25 ตุลาคม 2548 10:37 น.

บันทึกสีน้ำเงิน ตอน 2

มัสยา

เวลาผ่านไป ความรู้สึกที่ฉันมีให้เขามันก็มากขึ้นเรื่อยๆ มากซะจนฉันเก็บมันไว้ไม่อยู่ ฉันมักจะมีอาการแปลกๆ เวลาอยู่ใกล้ๆ เขา บางครั้งก็ถึงกับทำตัวไม่ถูก เอ๋อไปซะงั้น.... 
                 แต่แล้วงานเลี้ยงก็มีวันเลิกรา เมื่อวันสุดท้ายของการจัดค่ายมาถึง นั่นหมายถึงฉันและเขาอาจจะไม่มีโอกาสเจอกันอีก หัวใจของฉันมันห่อเหี่ยวซะเหลือเกิน คืนนี้พี่ๆ เขาจัดงานเลี้ยงอำลาให้พวกเรา เพื่อเป็นการตอบแทนที่เข้ามาช่วยเหลือชุมชน ฉันอยากหยุดเวลาไว้แค่คืนนี้ อยากให้เขาอยู่ใกล้ๆ ฉันแบบนี้ทุกๆ วัน แต่จะทำไงได้ เมื่อเวลามันก็ทำตามหน้าที่ของมัน ชีวิตของเราก็ต้องเดินไปตามเวลา ไม่มีใครหยุดยั้งและกำหนดมันได้  ในเมื่อคืนนี้เป็นคืนสุดท้าย เหตุไฉนเลยฉันจะมามัวนั่งเศร้า สู้เก็บความรู้สึกดีดีเอาไว้ให้มากที่สุด แล้วพรุ่งนี้ฉันจะเลิกคิดถึงเขา 
                พวกเราสนุกสนานกันมาก และเขาก็เช่นเดียวกัน ฉันแอบมองเขาตลอดเวลาอยากเก็บภาพความทรงจำเหล่านี้เอาไว้ ย้อนไปเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ถ้าฉันไม่ไปกับเขา ฉันคงไม่รู้สึกมากขนาดนี้ ฉันจำเหตุการณ์นั้นได้ดีและไม่มีวันลืม มันเป็นความรู้สึกที่แสนอบอุ่นสำหรับผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่โหยหาสิ่งเหล่านี้มาแสนนาน น้ำเสียงที่แสนอ่อนโยนของเขา 
                "ไม่สบายแบบนี้ ออกสำรวจพื้นที่ไหวเหรอ"  เขาเอื้อมมือมาลูบหัวของฉันเบา 
                "ไหวสิ แป้งแข็งแรงออกไม่ต้องห่วง" ฉันยกแขนขึ้นและเบ่งกล้ามให้เขาดู เขาส่ายหัว แล้วหัวเราะเบาๆ 
อากาศวันนี้ร้อนมาก เหงื่อฉันเริ่มไหล หน้าซีด "ทำไมวันนี้โลกมันหมุนแปลกๆ" ฉันคิดในใจแล้วพยายามก้าวเดินต่อไป ก้าวที่ 1 ก้าวที่ 2 และก้าว ไม่ไหวแล้ว ฉันล้มตัวลง รู้สึกเเหมือนมีคนมาคว้าและโอบตัวฉันเอาไว้ 
                ฉันลืมตามาอีกครั้งเขาก็อยู่ข้างๆ ฉัน ลูบหัวฉันเบาๆ แล้วบอกว่า 
               "ไงล่ะ คนเก่ง ไหนบอกแข็งแรง เกือบลงไปนอนเป็นเพื่อนถนนลูกรังแล้วมั๊ยล่ะ ดีนะคว้าไว้ทัน" 
ฉันเบะปาก ทำค้อนเขา แต่ก็แอบยิ้ม ฉันหันมามองหน้าเขาพลางบอกว่า......."ขอบคุณนะ" 
              "ไม่เป็นไร เพื่อนกันทิ้งกันได้ไง" เขาพูดและยื่นยาดมให้ฉัน 
เมื่อเขาพูดจบประโยค สีหน้าของฉันเริ่มเปลี่ยนไป จนเขาเห็นได้ชัดและถามว่าเป็นอะไรไป   ซึ่งฉันก็ตอบว่า "ไม่เป็นไร แค่เหนื่อย และปวดหัว" 
             "ไม่เป็นไร เพื่อนกันทิ้งกันได้ไง"  ประโยคนี้ยังคงกู่ก้องอยู่ในใจฉันเสมอ ............แค่เพื่อน.......แค่เพื่อนงั้นเหรอ..........เฮ้อ...ฉันถอนหายใจเบาๆ เขาคงไม่ได้คิดอะไรมากมายกับผู้หญิงบ้าๆ บอๆ อย่างเราหรอก ฉันคิดในใจ 
 
