13 ตุลาคม 2548 09:19 น.
มารแมงมุม
คิดถึงเธอ
เหมือนละเมอ หม่นตรม ในลมฝน
ที่เดียวดายเจ่าจุกทุกข์ก็ทน
ยังหมองหม่นในนิยามความไม่มี
รักที่เคยหมายปองต้องพลัดพราก
จำใจจากทรมานนานจากนี่
ที่เคยหอมเหมือนจะสิ้นกลิ่นมาลี
นับจากนี้...จะจรไม่ย้อนคืน
ใจที่เจียมเกรียมไหม้กลางไฟฝน
ซุกตัวตนแรมรอนอ้อนสะอื้น
ชีพหนึ่งน้อยรู้แก่ใจไม่ยั่งยืน
หลับเพื่อตื่นด้วยฝันร้ายทำลายตัว
เถอะ...จะรอวันดีดีที่ปลายฝน
ยามนี้หม่นบางใจใช่จะชั่ว
การพลัดพรากแค่ชั่วคราว..เจ้าอย่ากลัว
ฝนโปรยทั่วเมื่อไรฟ้าใสพลัน
5 ตุลาคม 2548 21:28 น.
มารแมงมุม
ก่อน ๑๔ ตุลา ๒๕๑๖
ข้ามธารเจ้าพระยาขึ้นท่าน้ำ
แล้วเดินจ้ำสู่ธรรมศาสตร์ด้วยมาดมั่น
เพียงสิบหกวันเยาว์เพียงเท่านั้น
แต่มีฝันมีไฟในดวงตา
ไปร่วมแรงแข็งขันมุ่งมั่นสู้
จะกอบกู้ประกาศชัยไฟแสงกล้า
มีมากความเข้มแข็งแรงศรัทธา
เราจะฝ่าจะฟันเพื่อบรรลุชัย
จำรสชาติแกงเนื้อผัดถั่วงอก
น้ำกระบอกหนึ่งเติมเพิ่มแรงให้
ได้ร่วมแรงเร่งรุดจุดกองไฟ
จะก้าวไปให้ถึงซึ่งดวงดาว
ร่วมรับฟังมากมายในครานี้
บนเวทีผู้นำย้ำคำกร้าว
ประชาชนทนไม่ไหวจะยอมร้าว
เราจะก้าวต่อไปไม่ถอยแล้ว
วันที่ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๑๖
แม่ห้ามลูกเดินออกไปนอกบ้าน..
จะคัดค้านอย่างไรไม่เป็นผล
ออกพรรษาไปทำบุญเกื้อกูลตน
แม่ทำข้าวต้มลูกโยนปรนเปรอกัน
พอสายสายเสียงแรกแหวกอากาศ
หวิวและหวาดหัวใจให้ไหวหวั่น
ประกาศข่าววิทยุระอุพลัน
เริ่มเสียขวัญไหวสะทกอกเจ็บร้าว
ไม่อยากเชื่อจะมีวันที่เห็น
ช่างลำเค็ญสูญเสียเพลียและหนาว
ทั้งสับสนงุนงงตรงเรื่องราว
กะข่าวคราวหลายหลากยากจะฟัง
แต่รู้อย่างหนึ่งนั้นที่มันแน่
คนไทยแย่เข่นฆ่าน้ำตาหลั่ง
ทรราชกำแหงสุดมิหยุดยั้ง
ก่อนจะพังย่อยยับดับดิ้นแล้ง
จากวันนั้นถึงวันนี้นานปีมาก
แต่ว่ากากทรราชยังแอบแฝง
ยังแอบเร้นสร้างเวรกรรมมารจำแลง
การฆ่าแกงเปลี่ยนรูปแบบที่แยบยล
ช่วงชิงขั้วแห่งอำนาจสัตว์มนุษย์
ไม่สิ้นสุดคนไทยล้าฟ้าหมองหม่น
เรียกหาฟ้าสีทองผ่องกมล
เรียกหาจนตัวตายกี่รายแล้ว
---------------------------------------------
จากวันนั้นมาถึงวันนี้ก็เข้าไป32 ปีแล้วมันผ่านมานานมาก.
ผู้สูญเสียก็จากไป.
ผู้ได้รับชัยก็เริงร่า.
ไม่มีใครได้รับชัยชนะอย่างแท้จริง
มันเป็นการผลัดเปลี่ยนขั้วแห่งอำนาจ
ทรราชยังมีอยู่เสมอพียงแต่เปลี่ยนรูปแบบไปเท่านั้น
และฉันได้เห็นอีกอย่างหนึ่งว่าเวลาที่แปรเปลี่ยนไปได้เปลี่ยนแปลงผู้คนไปมาก.ทัศนคติ อุดมคติ และเจตคติของคนหลายคนได้เปลี่ยนไป
และมันก็เป็นอีกหน้าหนึ่งของประวัติศาสตร์ของชาติ.ในมุมมองของแต่ละฝ่าย.
ขอคารวะดวงวิญญาณท่านผู้กล้า
ผู้ทายท้าอำนาจรัฐอันป่าเถื่อน
ยังจดจารจำไว้ไม่ลืมเลือน
ยังย้ำเตือนท่านไว้ที่ในทรวง
ผู้กล้าใหม่ในวันนี้ยังมีมาก
พร้อมจะฝากชีพไว้ไม่แหนหวง
แสวงหาเสรีที่ไม่ลวง
จะตามทวงความเป็นธรรมคืนกลับมา
พิราบขาวยังโผผินบินได้สูง
ที่หมายมุ่งประกาศตนคือคนกล้า
ประชาชนรอเป็นใหญ่ในพสุธา
จะทายท้าอำนาจรัฐขจัดภัย
ณ ที่นี่อำนาจใดจะใหญ่เท่า
จะเพียรเฝ้าหาอิสระเสรีภาพอันยิ่งใหญ่
มีคำกล่าวผู้ปกครองผ่านมาแล้วก็ผ่านไป..
ประชาชนเท่านั้นจะกำชัย..ในบั้นปลายมือ
ขอนำมาลงที่นี่อีกหน ให้คนรุ่นหลังได้อ่านกันค่ะ
1 ตุลาคม 2548 22:54 น.
มารแมงมุม
ฝันว่าฉันได้กอดเธอ
เพียงแค่เพ้อว่าชื่นในคืนเหงา
กอดและกอดออดอ้อน...พร้อมโลมเล้า
ชื้นชุ่มเช้า...กอด...แนบแอบอกไว้
ฉันกอดเธอเธอกอดฉัน..พากันกอด
ทางยาวทอดเป็นของเรา.เล่าเรื่องใหม่
หัวใจเพ้อบรรเลงเพลงหัวใจ
ก่อกองไฟให้ไออุ่น..อย่างคุ้นเคย
มีสองแขนกอดเธอไว้ในสองแขน
ที่หนักแน่นในดวงตาพาเฉลย
ที่ยิ่งใหญ่วันคืนจะชื่นเชย
คือรักเอยรักของเรามิเก่าไป
แต่ความจริงกอดเธอได้แค่ในฝัน
พอตื่นพลันฝันสลายกระจายไหม้
ที่นานเนาเนื้อแนบแอบอกใจ
กอดลมไว้หลงละเมอเธอกอดมา
ขอกอดเธอสักหน
เพ้อบ่นกับลมร้อน...อ้อน...ไห้หา
ลมฝนย้ำบรรเลงเพลงอำลา
ถามฝากมาเธอกอดใครในความจริง!
เขียนตอบกลอนใครสักคน...ความจำเริ่มเสื่อม จำชื่อไม่ได้
ขออภัยมาด้วย