26 สิงหาคม 2546 23:40 น.
มารแมงมุม
เพลงขลุ่ยผิวปลิวลมผสมผสาน
ถ้อยคำหวานลาวดวงเดือน..เจ้าเพื่อนขวัญ
ดึกแล้วหนาวน้ำค้างพรมลมรำพัน
จะลากัน.ก็ยังหวงห่วงอาทร
ดื่มน้ำค้างจิบดาราที่ดาดาษ
จันทร์เสี้ยวสาดแสงเย็น..เป็นเพื่อนอ้อน
ฟังบรรเลงเห่กล่อมก่อนยอมนอน
ฟูกและหมอนรอแนบลงแอบอิง
เป็นค่ำคืนแสนหวานซาบซ่านนัก
และคงจักฝังใจไปนานยิ่ง
เมื่อยามได้มีหลักที่พักพิง
ยามมีมิ่งขวัญ..เจ้า..เฝ้าดวงใจ
ณ เรือนชานบ้านชายน้ำค่ำคืนนี้
ณ ราตรีข้างแรม..แต่แจ่มใส
ณ ที่ซึ่งเราสองก่อกองไฟ
สานสายใยเกิดก่อต่อไมตรี
จุมพิตเบานุ่มลึกระลึกถวิล
ก่อนจะผิน..จำพรากจากที่นี่
รอจันทร์ฉาย..มาเยือนเตือนอีกที
รอคนดีผิวขลุ่ยเพียงเสียงหัวใจ
15 สิงหาคม 2546 16:15 น.
มารแมงมุม
เคยสัญญากับคนไกลไว้นานแล้ว
ว่าเจ้าแก้วมิกลับกลายหายไปไหน
ยังเป็นแก้วกุดั่นเจ้าขวัญใจ
ยังอยู่ในคำสัญญาไม่ลาเลือน
แต่คนไกลใจยังอยู่คู่ตัวไหม
อยู่แดนไกลสุดตาฟ้าไม่เหมือน
ในรอยทางรอยข่าวยังเฝ้าเตือน
ความเป็นเพื่อนมีแค่ไหน..อย่างไรกัน
รักษาตัวอย่าให้ไข้ถามหา
การศึกษาพากเพียร..เรียนนะขวัญ
อาจจะเหนื่อยอีกมากมายไปหลายวัน
ปลายทางนั้นปริญญาคอยท่าเธอ
ท่องใส่ใจอนาคตงดงามนัก
อีกความรักยังงามหรูอยู่เสมอ
อาจไม่เหมือนวันแรกพบได้สบเจอ
แปลกไหมเออยิ่งไกล..ใจยิ่งจาร
จดจำจากวันนี้ไปในวันพรุ่ง
รอฟ้ารุ่งราตรีใหม่ในสถาน
จะนานเนิ่นกี่ราตรีทิวาวาร
ก็ยังซ่าน..ยังสม..ภิรมยา
ยังเป็นแก้วเป็นขวัญเหมือนวันก่อน
ฝากคำอ้อนมาอีกหนให้ค้นหา
ไม่ได้หวังสิ่งใดในพสุธา
ปรารถนาแค่รอรับวันกลับคืน
ขอที่ว่างในซอกใจไม่มากนัก
ให้ตระหนักคนทางนี้มิเป็นอื่น
อีกกี่คน..กี่ใคร ไม่ยั่งยืน
ทั้งหลับตื่นโปรดจงรู้..อยู่เพื่อใคร
9 สิงหาคม 2546 10:32 น.
มารแมงมุม
เธอจากไปในวันอันขมขื่น
ในคืนรุ่มร้อนนอนไม่หลับ
ทำท่าจะไปแล้วไปลับ
ไม่กลับหันหลังคืนรังน้อย
ดวงตาแห้งผากปากเปล่า
กินข้าวไม่ลง..ปลง..เศร้าสร้อย
ทิ้งไว้เพียงรูปเพียงรอย
ไร้ถ้อย...ไร้น้ำตาล้าหัวใจ
มันเจ็บ..มันเหงา..เศร้าสำนึก
บาดลึกบางหนทนไม่ได้
จะทิ้งร่างนอนลงตรงที่ใด
ก็หวนไห้คะนึงหาห่วงอาทร
แด่เจ้าแก้วผู้จากไกล
ฉันคงไหม้ด้วยความเหงาเฝ้าหลอกหลอน
จะทิ้งเรือนรวงรังออกสัญจร
และไม่ย้อนคืนความหลัง..ที่ฝังใจ
31 กรกฎาคม 2546 23:47 น.