ช่างมันเถอะลืมๆ เขาไปซะ 
              แต่เปล่าเลย ยิ่งฉันเฉยเมยกับเขาเท่าไหร่ พยายามห่างเขาเท่าไร เขาก็จะพยายาม ทักทาย พูดคุย กับฉันอยู่เสมอ ...... ทำไมนะ ทำไมฉันต้องมาเจอเขาด้วย...มันไม่มีทางมากไปกว่าเพื่อนหรอก 
และคืนนี้ก็เป็นคืนสุดท้ายที่เขาจะอยู่ในความรู้สึกของฉัน ... ฉันจะพยายามลืมเขาซะ 
             งานเลี้ยงยังคงดำเนินต่อไปอย่างสนุกสนาน ส่วนฉันขอปลีกตัวมานั่งเงียบใต้ถุนอาคารเพียงลำพัง 
ความเงียบทำให้ฉันคิดถึงเรื่องราวของเขา แล้วอยู่ๆ น้ำอุ่นๆ ก็เริ่มไหลอาบสองแก้มของฉัน ฉันไม่ได้อยากร้องไห้ 
แต่ทำไมน้ำตามันต้องไหลด้วยนะ ฉันเคยเข้มแข็งกว่านี้นี่นา 
             "แป้ง...ทำไร" เขาทำเสียงดัง ฉันสะดุ้งเฮือก รีบเอามือเช็ดน้ำตาทันที 
             "อ้าว...แป้งร้องไห้ทำไม มีอะไรหรือเปล่า แชมป์แค่แกล้งนิดเดียวตกใจขนาดนี้เลยเหรอ" เสียงของเขา 
ยังคงอ่อนโยนเหมือนทุกครั้ง 
             "เปล่า ก็ดีใจ พรุ่งนี้จะได้กลับบ้านไง"ฉันตอบด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ 
             "จริงเหรอ...แป้งดีใจเหรอ ... แต่แชมป์เสียใจนะ ที่พรุ่งนี้เราจะต้องกลับ แป้งไม่คิดถึงเรื่องราวที่นี่เหรอ" 
             "คิดถึงสิ คิดถึงมากด้วย คงอีกนานกว่าแป้งจะลืมเรื่องราวที่เกิดขึ้นที่นี่ แม้ว่ามันจะเป็นเพียงระยะเวลาสั้นๆ ที่เราได้ร่วมกันทำกิจกรรมต่างๆ ตรงนั้นที่เรากินข้าวด้วยกัน ตรงนั้นที่เราเล่นเปตองด้วยกัน ถ้าเราได้อยู่ต่ออีกก็คงดีเนอะ.." ฉันตอบด้วยเสียงสั่นเครือและน้ำตาที่พยายามอัดอั้นไว้ก็เริ่มไหลจนเขาสังเกตได้ 
             "แป้ง...ยังไงเราก็ต้องได้เจอกันอีก...คิดถึงก็โทรคุยกันก็ได้นี่น่า" เขามองหน้าฉันแล้วค่อยเช็ดน้ำตาให้ฉัน 
รุ่งเช้าพวกเราลาพี่ๆ และจัดเตรียมสัมภาระเพื่อเดินทางกลับขึ้นรถ และนี่คงเป็นวันสุดท้ายที่เราจะเจอกัน เขาเดินมาส่งฉันที่รถ..........."แป้ง...ติดต่อมาบ้างนะ" ฉันไม่ตอบอะไร เพียงแค่ส่งยิ้มให้เขาเท่านั้นเอง 

               เวลาของการร่วมกิจกรรมจบลงแล้ว แต่ความสัมพันธ์ของเราเพิ่งเริ่มต้น				
19 ตุลาคม 2548 15:19 น.

