได้ษาเราก็ไม่รู้จะอยู่คนเดียวได้มั้ย เสียงทักสดใสจากพิณทิรา
เราเป็นเพื่อนรักกันนะ
นั่นแหละ เราก็ต้องขอบใจษาอยู่ดี เราคนเดียวคงผ่านมาไม่ได้ แม้เสียงพูดจะฟังดูสดใส แต่แววตานั้นยังคงหม่นหมออยู่ดี
แล้วนี่ตัวตื่นนานแล้วหรือ คนพึ่งตื่นถามขึ้น
จ๊ะ เห็นษาหลับสบายอยู่เลยไม่กล้าปลุก เมื่อคืนษาก็อยู่เป็นเพื่อนเราตี 2 ตี3
แล้วนี่แต่งตัวจะไปไหนล่ะนี่ อุษาถามเมื่อเห็นเพื่อนแต่งชุดสวย
ไปเดินเที่ยวเล่นให้สบายใจ คนทุกข์ใจเรื่องรักตอบ ไม่อยากอยู่แต่ในห้องมันหดหู่นะ ษาก็รีบไปอาบน้ำแต่งตัวเถอะ เราโทรไปชวนเพื่อนคนอื่นๆ แล้ว พิณทิราบอกเพื่อน เท่านั้นเองอุษาก็รีบลุกจากที่นอนทันที ดูจากอาการแล้วเพื่อนของเธอคงพอทำใจได้บ้างแล้ว แม้จะเพียงเล็กน้อย แต่ก็ยังดี เธอรู้ว่าเรื่องแบบนี้ไม่ใช่จะลืมกันได้ง่ายๆ ยิ่งเป็นรักแรกของผู้หญิง ด้วยแล้วมันจะตราตรึงอยู่ในใจไม่รู้เลือนทีเดียว แต่เวลาจะช่วยรักษาแผลใจนั้นเอง เช่นเดียวกับที่เปลี่ยนใจของผู้ชายคนหนึ่งให้แปรเปลี่ยนไปเช่นกัน
5 ปีผ่านไป วันเวลามักผ่านไปรวดเร็วเสมอ ทั้งยามสุขและทุกข์
วันนี้เป็นวันแต่งงานของเพื่อนรักและเธอเป็นเพื่อนเจ้าสาว งานแต่งงานของ อุษา กับ วุฒ เพื่อนรักทั้ง 2 ของเธอ
พิณพิรา มองเพื่อนทั้ง 2 มีความสุขในชีวิตครอบครัวที่กำลังจะเริ่มต้น อุษา กับ วุฒ รักกันมา 3 ปี หลังจากที่ วุฒ พยายามเข้ามาแทนที่ผู้ชายคนนั้นโดยมีอุษาเป็นแม่สื่อให้อีกครั้ง แต่กลายเป็นว่าสุดท้ายอุษากับวุฒ กลับรักกันแทน ในขณะที่เธอได้เพื่อนรักเพิ่มมาอีกคน ตลอดเวลาที่เรียนมหาวิทยาลัย ทั้ง 3 มักไปไหนมาไหนด้วยกันเสมอ บางครั้งพิณพิรา ก็รู้สึกเหงาเมื่อเห็นเพื่อรักทั้ง 2 หยอกเย้ากันอย่างมีความสุข อดคิดถึงเวลาของตัวเองบ้างไม่ได้ แม้เวลาจะผ่านไปนานแล้ว แม้ภาพเก่าๆ จะถูกลางเลือนไปบ้างแล้วด้วยกาลเวลา แต่เธอรู้ดีว่ามันไม่ได้หายไปไหน หากยังคงแอบซ่อนอยู่ในส่วนลึกของหัวใจ ดังนั้นในบ้างครั้งเวลาเหงาๆ มันก็จะหวนกลับมาให้นึกถึงตลอด
ทุกวันนี้พิณทิรา ยังไม่ได้คบกับใคร หรือมีใครใหม่ในหัวใจ แม้จะมีใครหลายคนผ่านเข้ามาให้เธอเลือกคบบ้าง แต่สุดท้ายก็ไม่มีใครที่จะยึดครองหัวใจเธอได้เลยสักคน หญิงสาวเพียรบอกตัวเองว่า สักวันคงจะพบใครสักคนที่จะทำให้เธอลืมรักแรกนั้นได้อย่างหมดใจ รักแรกที่ปวดร้าว หากก็เป็นรักแรกที่ยากจะลืมเลือนเช่นกัน
