1 มกราคม 2550 16:44 น.
มารแมงมุม
เป็นอีกปีผ่านไปในปีจอ
กับการรอน้องหมูมาสู่ขวัญ
ปีสองห้าห้าศูนย์พูนสัมพันธ์
หวังความฝันจะพาเราเดินก้าวไกล
บนเส้นทางตัวอักษรป้อนความฝัน
เราผูกพันเป็นมิตรดุจชิดใกล้
แม้ไม่เคยพบหน้าไม่ว่าใคร
ภาษาใจถักสานผ่านงานกลอน
ให้ปีนี้ทุกคนอย่าหม่นหมอง
เป็นปีทองสุโขสโมสร
ให้พบสุขกูลเกื้อเอื้ออาทร
ล้วนคำพรล้ำค่าอย่ารู้คลาย
ตั้งดวงจิตอธิษฐานกราบกรานพระ
ตั้งสัจจะเป็นคนใหม่ยังไม่สาย
ตั้งใจมั่นทำความดีไพรีวาย
ตั้งเรือนกายในกรอบความชอบธรรม
ก็จะเป็นอีกปีมีความสุข
เร่งประยุกต์ชีวิตไว้ไม่ให้ต่ำ
หลีกเลี่ยงจากเส้นทางสร้างรอยกรรม
อบและร่ำบ่มชีวิตจิตวิญญาณ
ฟ้าสีทองผ่องใสไม่มัวหมอง
หวังพี่น้องผองเพื่อนสุขสนุกสนาน
สวัสดีปีใหม่...ไปช้านาน
เริ่มตำนานปีหมูอยู่เพียงพอ
21 กันยายน 2549 13:34 น.
มารแมงมุม
ผ่านมาเพื่อผ่านไป ใบไม้ร่วง
จะยึดหน่วงเหนี่ยวไว้ไม่เห็นผล
อาจจะยากปล่อยวาง...กลางใจชน
การหลุดพ้นยากนักจักต้องทำ
เคยเขียวสดเยาว์วัยเมื่อบ่ายนี้
ค่ำคืนพลีชีพผล็อยลอยถลำ
สูญสิ้นแล้วการุณคุณธรรม
โดนเหยียบย่ำลงดิน...สิ้นแล้วแรง
หากเป็นปุ๋ยยังแผ่นดินถิ่นกำเนิด
รอวันเกิดคืนต้นใหม่ให้แข็งแกร่ง
ได้บทเรียนให้ศึกษาราคาแพง
แจ่มและแจ้ง รู้และเห็น ความเป็นไป
รู้ว่ายังขลาดเขลาเบาปัญญา
อวิชชาบางครั้งยังผลักไส
ผิดพลาดบ้างบางหนเลยจนใจ
เล่นกับไฟของร้อน...เผลออ่อนแอ
ได้รู้ซึ้งทางชีวิตที่ขีดวาด
บางครั้งอาจบิดเบี้ยว...เกี่ยวกระแส
ลมเบื้องสูงพัดไกวไหวปรวนแปร
คำว่าแพ้ตราประทับกับชีวา
เป็นเพียงใบไม้ร่วงที่ล่วงพ้น
กองท่วมท้นตรงลานดินเหมือนสิ้นค่า
ผ่านไปแล้วแก้วเอย...เคยผ่านมา
เพลงอำลา...กึกก้อง...สี่ห้องใจ
อาจจะเป็นบทเรียน...เหมือนเทียนน้อย
ที่ค่อยค่อยหรี่แสง...แท่งดับไหม้
เจ้าเคยเป็นเทียนทองคอยส่องไฟ
ดับลงไป...เผาใบไม้...ในวันลืม
7 สิงหาคม 2549 16:23 น.
มารแมงมุม
ลูกเอย...