บันทึกสีน้ำเงิน 1

มัสยา

เวลาผ่านมาเกือบปีแล้ว ฉันยังคงคิดถึงเขาเสมอ ทุกวัน ทุกเวลา ทุกวินาที ถ้าฉันย้อนเวลากลับไปได้ฉันจะไม่ให้ความรู้สึกแบบนี้เกิดขึ้นอีก
	ฉันเจอเขาครั้งแรกตอนเข้าค่ายซัมเมอร์ปีที่แล้ว ที่จริงแล้วเราก็แค่เพื่อนร่วมค่ายที่ไม่ได้สนิทสนมกันมากมาย 
	ฝากซักเสื้อหน่อยสิ เขาพูดพร้อมกับยื่นเสื้อให้ฉันหนึ่งตัว ฉันยื่นมือไปรับเสื้อของเขาอย่างงงๆ พลางคิดในใจว่า รู้จักกันตอนไหนเนี่ย ถึงให้เราซักเสื้อให้  ฉันซักเสื่อตัวเองและเสื้อของเขาพลางบ่นให้เพื่อนฟังไปเรื่อยๆ 
	ตกค่ำฉันถึงรู้จักชื่อของเขา จากการแนะนำตัวกันในค่าย เขาชื่อ แชมป์ ฉันจำชื่อของเขาได้แม่นกว่าใคร เพราะเขาทำให้ฉันประทับใจอย่างมาก 
	ทุกวันพวกเราต้องออกสำรวจพื้นที่ สอบถามข้อมูลจากชาวบ้านเพื่อนำข้อมูลเหล่านั้นมาจัดทำเป็นโครงการ ฉันทำงานกับกลุ่มของพี่ๆ ส่วนเขาทำงานอีกกลุ่มหนึ่ง เราเจอกันทุกวันแต่ก็ได้สุงสิงอะไรกันมาก 
ทุกเย็นพวกเราจะเล่นกีฬา และเขาก็เช่นกัน เมื่อเวลาผ่านไป เราเริ่มสนิทสนมกัน หยอกล้อกันมากขึ้น เริ่มจับกลุ่มคุยกันและทำงานกลุ่มเดียวกัน ตอนแรกฉันก็ไม่เข้าใจว่าเขาจะไปกับฉันทำไมทั้งๆที่เขาก็มีงานของเขาอยู่แล้ว
พวกเราเล่นกีฬาด้วยกันทุกเย็น กินข้าว ร้องเพลง เที่ยว และหนึ่งในนั้นก็มีเขา 
	ฉันรู้สึกว่าทุกครั้งที่มีการทำกิจกรรมด้วยกัน มันเหมือนมีสายตาคู่หนึ่งกำลังมองฉันอยู่ ซึ่งเจ้าของสายตาคู่นั้นก็คือ เขา  ฉันพยายามทำเป็นไม่สนใจ พยายามและพยายาม แต่เขาก็ทำให้ความพยายามของฉันล้มเหลวทุกครั้ง
 	แป้ง....กินข้าวกัน
	แป้ง....เล่นเปตองมั๊ย   เดี๋ยวสอนให้ ไม่ยากหรอก สนุกด้วย
	แป้ง...ไปไหนเหรอ  ไปด้วยสิ
เขาพูดแบบนี้กับฉันเป็นประจำ 
ถึงตอนนี้ความรู้สึกที่ฉันมีให้เขามันค่อยๆ เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ 	จนฉันไม่อาจจะหยุดมันได้อีกแล้ว 				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟมัสยา
Lovings  มัสยา เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟมัสยา
Lovings  มัสยา เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟมัสยา
Lovings  มัสยา เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงมัสยา