17 กุมภาพันธ์ 2552 23:01 น.
มัทนา
มีดวงดาวดาษดื่นเป็นหมื่นแสน
มิเหมือนแม้นดาวดวงซึ่งห่วงหา
มิงดงามวามวับงามจับตา
แต่ควรค่าแหนหวงและห่วงใย
หากแต่ดาวมากมายต่างฉายแสง
ส่องแสดงงดงามความสดใส
มิอาจฝันถึงห้วงดาวดวงใด
เพราะฝันไว้ในทรวงห้วงคำนึง
ฟ้าไกลเกินกว่าเอื้อมเงื้อมผืนฟ้า
เพียงละเมอเหม่อหาคราคิดถึง
เฝ้าเพ้อพร่ำคร่ำครวญหวนรำพึง
ดาวดวงหนึ่งซึ่งสุกใสในทุกคราว
เคยส่องแสงระยับจับเวหา
แม้อ่อนล้าโรยไปในคืนหนาว
เมื่อความฝันเรืองรองส่องสกาว
ฉันได้เห็นดวงดาวในวาวตา
3 กุมภาพันธ์ 2552 18:46 น.
มัทนา
ใช้ปากกาเขียนฝันอันงามงด
ทุกหมึกหยดคือหยาดเหงื่อเพื่อสานฝัน
สื่อเรื่องราวเก่าใหม่ได้แบ่งปัน
พร้อมสร้างสรรค์งานงามตามหัวใจ
ถ่ายทอดความปรารถนาอย่างกล้าหาญ
เขียนตำนานแห่งฝันอันยิ่งใหญ่
ทุกอักษรแทนเลือดเนื้อแทนเชื้อไฟ
จุดแรงใจเพื่องานอุ่นละมุนความ
คอยหลั่งรินจินตนาอย่างกล้าแกร่ง
ทุ่มเทแรงฟันฝ่าท้าขวากหนาม
นักกลอนหรือ? คืออะไร? ใครนิยาม?
เขียนไปตามคำเรียกร้องของหัวใจ
หนึ่งความหวังยังตรึงซึ้งสลัก
จะมีคนมารักงานเราไหม?
หรือเป็นเพียงเศษความหวังลงถังไป
จะมีใครเห็นค่า...ภาษากลอน
28 มกราคม 2552 21:58 น.
มัทนา
เฝ้าแอบส่งดอกไม้ฝากไปถึง
พร้อมคำหนึ่งแอบส่งไปให้เสมอ
ฝากทุกห้วงความห่วงใยมอบให้เธอ
ไม่อาจเจอเพื่อพบหรือสบตา
สิ่งที่ฉันนั้นเป็นหรือ? คือทุกอย่าง
เป็นเส้นทางแห่งฝันอันสูงค่า
เป็นกรวดหินดินทรายไร้ราคา
เป็นผืนฟ้ากว้างใหญ่ได้ทอดยาว
เป็นสายฝนผ่อนปรนให้พ้นร้อน
เป็นเปลวไฟโอนอ่อนเพื่อผ่อนหนาว
เป็นดนตรีผ่อนเหงาเล่าเรื่องราว
เป็นแสงดาวคราวเธอชะเง้อมอง
ขอเพียงเธอรับดอกไม้ด้วยใจรัก
โปรดฟูมฟักรักษาไว้อย่าให้หมอง
หนึ่งข้อความ หนึ่งคำ ย้ำให้ตรอง
ฉันเป็นเพียงทำนองของสายลม...
27 มกราคม 2552 15:19 น.
มัทนา
(ม) มีกล่องความทรงจำอันล้ำค่า
(w) ผ่านเวลาฤดูกาลอันสับสน
(น) ตกตะกอนข้างในใจมืดมน
(ม) เก็บความรักร้อนรนล้นดวงใจ
(w) อยากย้อนสู่วันวานอันหวานชื่น
(น) ผ่านวันคืนร่วมฝันอันสดใส
(ม) ภาพความหลังยังเป็นเช่นแสงไฟ
(w) ที่คงยังสว่างไสวในใจเรา
(น) ณ ส่วนลึกที่ใจได้รู้สึก
(ม) คือน้ำค้างกลางดึกในคืนเหงา
(w) เป็นหยดเล็กหยดน้อยค่อยบรรเทา
(น) ในกล่องเก่าแห่งนิยามความทรงจำ
ขอขอบคุณ
(น) นครา
(w) Wish
26 มกราคม 2552 18:43 น.
มัทนา
เพียงแค่มองอยู่ห่างห่างอย่างห่วงห่วง
มิอาจล่วงล้ำเดนเส้นขนาน
ส่งใจจากฟากฝันอันเนิ่นนาน
สู่ขอบฟ้าอีกด้านผ่านแววตา
มิอาจเอื้อมเงื้อมมือเพราะถือศักดิ์
มิอาจรักท่วมท้นทนห่วงหา
มิอาจลวงด้วยกลมนต์มารยา
มิอาจฝืนชะตาแห่งฟ้าดิน
ความผูกพันคั่นนิยามความผูกมัด
มิอาจตัดสัมพันธ์ใจให้ใครหมิ่น
ทนระทมข่มน้ำตาอย่างชาชิน
จะได้ยินคำนั้นบ้างไหมเธอ
จากฟากฝันฝั่งนี้...มีความรัก
คอยทอถักความห่วงใยไปเสนอ
ส่งถ้อยคำรำพันฝันละเมอ
เฝ้าพร่ำเพ้อเพราะฝั่งนั้น...ฝันไม่มี