รักแรกของผู้หญิงยากจะลืมเลือนเสมอ ในขณะที่รักแรกของผู้ชายมักเกิดขึ้นใหม่ได้เสมอเช่นกัน ผู้หญิงจะยึดมั่นกับรักแรกของเธอ แต่ผู้ชายจะพยายามค้นหารัก ตลอดเวลา และบอกว่านั่นคือรักแรกของเขา กับผู้หญิงคนใหม่คนนั้นตลอด
เวลาอาจจะเปลี่ยนคนบางคน แต่กับคนบางคนเวลาไม่ว่าจะนานเพียงใด ก็ไม่สามารถเปลี่ยนใจเขาหรือเธอได้ ไม่ว่าวันนี้ พรุ่งนี้ หรืออีกนับ สิบๆ ปีก็จะไม่เปลี่ยนแปลง
นับจากวันที่เขาขอเลิก พิณทิรา ยังไม่เคยได้รู้ถึงเหตุผลของเขา แต่มันจะมีประโยชน์อะไร เมื่อเวลามันผ่านมานานถึง 5 ปีแล้ว ไม่ว่าจะมีเหตุผลอะไร แต่ที่เขาขอเลิกกับเธอมันก็เป็นความจริง เขาเองที่ทอดทิ้งสัญญา
พิณทิรา สัญญากับตัวเองที่จะลืมเขาให้หมดใจในสักวัน และวันนั้นเธอคงสามารถเปิดใจรับใครคนอื่นเข้ามาได้อย่างเต็มใจอีกครั้ง แม้เธอจะไม่รู้ว่าวันนั้นจะมาถึงเมื่อใดก็ตาม
หญิงสาวเดินเข้าไปหากลุ่มเพื่อนที่กำลังคุยเล่นกันอย่างสนุกสนานอีกไม่นานเธอคงจะลืมเขา ...
6 มกราคม 2550 07:07 น.
มีน[า]
ปีใหม่ปีนี้หนาวกว่าหลายปีที่ผ่านมา สภาพอากาศเริ่มกลับเข้าสู่รูปแบบที่มันควรจะเป็น ลมหนาวเริ่มพัดเข้ามาหอบพาความหนาวเหน็บและแห้งแล้งเข้ามาด้วย หลายปีมาแล้วที่ช่วงเดือนมกราคม ไม่ได้หนาวเช่นปีนี้ บางปีฝนตกหนัก บางปีน้ำท่วม หากปีนี้มันกลับหนาว หนาวจนบาดใจ ความหนาวมักมาพร้อมกับความเงียบเหงา และอารมณ์ที่อ่อนไหว
วศิน เหม่อมองไปสุดสายตาคิดอะไรไปเรื่อยๆ ทุกครั้งที่กลับมาเยี่ยมบ้านเขามักจะแวะมาที่นี่เสมอ นั่งคิดถึงคืนวันที่เคยมีความสุข วันคืนที่เคยเป็นเด็กที่ไม่ต้องคิดอะไรมาก มีเพียงเรียน กับเล่น สนุกสนานไปตามเรื่อง ไม่ต้องทุกข์ร้อนถึงวันข้างหน้า
หลายครั้งที่หวนนึกถึงเรื่องราวเก่าๆ ภาพต่างๆผุดขึ้นในความทรงจำแจ่มจัด เหมือนเหตุการณ์เหล่านั้นเพิ่งผ่านไปเมื่อวานเท่านั้น
6 ปีกว่าที่จากบ้านไปศึกษาต่อระดับมหาวิทยาลัย 4 ปีที่ตั้งใจศึกษาจนจบมาด้วยเกียรตินิยม กับอีก 2 ปีกว่าที่เข้าไปหางานทำที่กรุงเทพมหานคร เมืองหลวงของประเทศ ที่เต็มไปด้วยความเหลื่อมล้ำของชนชั้น ความแออัด สับสนวุ่นวาย หลายครั้งที่รู้สึกเบื่อหน่าย แต่หลายๆเหตุผลที่ยังต้องจำสู้ทนกับชีวิตที่แสนวุ่นวายนี้ต่อไป
ชายหนุ่มเหม่อมองไปเรื่อยๆ ไม่มีจุดหมาย ไม่ได้สนใจต่อคนรอบข้าง ปล่อยให้ความคิดจมลงสู่ภวังค์แห่งอดีต ช่วงเวลาที่มีความสุขที่สุดกับเธอผู้หญิงที่เคยรักจนหมดหัวใจ ช่วงเวลาของความรักที่ยังตรึงตราแน่นอยู่ในความทรงจำ รักที่เขาเองเหยียบย่ำทำลายมันกับมือเมื่อ 4 ปีก่อน รักแรกของเขากับเธอ
.......
