11 กันยายน 2551 11:03 น.
มาดามมด
เราคิดว่า ทักคนเกิดมา ต่างก็ไขว่คว้าหาประโยชน์ใส่ตัวให้ได้มากที่สุด เริ่มต้นของการมีชีวิตรอดและเติบโต เพื่อจะก้าวเข้าสู่วัยที่สูงขึ้น ก็ต้องเอาอาหารเข้าปากเราเองก่อน จริงไหม หลังจากนั้น ต่างคนก็ต่างขวนขวาย หาความรู้ใส่ตัวเอง ให้ได้มากที่สุด ทั้งในห้องเรียน และนอกห้องเรียน ไม่มีใครไม่อยากเก่งกว่าคนอื่นหรอก ลองนึกดูดี ๆ ว่าส่วนลึก ๆ แล้ว ก็ต้องมีสักเรื่อง ที่เธอคิดว่าเธอเก่งกว่าคนอื่น เช่น กินเก่ง หรือว่า ขับรถเก่งกว่าคนอื่น อะไรประมาณนี้ จริงไหม ต่อมา ก็ แข่งกัน ว่าใครจะเอาตัวรอด และสร้างเนื้อสร้างตัวได้ไกลและดีกว่ากัน แข่งขันกันทุกอย่าง แต่บางคนอาจไม่รู้ตัว ว่าตัวเองกำลังแข่งอยู่
ทุกอย่าง ล้วนเป็นการใช้ทรัพยากรที่มีบนโลกใบนี้ ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นด้านไหน บางคนก็เข้าข้างตัวเอง ว่านั่นของ ๆ ฉัน ฉันจะใช้ยังไง ก็ได้ แต่เธอลืมไปหรือเปล่า ว่าของเหล่านั้น แลกมาด้วยอะไร แล้วสิ่งที่เอาไปแลก เริ่มต้นมาจากไหน จากทรัพยากรบนโลกใบนี้หรือเปล่า จากพ่อแม่ พี่น้อง เพื่อน คนใกล้ชิด จากสังคม ที่เราเติบโตมา ใช่หรือไม่
แล้วเธอตอบแทน โลกใบนี้ และพวกเขาเหล่านั้นที่ หล่อหลอมให้เธอเป็นอย่างที่เธอเป็นเช่นทุกวันนี้ บ้างแล้วหรือยัง หรือว่ายังไม่ได้คิดอะไรเลย จะเริ่มเมื่อไหร่.............ดีล่ะ
ปล. สำหรับวัยรุ่น ที่ประสบการณ์ด้านความคิดยังน้อยอยู่ อยากฝากไว้ 2 เรื่องนะ
1. บุญคุณต้องทนแทน การที่เธอจะทนแทนบุญคุณนั้นกับใคร ต้องดูด้วยนะ ว่าการตอบแทนนั้น ทำให้ใครเดือนร้อนหรือไม่ (รวมทั้งตัวเองด้วยนะ) ทำลายอะไรไปบ้างหรือเปล่า ถ้าเป็นอย่างนั้น คงไม่ดีแน่
2. สำหรับผู้หญิง ถ้าการที่ต้องใช้ร่างกาย ตอบแทน เพื่อคนที่เธอคิดว่าเธอรัก ที่สุดแล้วในชั่วขณะเวลานี้
อยากให้ ลองคิดว่า เวลาที่เธออยากซื้ออะไรที่ถูกใจเธอมาก ๆ แล้วเธอมีเงินมากพอที่จะซื้อมันได้ทันที เธอจะใช้เวลาอยู่กับมันนานแค่ไหน ก่อนที่เธอจะเบื่อมัน (เราคิดว่าคงไม่นาน) เที่ยบกับของที่เธออยากได้มาก ๆ แลละหมายตาเอาไว้ว่าจะต้องได้ แล้วเธอต้องอดทน เก็บเงินเพื่อให้ได้มันมา เมื่อเธอได้มันมาแล้ว เธอก็จะเอาไปอวดกับคนอื่นว่าเธอได้พยายามด้วยตัวเอง เพื่อให้ได้มันมา เธอจะถนอมมัน เก็บมันไว้ รักษาและดูแลมันอย่างดี เพราะว่ากว่าจะได้มาครอบครองมันยาก