แม่เพิ่งเคยตระหนักรักยิ่งใหญ่
ยามแม่เห็นลูกน้อยเจ้ากลอยใจ
เกิดมาในความรักที่ถักทอ
แม่ป้อนนมเลี้ยงเจ้าทุกเช้าค่ำ
ได้ยินคำเรียก แม่ ยิ่งแน่หนอ
นี่คือความจริงแท้ที่แม่รอ
ลูกมาก่อทอสายขวัญอันนิ่มนวล
ยามทอดตามองลูกปลูกความหวัง
แม่ก็นั่งคิดถึงคะนึงหวน
วันที่แม่เป็น ลูก ถูกทบทวน
ยังอบอวลในอกอุ่นของ คุณยาย
ด้วยเส้นทางชีวิตพินิจแล้ว
ลูกคือแก้วมณีงามเปี่ยมความหมาย
โอละเห่...ลูกแม่...เกิดแต่กาย
เป็นสุดสายดวงใจแม่...แท้นิรันดร์
19 มิถุนายน 2549 11:26 น.
มารแมงมุม
กอดก้านแก้ว...แก้วจะกร้านเพราะรานร้าว
คืนขื่นคาวหนาวผสม...อกห่มไห้
เหล้ารสเฝื่อนเลือนระโหย...โรยรสใจ..
ระบำไฟ...ระบำคนทุกข์ทนรอ
ดาวบางดวงช่วงรวีที่ปลายฟ้า
ดาวในตารำไรอยู่ไหนหนอ
ดาวกลางใจสิ้นแสงแรงถักทอ
อยากจะก่อวิมานแก้วรอแววดาว
รักจะหวนทวนคืน...ชื่นอีกหน
ฤๅทุกข์ทนห่วงใยกับไฟหนาว
แก้วเจ้าเอ๋ยเคยกระพริบวิบวับวาว
เคยเจ็บร้าวมาเถิดเจ้า...ยังเฝ้าคอย
อกนี้อาจไม่กว้างอย่างอกอื่น
แต่หลับตื่นห่วงใยไม่เคยถอย
สองแขนโอบกระหวัด...ชัดรูปรอย
เป็นน้องน้อย...กลอยแก้ว...เป็นแววตา
กอดก้านแก้วไม่เคยคลายให้หายกร้าน
เติมความหวานดับความขื่น...ชื่นเสน่หา
รสเมรัยสีกุหลาบ...ซาบอุรา
พักสายตาพักใจ...ไว้นะเธอ
แก้วเจ้าหวิววูบไหวให้รับรู้
บอกแก้วอยู่ด้วยบางคำย้ำเสมอ
บางเวลาอาจไม่ได้พบเจอ
แต่ละเมอคราใด...ไม่เคยลืม
10 มิถุนายน 2549 20:19 น.
มารแมงมุม
พระบารมีคุ้มเกล้าเหล่าไพร่ฟ้า
รวมศรัทธาทั่วถิ่นแผ่นดินสยาม
ธ. เป็นศักดิ์เป็นศรี...บุรีงาม
ทั้งโลกสามฤาจะเท่าเจ้าฟ้าไทย
ยามสีเหลืองเรืองลออแตกหน่อก้าน
ไทยจะสานสามัคคีที่ยิ่งใหญ่
รักกันไว้ถ้วนทั่วทุกตัวใคร
จะเป็น ไท ยืนยงคงกระพัน
พ่อของเราสอนไทยให้รู้ซึ้ง
ควรคำนึงถึงทางที่สร้างสรรค์
คำรักชาติพูดไปอย่างไรกัน
ต้องตั้งมั่นมากกว่าปากรักชาติเรา
เห็นภาพพ่อเต็มตาสง่างาม
ประดับความชมชื่นรื่นเสลา
เป็นพ่อเจ้าอยู่หัว...ชั่วนานเนา
รับใส่เกล้าทูลพระองค์ทรงพระเจริญ
กราบพระบาทมาด้วย "ไทย" ที่มี "พ่อ" คุ้มหัวให้อยู่ร่มเย็น
เป็นสุข ด้วยซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น