เธอ เป็นคนน่ารัก สดใส อาจจะมีแง่งอนบ้างเล็กน้อย ตามนิสัยทั่วไปของเด็กสาว ที่อยากให้คนรัก ดูแล เอาอกเอาใจ
เธอ ผู้เข้ามาเติมเต็มหัวใจที่ไร้รักของเขาให้เต็มเปี่ยมไปด้วยความสดใสชื่นบาน เต็มเปี่ยมไปด้วยความห่วงหา อาวรณ์ คิดถึง อยากพบอยากเจอทุกคืนวัน
เธอ นักเรียนรุ่นน้องหนึ่งปี ผู้ทำให้เขายอมสละเวลาพักเที่ยง ไปนั่งคุยด้วยทุกวัน และเอาตัวเองไปอยู่ใกล้ๆ ทุกครั้งที่เวลาและโอกาสจะอำนวย
เธอ ผู้หญิงที่เป็นรักครั้งแรกของเขา ผู้ซึ่งถูกเขาทอดทิ้ง ทำลายหัวใจ ด้วยการบอกเลิก สั้นๆง่ายๆ อย่างหมดเยื่อใย ความรักที่ถูกเขาเหยียบย่ำทำลาย แต่สุดท้ายเขากลับมานั่งนึกถึงมัน นึกถึงคำมั่นสัญญาที่เคยพูด เคยบอกแก่กัน นึกถึงเหตุการณ์ต่างๆ ที่ผ่านมา มันช่างกระจ่างชัดในความทรงจำของเขาเหลือเกิน ดังจะย้ำเตือนให้เขารู้สึกผิดกับมัน ตอกย้ำ และหัวเราะเยาะเย้ยความงี่เง่าที่เขาก่อมันขึ้นมา นึกถึงตอนนี้เขากลับรู้สึกเจ็บปวดปลาบที่หัวใจ นึกอยากกลับไปแก้ไขอดีต ที่เคยผิดพลาด แต่ในเมื่อมันไม่สามารถทำได้ มันจึงเป็นเพียงความรู้สึกผิดที่เขาจะเก็บไว้ในใจไปอีกนาน
.......