สำหรับผู้ชายของเธอ เขาก็คิดไม่ต่างกันกับเวลาที่เธออยากได้ของสิ่งนั้นหรอก ทีนี้มันก็ขึ้นอยู่กับเธอแล้วว่า เธออยากเป็นแค่ของเล่นชั่วคราว หรือว่าอยากเป็นของมีค่าที่สุดของเขา เพื่อเขาจะได้ถนุถนอม ดูแลรักษาเป็นอย่างดีตลอดชีวิต
สุดท้าย คนเราทุกคนก็ย่อมอยากได้รับการปฏิบัติที่ดีจากผู้อื่น แต่ก่อนที่เราจะเรียกร้องสิ่งนั้น เราควรทำตัวเองให้ปฏิบัติดีกับผู้อื่นก่อนดีกว่าไหม แต่ก็ต้องระวังตัวด้วยนะ นานาจิตตัง คนเราไม่ได้เป็นมิตรหมดทุกคน บางทีความหวังดีอาจฆ่าเธอได้ด้วย ใช้วิจารณญาณเอาเอง
12 ตุลาคม 2550 13:10 น.
มาดามมด
.....ที่มาของกำลังใจของเรา ที่แรก ก็ไม่ได้อยู่ไกลเท่าไรนัก เวลาใดที่ฉันรู้สึก เหงา เศร้า ผิดหวัง ถูกเอาเปรียบ ถูกหักหลัง หรือถูกทำให้รู้สึกไปในทางแย่ ๆ เราก็จะคิดถึง พ่อแม่ ของเราเอง เอาความรักของท่าน ที่มีต่อเรา มาตั้งแต่เริ่มก่อตัวในท้อง เฝ้าถนอมเรามาตลอด เอามาเสริมกำลัง ให้เราอยู่ได้ต่อไป ลองรำลึกดูซิ ค่อย ๆ คิดถึงสิ่งที่ท่านทำ แล้วเราจะอุ่น อย่างบอกไม่ถูก
.....แหล่งที่มาของกำลังใจ แหล่งที่ 2 ก็คือ พ่อหลวงของพวกเรานี่แหละ เราระลึกถึงว่า ท่านทรงงานหนักแค่ไหน และบทบาทหน้าที่ของท่าน มากมายเพียงไร ท่านก็ไม่เคยแสดงความอ่อนแอให้พวกเราเห็น แถมยังได้กำลังใจในการทำความดี ให้พวกเราได้ยึดเป็นแนวทางและแบบอย่าง เวลาใดที่เรานึกถึงความทุกข์ของเรา ซึ่งเป็นทุกข์ของเราคนเดียว แต่สำหรับพ่อหลวงนั้น แบกเอาความทุกข์ของประชาชนของพระองค์ไว้ทั้งประเทศ เพียงนึกถึงแค่นี้ เราก็คิดได้ว่า เดี๋ยวปัญหามันก็ผ่านไป แต่ก็จำวิธีแก้ไขเอาไว้ เผื่อเจอความหน้าจะได้ เอามาประยุกต์ใช้ได้
และเมื่อคืนนี้เอง ที่เรานอนไม่หลับ เพราะมีเรื่องเครียด ๆ ให้ครุ่นคิดในหัวมากมาย จะข่มตาให้หลับไม่ได้ แต่แล้ว ก็นึกถึง แหล่งที่มาของกำลังใจ ที่เราบอกให้เธอฟัง เราก็หลับสนิท จนตื่นสาย(ตื่นสาย อิๆ อันนี้ไม่ดี อย่าเอาอย่าง) ตื่นขึ้นมาด้วยความสุข หุงข้าว อุ่นกับข้าว ทานข้าวเช้า(ไม่เคยทานตอนเช้า) แล้วก็มีกำลังกายที่จะทำอะไรได้อีกหลายอย่าง มันมหัศจรรย์จริงๆ
ของแบบนี้ ทดลองปฎิบัติเองได้ ไม่เสียหายอะไร จะได้รู้ว่าจริงหรือเปล่า
24 พฤษภาคม 2550 16:36 น.
