3 ธันวาคม 2547 14:39 น.
มัทนา
*สองมือนั้นมั่นจำนงบรรจงพับ
หวังไทยกลับเป็นเช่นเดิมแต้มเติมฝัน
นกแห่งธรรมนำสันติชั่วนิรันดร์
ร่วมรวมกันประสานใจไทยทุกคน
หวังเพียงพับเพื่อดับไฟปักษ์ใต้
มิดับไฟแห่งความคิดผิดสับสน
อยากช่วยชาติต้องช่วยชี้ทางปวงชน
ก่อนไทยล้นด้วยวิหค นกจอมปลอม !
22 พฤศจิกายน 2547 12:38 น.
มัทนา
อันภาษาสากลคนทุกหมู่
เราต่างรู้ว่าดนตรีมีความหมาย
สื่อสำเนียงเสียงแว่วหวานซาบซ่านกาย
ด้วยหลากหลายอรรถรสบทดนตรี
อนาคตที่งดงามดังความฝัน
สิ่งเหล่านั้นยิ่งใหญ่ในศักดิ์ศรี
เกลากมลกล่อมฤทัยให้สุนทรีย์
ด้วยดนตรีที่สรรค์สร้างวางทางคน
กิจการงานต่างต่างวางลงก่อน
มาพักผ่อนด้วยดวงใจไร้สับสน
มาปล่อยวางด้วยใจไร้กังวล
ทั่วแห่งหนล้วนเปี่ยมสุขทุกนาที
12 พฤศจิกายน 2547 13:28 น.
มัทนา
ประท้วงรัฐจัดฉากกรรมซ้ำชีวิต
ใครรับผิดใครรับรู้ความเจ็บช้ำ
ขาดอากาศเสมือนขาด..ความเป็นธรรม
ใยมาย้ำย่ำยีศักดิ์ศรีไทย
น้ำตานองหมองแผ่นดินถิ่นสยาม
สร้างสงครามศาสนา...พาสงสัย
ค่าของคนไม่เท่ากันหรืออย่างไร
แสนสงสารตากใบจากใจจริง
8 พฤศจิกายน 2547 13:58 น.
มัทนา
...ด้วยความเป็นนักกลอนจึงอ่อนไหว
จะเรียกว่าหลายใจก็ใช่ที่
จำตรอมใจด้วยตรอมตรมไม่สมประดี
แล้วใจนี้จะหลีกลี้ไปที่ใด
ท่านผู้ที่กำลังอ่านกลอนข้าฯอยู่
โปรดจงรู้รับไว้ด้วยได้ไหม
ว่าความรักของนักกลอนมันร้อนใจ
และมิใช่ว่าเผลอใจกับทุกคน
สารภาพความเป็นไปใจสารภาพ
พิษรักอาบซาบซึมซึ้งจึงสับสน
คนนั้นดี คนนี้รัก หนักกมล
ใจของคนใยจึงอ่อนร้อนในใจ
จะเลือกเขา จะเลือกเธอ จะเพ้อหา
จะรักษาสัตย์ซื่อคือ รักให้
แม้มีบ้างที่ไหวหวั่นพรั่นหทัย
แต่สุดท้ายคนในใจต้องใช่เธอ
29 ตุลาคม 2547 23:34 น.
มัทนา
ใต้ฟ้ากว้าง บนทางไกล ใจดวงหนึ่ง
เฝ้าคำนึงถึงวันวานที่ผ่านผัน
เส้นทางที่เคยเลือกเดินเผชิญมัน
อดีตนั้นดุจรากฐานวางทางเดิน
อนาคตเป็นเช่นไรฉันไม่รู้
ที่เป็นอยู่ก็เคว้งคว้างด้วยห่างเหิน
บทสุดท้ายจบอย่างไรใคร่เผชิญ
คงไม่เกินห้วงหัวใจจะใฝ่ปอง
แม้ทางที่ถูกเลือกจะเกลือกกลั้ว
ดีหรือชั่วตัวเราเฟ้นเค้นสมอง
สุดปลายทาง สุดจุดหมาย สุดครอบครอง
ขอเลือกจองให้ทางธรรมนำทางใจ