30 ตุลาคม 2546 17:13 น.
มารแมงมุม
การเวกแย้มบานที่ลานบ้าน
หอมสะคราญอวลกรุ่นอุ่นอกสาว
น้ำฟ้าใสไหลหลั่งพรั่งพรูพราว
เอื้อมมือน้าวการเวกมาฝากเธอ
อยากบอกว่าคิดถึงคะนึงหา
ทุกเวลาให้หวงห่วงเสมอ
แต่เวลามีน้อยไปไม่เคยเจอ
ลมละเมอโชยสะบัดพัดพาใจ
ฝากหัวใจมาแทนความแหนหวง
ความเป็นห่วงมีมากอยากฝากให้
ฉันยังคงเป็นฉันโปรดมั่นใจ
แม้จะไม่พบกันฉันยังคอย
ยังเก็บรักที่มอบให้ไว้แนบแน่น
ไร้คนแทนที่เจ้าอย่าเศร้าสร้อย
เส้นทางรักอาจจะเหมือนดูเลื่อนลอย
แต่ไม่น้อยในน้ำใจและไมตรี
คิดถึงคิดถึงคะนึงครวญ
ไห้หวนไม่ร้างห่างหนี
การเวกดอกน้อยคอยคนดี
จุ๊บหนึ่งทีฝากมาในคารม
23 ตุลาคม 2546 09:16 น.
มารแมงมุม
เถอะที่รักของใครฉันไม่รู้
ยอมเป็น ชู้ รู้ไหมไม่อาจห้าม
ใจมันร้องเรียกหาพยายาม
มีนิยามความหมายท้าทายตัว
มาพบกันเมื่อสายชายในฝัน
ให้โศกศัลย์ห้ามใจอย่าไปมั่ว
แต่หัวอกหัวใจไหวระรัว
ชั่วก็ชั่ว.จะยอม..พร้อมพลีใจ
แต่เป็นแค่ชู้ทางใจกายไม่มอบ
ฉันก็กรอบบอบช้ำ.น้ำตาใส
มันมืดมนไม่รู้ทางทำอย่างไร
หักไม่ได้..ก็เหมือนสาย..ตายทั้งเป็น
ยังจะรักจะรอ..ไม่ท้อถอย
ยังจะคอยไม่ขอพรากอยากจะเห็น
แม้จะต้องกลืนกล้ำช้ำ..ลำเค็ญ
มีแต่เน้นบอกคำมั่น ฉันรักเธอ
ฉันรักเธอ..บอกซ้ำซ้ำ.ย้ำหลายหน
แต่เตือนตนมาทีหลังแค่พลั้งเผลอ
แม้สับสนก็หักใจ..ไม่ขอเจอ
แค่ละเมอไห้หวนครวญคะนึง
อย่าพบกันเลยคนดีนะที่รัก
ให้เราหักพักไว้แค่ใจถึง
กายจะไกล..แต่ใจใฝ่รำพึง
ความซาบซึ้งอย่างที่รู้. ชู้ แค่ใจ
19 ตุลาคม 2546 11:55 น.
มารแมงมุม
มีชีพอยู่เพื่อวันนี้นะพี่น้อง
จะร่ำร้องหาสวรรค์ถึงชั้นไหน
นรกก็ไคลคลาจำลาไกล
ชีพมีไว้เพียงฝันปั้นภาพงาม
ไร้ประเทศเขตขอบไร้กรอบขวาง
แม้อ้างว้างหวั่นไหวใจเดินข้าม
ไม่มีศาสน์โดดเดี่ยวใจเปลี่ยวตาม
ค้นนิยามสันติสุข..ทุกข์ห่างไกล
ให้ห่างไร้การเข่นฆ่าน่าเหี้ยมโหด
ดับความโฉดด้วยความดีที่ฝันใฝ่
อยากจะเติมความฝันให้ทันใด
เติมหัวใจชนทุกนามด้วยความดี
จะแบ่งโลกเพื่อผองพี่น้องเอ๋ย
มาเถิดเหวย..มาสดับรับสุขศรี
ภราดรแห่งมวลชนล้นทวี
แต้มแสงสีขาวล้วนนวลละออง
หมายเสพสุขพ้นนรกตกสวรรค์
จะด้นดั้นตามโลกหรูอันฟูฟ่อง
จินตนาการชั่วนิรันดร์ฝันสีทอง
มาร่วมร้องเพลงหวานฝันด้วยกัน
13 ตุลาคม 2546 13:22 น.
มารแมงมุม
จากวันโน้นผ่านมาช้านานแล้ว
คราดอกแก้วร่วงกระจายวอดวายเกลื่อน
พสุธาเสียขวัญสั่นสะเทือน
ฟ้าก็เหมือนนองฉ่ำด้วยน้ำตา
เป็นคนจรผ่านไปในครานั้น
ในวัยวันอ่อนเยาว์เขลานักหนา
เกมรุนแรงเสียเลือดเชือดชีวา
ขวัญผวากระเจิงกระเจิดเตลิดไป
หลายชีวิตถึงจุดหยุดหักเลี้ยว
เป็นเพียงเสี้ยวตำนานเล่าขานไข
ริมสายธารเจ้าพระยาจำลาไกล
ชีวิตไม่ได้หวนทวนกลับคืน
ที่ซัดเซเร่ร่อนจำจรจาก
ถึงวันพรากไปไกลให้ขมขื่น
ต่อเมื่อผ่านอีกนานปีที่หวนคืน
มีรอยชื้นของน้ำตามาฝากกัน
มาวันนี้..ระลึก..ร่วมนึกถึง
เพื่อนผู้ซึ่งเคยกล้าท้ามาดมั่น
เพื่อนผู้ซึ่งต่อต้านมารประจานมัน
เพื่อนพวกนั้น..โอ้อาลัย.ไม่เคยลืม
11 ตุลาคม 2546 10:50 น.
มารแมงมุม
แสงตะวันเพลาเช้าปลุกเราตื่น
ให้พลิกฟื้นจากนิทราคราหลับไหล
ยินเสียงสั่งจากในตัวเสียงหัวใจ
ก้าวต่อไปสู้ต่อไปไร้มืดมน
มีคำถามตามติดครุ่นคิดอยู่
การต่อสู้คืออะไรให้ฉงน
สู้ชีวิตสู้งานสู้ทานทน
ในวังวนคลื่นชีวิตติดตามมา
ไร้คนเรียงเคียงข้างช่างว้าเหว่
ลงทะเลมาคนเดียวเปลี่ยวนักหนา
มองหาฝั่งเวิ้งว้างช่างไกลตา
คลื่นลมพาเซซวนป่วนอารมณ์
ตะวันแดงดวงเดิมเริ่มแผดกล้า
เราก็ล้า.เงียบเหงาเศร้าใจข่ม
พอตะวันลาลับดับดวงจม
เราก็ห่มแสงเดือนเป็นเพื่อนดาว
เป็นเช่นนี้ผันผ่านมานานนัก
เกินจะหักหวั่นไหวหัวใจสาว
ในความนิ่งยังเจ็บปวดและรวดร้าว
คืนและวันยืดยาวหนาวใจนัก
แต่ก็ยังต่อสู้..รู้เข้มแข็ง
ยังเปี่ยมแรงนักสู้.รู้ตระหนัก
บอกตัวเองคือชะตามาทายทัก
รู้จะรักรู้จะอยู่รู้เดียวดาย