มาดามมด
บางครั้งกลับค้นพบว่า ไม่อยากเจอผู้คนมากเท่าไรนั้น ชอบอยู่เงียบ ๆ คนเดียว ฟังเพลงเศร้า ๆ แล้วนั่งคิดถึงชีวิตตัวเองที่ผ่านมา ไม่อยากพูดคุยกับใครทั้งนั้น บางครั้งก็อยากนอนหลับ หลับไปแบบไม่มีวันตื่น รู้สึกเหนื่อย ล้า มาก ๆ อยากพักเสียที
14 พฤษภาคม 2550 11:27 น.
มาดามมด
ตั้งแต่เกิดมา รู้สึกเหมือน ไม่ค่อยได้ทำอะไรตามใจตัวเองเท่าไรนัก มีแต่ทำตามใจคนอื่น ๆ เสมอ แม้ว่า การทำแบบนั้น มันจะทำให้เราไม่มีความสุข หรือทำให้เรา สูญเสียความสุขไปตลอดเลยก็มี
สิ่งที่ติดตัวเราอยู่เสมอ คือ ความไม่สมหวังในสิ่งที่หวัง อันที่จริง แล้ว ก็ไม่เคยสมหวังเลย
สมัยเรียน ก็อยากมีทุกอย่างที่เป็นอุปกรณ์การเรียน เหมือนเพื่อน ๆ อยากเรียนโดยที่ไม่ต้องกังวลว่า จะเอาเงินที่ไหนจ่ายค่าเทอม แต่มันก็ไม่เคยเป็นอย่างหวังเลย จนกระทั่ง จบ ป.ตรี แต่ก็เรียนจบมาได้ เกือบไม่รอด เพราะต้องทำงานด้วยเรียนด้วย การเรียนก็ไม่ดี เท่าที่ใจอยากทำ ถ้ามีโอกาส ก็อยากเรียน ป.โท แล้วทำให้ดีกว่า ตอน ป.ตรี
เรื่อง ความรัก อันนี้สำคัญ ลองคบมาก็หลายคน แต่ก็ยังรู้สึกลึก ๆ ว่า เวลาของเราแต่เค้า จะไม่นาน ก็ต้องล้างลากันไป มีความรู้สึกว่า ประคับประคองมันสักแค่ไหน
เคยอ่าน เกี่ยวกับดวงชะตา ว่า จะไม่มีคู่ครอง ก็กลัว เพราะไม่ชอบการอยู่คนเดียว แต่ดูเหมือนว่า สถานะการณ์ต่าง ๆ จะบังคับ ให้เราอยู่คนเดียวเสมอ ไม่เข้าใจ ทำไมโชคชะตากลั่นแกล้ง ให้เราไม่สมหวังเสมอ อยากให้ต่อไปนี้ มีแต่สุขสมหวังเกิดขึ้นในชีวิตเรา หรือว่าเราต้องทำยังไง จึงได้มันมา
ไม่อยากเป็นแบบนี้อีกแล้ว จะทำยังไงดีนะ ???????????
8 พฤษภาคม 2550 14:26 น.
มาดามมด
.....เวลาว่าง ก็พยายามหาอะไรทำ หรือพยายามอยู่กับคนอื่น ไม่อยากอยู่กับความเงียบ ความมืด
.....คนอื่นอื่น ๆ จะเป็นเหมือนเราหรือเปล่า มันรู้สึกแบบนี้ลึก แม้ว่าเราจะพยายามปกปิดยังไง ไม่นานมันก็จะออกมาเหมือนเดิม
.....อยากรู้ว่าตัวเองเป็นอะไร ทำยังไงจะหาย จากความรู้สึกแบบนี้
.....หากใครแวะมา ก็ขอคำแนะนำบ้างนะ