มารแมงมุม
เจ้าพระยาไหลล่องท่องจากเหนือ
แม่ปิงเจือกระแสธารผ่านมาถึง
พร้อมน้ำเสียงจ๊อยซอสะล้อซึง
ความคำนึงย้อนหลังยังวันวาน
ความเป็นเพื่อนคือประเดิมจุดเริ่มต้น
ขยายผลด้วยนิยามความอ่อนหวาน
วันที่รักถักทอไม่รอนาน
คำ แต่งงาน ก็ตามมาในอารมณ์
แต่เรามีข้อแตกต่างที่ห่างนัก
เหมือนมาหักล้างสัญญาพาขื่นขม
คิดทบทวนไร้สุขทุกข์ระทม
ชีวิตตรมจำลาไกลใจอาวรณ์
ทิ้งแม่ปิงลงใต้ใจวับหวิว
รักก็ปลิวเจ็บที่ใจใครจะถอน
จากทั้งรักดีกว่าชังยังอาทร
ยอมร้าวรอนแต่วันนี้..ยังมีทาง
แต่อยากถามรอยแค้นใดในใจพี่
มาอยู่นี่ ..ใช่รวนเรคิดเหห่าง
รักยังอยู่ประดับใจไม่จืดจาง
ใจนุชนางยังเหมือนเดิมที่เริ่มมา
อันความรักยังหนักแน่นแม้นขุนเขา
ใจยังเฝ้าถามทวงความห่วงหา
ฝากความรักย้อนสายธารผ่านเวลา
เจ้าพระยาคืนย้อนอ้อนแม่ปิง
รู้ทั้งรู้กระแสน้ำไม่คืนกลับ
ล่องแล้วลับกลับไม่ได้ไม่หยุดนิ่ง
คนจากมาก็ยังไร้ใครพักพิง
เพราะใจ ทิ้ง ให้พี่ยา.มาแต่ตัว!
29 กรกฎาคม 2546 10:07 น.
มารแมงมุม
ฉันเคยเป็นเด็กสาวยุคก้าวหน้า
แสวงหาหนทางสร้างความหมาย
เดือนตุลา..แห่งศรัทธาที่ท้าทาย
ยังมากมายในนิยามความทรงจำ
ก้าวเดินทางมาเรื่อยเรื่อยมีเหนื่อยบ้าง
สร้างหนทางไม่หวั่นไหวไม่ถลำ
มีปัญญามีสติ..คอยชี้นำ
เช้ายันค่ำ วันและคืน..หลับตื่นไป
เหมือนตายแล้วเกิดใหม่ได้หลายหน
บ่มรส คนให้คมเข้มเต็มสมัย
มาถึงวันเป็นหญิงแก่แต่มีไฟ
มองข้างในเห็นผู้คนสับสนกัน
ไม่เข้าใจความเหงาที่เศร้าสร้อย
เจ้าเด็กน้อยปรารถนาไขว่คว้าฝัน
สังคมเมืองเรืองโรจน์โชติอนันต์
วัตถุพลันเดินหน้าท้าถือครอง
เพราะผีป่ามาสู่เมืองเรื่องจึงยุ่ง
เพราะเฟื่องฟุ้งเกินกำลังพลั้งบกพร่อง
เพราะบูชาเงินเป็นเจ้าเข้าจับจอง
เพราะเนื้อทองไม่แท้..ง่ายแปรปรวน
ฉันเคยตอบเด็กหนุ่มสาวคราวเงียบเหงา
ให้อยู่เหย้าเนาเคหาอย่ากำสรวล
หลับแก้เหงาอย่าให้มารพาลเชิญชวน
โลกจะครวญท้าทายอย่าอายมัน
อย่าโคจรในสถานอันเปล่าเปลี่ยว
จงเฉลียวยั้งคิดจิตตั้งมั่น
ใครจะว่า ตกสมัยไม่สำคัญ
ให้รางวัลชีวิตบ้างสร้างความดี
.
ทุกวันนี้สาวแก่ได้แต่กลุ้ม
มองสาวหนุ่มหลงทางหว่างวิถี
พอสุดท้ายใส่กระทงลงนที
เป็นซากพลี..สังเวยเหล่าเต่าปูปลา