ลมหนาวยิ่งทวีความรุนแรงของมันขึ้น เมื่ออาทิตย์คล้อยต่ำลง ภาพเด็กนักเรียนเริ่มทยอยกันกลับบ้าน บ้างก็มีรถจักรยายยนต์ สำหรับคนที่บ้านอยู่ไม่ไกลจากโรงเรียนนักก็ใช้วิธีเดินเอา แต่ส่วนใหญ่จะใช้บริการรถสองแถว หรือรถรับส่งประจำ รวมไปถึงรถประจำทาง มันดูไม่ต่างไปจากเมื่อตอนที่เขายังเรียนอยู่เท่าใดนัก เขาเหลือบมองนาฬิกา ยังอีกหลายชั่วโมงกว่าจะค่ำ
ตอนเรียนหนังสือเขาเองเป็นคนหนึ่งที่ ใช้บริการรถรับส่งประจำ มันเป็นรถ 2 แถวที่ดัดแปลงมาเป็นรถรับส่งอีกทีหนึ่ง ด้วยเหตุผลที่มันสะดวกกว่าวิธีอื่นๆ เพราะรถจะมารับส่งให้ถึงหน้าบ้าน ความที่บ้านของเขาไม่ได้อยู่ติดถนนหลวงเรื่องจะขึ้นรถประจำทางเป็นเรื่องที่ไม่ต้องพูดถึง เพราะแค่เดินธรรมดาก็ใช้เวลากว่าครึ่งชั่วโมงเข้าไปแล้ว ครอบครัวของเขาในตอนนั้นไม่มี รถจักรยานยนต์ และไม่ได้มีฐานะดีอะไรนัก เขาจึงตั้งใจเรียนเพื่อที่จะยกระดับฐานะของตัวเองให้ดีกว่าที่เป็นอยู่
เขารู้จักกับเธอครั้งแรก ตอนเรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ตอนเทอม 2 เขาพัฒนาความสัมพันธ์จากรุ่นพี่รุ่นน้อง เป็นคนรักในเวลาไม่นานนัก และจริงจังกับรักครั้งนี้มาก มากพอที่จะวาดฝันถึงอนาคตไว้มากมาย และพร่ำบอกกับเธอเสมอ
หลายคนเคยพูดกับเขาว่ารักครั้งแรกมันไม่ยั่งยืน หลายคนเคยเตือนและบอกว่าความรักในวัยนี้แปรเปลี่ยนง่าย ยิ่งเมื่อเขาไปเรียนต่อในระดับที่สูงขึ้น ยิ่งเมื่อห่างไกลกัน ไม่เขาหรือเธอก็จะเปลี่ยนไป เมื่อได้รู้จักผู้คนมากขึ้น เมื่อโลกของเรากว้างขึ้น ความคิดของคนเราก็จะเปลี่ยนแปลง
เขารับฟังความคิดเห็นเหล่านั้น แต่แย้งในใจว่ามันจะไม่เกิดขึ้นกับเขาและเธอ รักของเขาและเธอจะไม่เปลี่ยนแปลง ไม่ว่าจะห่างกันเพียงใด ไม่ว่าเวลาจะนานเท่าใด เขาเฝ้าบอกเธอ และให้คำสัญญาต่างๆนานา เธอยิ้ม เธอบอกว่าจะรอวันนั้นที่เขาและเธอจะได้อยู่ด้วยกัน
หลังจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 เขาเลือกที่จะเรียนต่อในมหาวิทยาลัยเล็กๆแห่งหนึ่งในภาคใต้ จังหวัดที่ได้ชื่อว่าเป็นเมือง 2 ทะเล เขาเลือกมันด้วยเหตุผลหลักคือค่าเรียนถูกกว่าที่อื่นมาก ในขณะที่ด้านการเรียนการสอน และอุปกรณ์การเรียนการสอนไม่ได้ด้อยกว่าที่อื่นเลย อีกเหตุผลสำคัญคือ เขาคิดว่ามันสะดวกกว่าในการเดินทางกลับบ้าน เพื่อไปพบเธอ เธอผู้เป็นดวงใจของเขา นี่นับเป็นการตัดสินใจครั้งสำคัญครั้งหนึ่งในชีวิตของเขา เขารู้ว่าการตัดสินใจเลือกเรียนที่นี่นั้นไม่ผิดเลยในด้านการเรียนการสอนที่เปิดโอกาศให้เขาศึกษาหาความรู้ได้อย่างเต็มที่ แต่ด้านที่ว่ามันจะทำให้เขาได้กลับไปพบเธอง่ายๆนั้นมันผิดถนัด เขารู้ความจริงข้อนี้เมื่อตัดสินใจไปหางานทำในกรุงเทพ เมื่อครั้งเรียนจบ และรู้ว่าแท้จริงแล้วการเดินทางจากกรุงเทพกับบ้านของเขาสะดวกกว่า และระยะทางใกล้กว่า อย่างไรก็ตามในช่วงเรียนปีแรกในมหาวิยาลัย เขาก็เดินทางกลับบ้านเสมอทุกครั้งที่มีโอกาส เพื่อกลับไปหาเธอ ทุกครั้งเขาจะหาของฝากไปให้เธอเสมอ เพื่อแสดงให้รู้ว่าเขาเองยังรักเธอไม่จาง แม้เธอจะบอกว่าแค่พบเขาเธอก็ดีใจมากแล้ว จดหมายหลายต่อหลายฉบับที่ส่งถึงกัน ในขณะที่เธอเองโทรศัพท์มาหาเขาบ้างบางครั้ง
ความรักที่เคยมีให้กันยังไม่เปลี่ยนแปลง และเขาคิดว่ามันจะไม่มีทางเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าวันเวลาจะผ่านไปนานเท่าใดก็ตาม เขาเคยวาดฝันว่าหลังจากเธอเรียนจบมัธยมศึกษาแล้วเธอจะมาเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยเดียวกับเขา เขาและเธอจะช่วยกันเรียน หลังจากเรียนจบแล้วเขาจะขอเธอแต่งงาน อนาคตถูกวาดฝันไว้อย่างสวยงาม แต่ชีวิตคนเราจะมีใครบ้างที่สมหวังในทุกเรื่อง ได้อย่างย่อมต้องเสียอย่าง เวลาและระยะทางที่ห่างไกลเริ่มทำให้หัวใจเขาเปลี่ยนแปลงไปทีละน้อยอย่างไม่รู้ตัว
......
