15 พฤษภาคม 2555 14:59 น.
มาลีรัตนา
ฉันอยู่ในเกลียวเมฆที่เสกแพร
ท่ามดวงแดล้อห่มของลมทุ่ง
มาจะร้างแรมไพรหมายผดุง
ให้มาลีหอมฟุ้งสุดคุ้งธาร
อีกดอกปีปบุษบงแทนมงกุฏ
แด่วีรบุตรแกร่งกร้าวผู้ห้าวหาญ
อีกดอกพุดพิชญยา ฟ้าประทาน
มาสวมร้อยเป็นสังวาลใต้ลานโพธิ์
อีกช่อดวงบุษบันกระสันสร้อย
ก็จะคล้อยธารเคลื่อนให้เลื่อนโล้
สู่สวนขวัญแดนศิลป์ ถิ่นชงโค
จันทร์กะพ้ออักโขโยทะกา
มะลิวัลย์แต่งแต้มมาแซมถ้อย
ก็จะร้อยด้วยใจหาญปานบุหงา
ระบัดใบรังสิมันตุ์ทั้งนาคา
บรรโลมหล้าระบายเมืองให้เรืองราย
ซากุระร่วงโรยจะโชยชื่น
ดุจใจชื้นชื่นฉ่ำระส่ำสาย
ประหนึ่งเพียงเวียงแววแก้วกำจาย
ให้อวลอายบาทรถปรากฎมี
โอแก้วขวัญพราวสายจะพรายแสง
โดยฤทธิ์แรงแห่งรักในศักดิ์ศรี
ณ จันทร จรกระจ่าง พร่างไมตรี
ดั่งมาลีห้อยละหวนนวลน้องนาง
ในคืนค่ำดาวรุ้งของทุ่งหญ้า
จะเริงแสงแจรงหล้าจวบฟ้าสาง
แพรพิรุณผ่องแพรวแก้วรางชาง
ระบายบางย่างเหยียบอย่างเยียบเย็น
บนดวงจันทร์ดวงโตอันโอฬาร
ก็จะผ่านฝันหลอนซ่อนทุกข์เข็ญ
อันล่อลวงหน่วงซ้ำความลำเค็ญ
เพื่อวิญญูรู้เห็นสิ่งเป็นมา
ฉันมาเพื่อขอมอบคำขอบคุณ
ที่โลกหมุนวันเลื่อนให้เคลื่อนหา
ให้ผ่านพัดทุ่งหวังศรีลังกา
ในบ้านไม้ หันตรา นิทรารมณ์
(ในบาทรส สกุณา นิทรารมณ์)