เข้าสู่เทอม 2 ของการศึกษาในปีแรกในระดับมหาวิทยาลัย หัวใจเขาเริ่มหวั่นไหวเมื่อมีผู้หญิงหลายๆคนผ่านเข้ามาในสายตา ทุกอย่างเริ่มเป็นไปตามคำพูดที่หลายๆคนเคยพูดไว้ เวลาเปลี่ยนใจคนเสมอ ช่วงนี้การติดต่อระหว่างเขาถึงเธอเริ่มน้อยลง ในขณะที่เธอเองตั้งใจเรียนมากขึ้นเพื่อเตรียวตัวสอบเข้ามหาวิทยาลัย เขาเองเริ่มให้ความสนใจกับผู้หญิงคนอื่น ความรักครั้งใหม่เริ่มก่อตัวขึ้น พร้อมกับความขัดแย้งในใจตัวเองเมื่อเขารู้ดีว่าเขาเองมีเธออยู่เต็มหัวใจ
เขายังกลับไปหาเธอทุกครั้งที่มีโอกาส ทุกครั้งก็ชวนเธอให้มาเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยที่เขาเรียนอยู่ อนาคตที่ฝันไว้ยังคงเหมือนเดิม เขาพร้อมจะเลิกกับทุกคนทันทีหากเธอไปเรียนด้วยที่เดียวกับเขา ทุกคนที่คบด้วยเพียงเพื่อนคนพิเศษเท่านั้น เพื่อนที่มีความหมายกว่าเพื่อนธรรมดาทั่วไป ดังนั้นวันที่เธอมาเรียนด้วยกัน เขาก็พร้อมจะมีเพียงเธอเพียงคนเดียวดังที่เคยเป็น
ทว่าความฝันนั้นไม่ได้เป็นจริงแม้แต่น้อย เธอไม่ได้ไปเรียนที่เดียวกับเขา ภาพอนาคตแสนสวยที่เคยวาดฝันเริ่มเลือนราง เมื่อเธอเลือกจะเรียนต่อที่กรุงเทพมหานคร เมืองฟ้าที่แสนวุ่นวาย เขารู้หลังจากการติดต่อที่ขาดหายไปหลายเดือน
พี่คงไปหาบ่อยๆไม่ได้เพราะมันไกลกันมาก เขาเคยบอกเธอไปในจดหมายหลังจากได้รับจดหมายฉบับล่าสุดของเธอ เธอบอกว่าเธอเข้าใจ เธอเสียใจที่ไม่ได้ไปเรียนที่เดียวกัน เขาเองก็เสียใจไม่น้อยไปกว่ากัน และเริ่มผิดพลาดมากขึ้น เมื่อฝันที่วาดไว้ไม่เป็นไปดังที่ต้องการ เขาเริ่มจริงจังกับรักใหม่ที่เกิดขึ้นในขณะที่ความรักที่มีให้เธอเริ่มจางลง ตามเวลาและระยะทาง
มีคนมาจีบหนูด้วย ตลกมากเลย หนูบอกว่ามีแฟนแล้วแต่เขาก็ยังตื้ออยู่ได้ เธอเคยโทรศัพท์บอกเขา เกี่ยวกับผู้ชายที่มาจีบเธอ และบอกเขาว่าเธอไม่เคยสนใจ เธอยังมีแต่เขาคนเดียวในหัวใจ เขาเงียบเขารู้ว่าเธอยังไม่เปลี่ยนแปลง ในขณะที่เขาเองเริ่มเปลี่ยนไป เขาละอายเกินกว่าจะพูดอะไรออกไป
ความขัดแย้งรุนแรงเกิดมากขึ้นเมื่อความสัมพันธ์กับผู้หญิงคนใหม่เริ่มเกินเลยกว่าคนรักธรรมดา ความสัมพันธ์ที่เกินเลยขอบเขต ที่ยากจะหักห้ามใจ ความรู้สึกรัญจวนใจที่ไม่เคยได้รับมาก่อนชักนำเขาเตลิดไปไกลเกินกว่าจะเรียกกลับ เขาตัดสินใจที่จะเลือกระหว่างรักแรกที่แสนหวาน กับ รักใหม่ที่เร่าร้อน และเขาก็เลือก เลือกที่จะทำลายรักแรกที่แสนหวานนั้น
เราเลิกกันเถอะ คำพูดง่ายๆ ที่แสนจะโหดร้ายกับผู้ที่ได้ฟังมัน เขาตัดสินใจบอกเธอในวันหนึ่งที่เธอโทรศัพท์มาหาเขา อีกฝ่ายเงียบงันไป เหมือนไม่เข้าใจ เหมือนไม่เชื่อกับสิ่งที่เกิดขึ้น เขารู้เธอคงเสียใจมาก แต่เขาไม่อยากหลอกเธออีกต่อไป ในขณะที่เขาเองไม่กล้าพอจะเอ่ยเล่าความจริงทั้งหมด ถึงความเห็นแก่ตัวของเขา
เราจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ไหม เธอถามมาเสียงเครือ
ขอให้เราเป็นพี่ชายน้องสาวที่ดีต่อกันดีกว่า เขาตอบไป เธอเงียบ
แล้วทุกอย่างที่ผ่านมา เธอทวงสัญญา เขาเงียบด้วยไม่สามารถจะพูดอะไรได้อีก
ที่ผ่านมาพี่เคยรักหนูบ้างมั้ย เธอถามเสียงสะอื้น เขายังคงเงียบรู้สึกเสียใจกับสิ่งที่ทำลงไป เขาทำลายทุกสิ่งจนพินาศในช่วงเวลาเพียงไม่กี่นาที ความฝัน และทุกสิ่งที่เคยสร้างมันมา เนินนาน ก็พังทลายลงในพริบตา ได้แต่บอกตัวเองว่าสักวันเธอคงลืมเขาได้ อย่างน้อยเธอยังมีเพื่อนรัก ที่จะคอยปลอบใจกันได้
โทรศัพท์อีกฝ่ายถูกตัดสายไปแล้ว เขาวางโทรศัพท์ลงช้าๆ ไม่รู้ว่าที่ทำแบบนี้มันเป็นการตัดสินใจที่ถูกหรือผิด และมันคือการตัดสินใจอีกครั้งที่สำคัญในชีวิตของเขา เขาเองพร้อมรับผลการตัดสินใจครั้งนี้ ไม่ว่าจะผิดหรือถูก ไม่ว่าผลของมันจะเป็นอย่างไรก็ตาม
อย่าเสียใจกับผลของสิ่งที่เราตัดสินใจทำลงไปแล้ว เพื่อนคนหนึ่งเคยบอกกับเขาไว้เช่นนี้
ต้น บอกเลิกกับเขาแล้วหรือ เสียงทักขึ้น เสียงของผู้หญิงที่เป็นรักใหม่ของเขา
ผมบอกไปแล้ว เขาตอบ
ต้นไม่น่าทำอย่างนี้ มันเร็วไป เธอต่อว่าเขา
ผมไม่อยากหลอกเขา ผมมีฟ้าอยู่แล้ว เขาบอกเธอ ในขณะที่อีกฝ่ายไม่ได้พูดอะไรอีก เขาเองก็ไม่ได้พูดอะไรอีกเช่นกัน เขาเหนื่อยเกินกว่าจะพูดอะไรออกไป
.......
อากาศยิ่งหนาวเย็นขึ้นเรื่อยๆ ดวงอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้า แสงอาทิตย์ยามเย็นแผดแสงแดงจ้าในฟากฟ้าด้านทิศตะวันตก ความมืดเริ่มคลืบคลานเข้ามา คงได้เวลากลับบ้านเสียที วศิน ทอดถอนหายใจ จากวันนั้นที่เขาบอกเลิกกับเธอ จนวันนี้ เขายังไม่เคยลืมเธอเลย ทั้งที่คิดว่าสักวันคงจะลืมเธอได้ แต่ยิ่งนานวันเขายิ่งรู้สึกคิดถึงเธอมากยิ่งขึ้น แต่ก็ไม่มีหน้าพอจะไปพบเธอ ในเมื่อเขาเองเป็นฝ่ายทำลายมันลงกับมือ เขาจะมีหน้าไปพบเธออีกได้อย่างไร มีเพียงเขาท่านั้นที่รู้ว่าในใจลึกๆ ยังห่วงหาอาวรณ์เธอมากเพียงใด มีเพียงเขาเท่านั้นที่รู้ว่าเหตุผลลึกๆที่เลือกไปทำงานที่กรุงเทพ เมื่อเรียนจบแล้วนอกจากหางานง่ายแล้ว จริงๆคืออะไร มีแต่เขาเท่านั้นที่รู้ว่าเขาเจ็บปวดเสียใจเพียงไร เพียงแต่ก็ไม่เคยพูดออกมาให้ใครได้ยิน
หลายปีที่ไม่เคยได้ข่าวของเธอเลย ยิ่งทำให้ความคิดถึงทวีคูณมากขึ้น ทุกครั้งที่กลับบ้าน เขายังคาดหวังว่าจะได้พบเธอบ้างแม้เพียงได้เห็นหน้าก็ยังดี แต่ไม่เคยเลยซักครั้งที่เขาจะพบเธอ ไม่เคยเลยซักครั้งที่ข่าวคราวเกี่ยวกับเธอจะแว่วเข้ามาให้ได้ยิน ดังว่าฟ้าจะแกล้งยิ้มเยอะหยันเขา
เธอคงมีคนรักใหม่ที่ดีพร้อมกับเธอแล้ว และคงลืมเรื่องราวความรักที่เกิดขึ้นกับเขาไปแล้ว สำหรับเขา เมื่อเรียนจบก็เลิกกับ รุ่งฟ้า คนที่เป็นรักใหม่นั้น แล้วต่างคนต่างไปตามทางและฝันของตนไม่มีอะไรติดค้างให้อาลัยอาวรณ์ รักที่เร่าร้อน กลับจบลงอย่างรวดเร็ว แต่ รักแรกที่หวานซึ้งกลับตรึงตราอยู่ในใจเขาไม่อาจลืมเลือน แต่จะทำอย่างไรได้เมื่อทุกอย่างเขาเองที่เป็นคนทำลายมัน เขาเองที่ทอดทิ้งฝันนั้นจากมา และก็ไม่รู้ว่าหากพบเธออีกครั้งจะทำอย่างไร จะพูดอะไร คงได้แต่เก็บเธอไว้ในใจตลอดไป บางทีเรื่องนี้คนที่ทุกข์ใจที่สุดคงเป็นเขาเอง
ชายหนุ่ม ถอนหายใจอีกครั้งก่อนจะเดินไปที่รถและขับมันกลับบ้าน
ดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้าไปนานแล้ว ความมืดปกคลุมไปทั่วบริเวณ อากาศยิ่งหนาวเย็นมากขึ้น หนาวยิ่งกว่าหลายปีที่ผ่านมา ลมหนาวมักพัดพาความเงียบเหงา และอารมณ์ที่อ่อนไหวของผู้คนมาด้วยเสมอ ...