15 มิถุนายน 2552 23:06 น.
มัทนา
-๑-
ท่ามกลางความสับสนบนโลกกว้าง
กลับกระจ่างหนึ่งความจริงอันยิ่งใหญ่
อุดมการณ์ที่เหลือดั่งเชื้อไฟ
ยิ่งมอดไหม้เร่งร้อน...ยิ่งอ่อนแรง
ลมหายใจ เข้า-ออก คล้ายบอกว่า
ความอ่อนล้าคือเทียนน้อยคอยหรี่แสง
หากยิ่งโหมลมเร้าเข้าแทรกแซง
เท่ากับแกล้งเทียนให้ลับดับแสงไป
-๒-
ท่ามกลางความสับสนบนทางฝัน
ปากกาเดิมเริ่มสั่นเพราะหวั่นไหว
อุดมการณ์เริ่มลดเพราะหมดไฟ
ขาดแรงใจผลักดันสร้างสรรค์งาน
กี่หัวโขนโยนมา...มิกล้าสวม
เพื่อส่วนรวมจึงจำยอมพร้อมประสาน
กัดฟันสู้รู้อดทนไม่บ่นงาน
ต้องไม่พาลเหวี่ยงใส่ใครทั้งนั้น
เพราะยอมเป็นเสาเอกเฉกเสาหลัก
เมื่อถูกปักตรึงไว้ต้องไม่หวั่น
น้ำหนักบ้านที่มี...จะกี่ชั้น
ต้องมุ่งมั่นแบกรับประคับประคอง
แม้บางคราวทนฝืนยืนแทบล้ม
ความขื่นขมเค้นคนทำหม่นหมอง
จะยิ้มอย่างใจเย็นเน้นไตร่ตรอง
ที่ไม่ร้องไห้ร่ำ-เปลืองน้ำตา
เพราะมีฝัน มีไฟ จึงใฝ่ฝัน
แม้บางวันกล้ำกลืนฝืนเริงร่า
เพื่อสิ่งหนึ่งซึ่งรักและศรัทธา
กี่พายุโหมมา...จะฝ่าไป !
15 พฤษภาคม 2552 08:53 น.
มัทนา
ขังรักเราเอาไว้จำใจขัง
หลอนความหลังฝังใจจำใจหลอน
รอนแรงเจียนขาดใจใจรอนรอน
เงาสะท้อนเหงาสะท้านหลังม่านเงา
ทรมานเพียงใดไม่เคยบ่น
เพียรอดทนเพื่อผ่านม่านความเหงา
เมื่อความรักทำร้ายทำลาย “เรา”
กลายเป็นความโศกเศร้าเคล้าน้ำตา
มัดหัวใจเอาไว้จงใจมัด
หาเชือกรัดหัวใจจนใจหา
มาพบตรวนโซ่ตรึงจึงหยิบมา
พันหัวใจอ่อนล้าสารพัน
จนใจจากจำเจ็บเก็บความรัก
เพื่อผ่อนพักผู้แพ้แก่ความฝัน
รักร้อนแรงรุมเร้าเผาโลกันต์
เคว้งคว้างคล้ายคลุกควัน...ฝันมายา
สายโซ่ตรวนตรึงกระหวัดรัดจนแน่น
มิได้แค้นหรือเค้นจะเข่นฆ่า
ใส่กุญแจลั่นดาลกาลเวลา
ถ่วงทะเลน้ำตา – ตัดอาวรณ์ !
14 พฤษภาคม 2552 16:05 น.
มัทนา
เสียดายวันเวลาประสาหญิง
เสียดายสิ่งดีดีวันที่สาย
เสียดายคนเคยรักพักใจกาย
เสียดายชายคนหนึ่งซึ่งจากไป
หลายคำถามถาโถมโหมกระหน่ำ
เพื่อตอกย้ำ “ฉันไม่ดีพอใช่ไหม?
หรือน้ำพริกถ้วยเก่าไม่เร้าใจ?
เธอจึงมีคนใหม่ในวันนี้ ...”
.............................................
“หรือน้ำพริกถ้วยเก่าไม่เร้าใจ
เธอจึงมีชายใหม่ในวันนี้ ?!?”
23 กุมภาพันธ์ 2552 15:34 น.
มัทนา
ฉันฟังแล้วสหายผู้ไม่แพ้
อดีตนั้นจะแย่สักแค่ไหน
ก็จะปรับประคับประคองไป
เพื่อวันใหม่ที่งดงามตามพอดี
วางความทุกข์เคยทนจนใจเจ็บ
ไยต้องเก็บมาคิดให้ผิดที่
เพียงปล่อยวางความว่างอย่างทุกที
คือวิถีธรรมดาสู่สามัญ
มิอาจปลูกดอกโสกบนโลกนี้
ดวงฤดีคงวิโยคและโศกศัลย์
มิอาจปลูกดอกรักด้วยเช่นกัน
ธารน้ำตาจะรดมันนั้นไม่พอ
ฉันไตร่ตรองแล้วสหายผู้ไม่แพ้
เราเพียงแค่เขียนฝันแล้วสานต่อ
สร้างโลกสวยด้วยรักที่ถักทอ
จะไม่ท้อกับความหลังสักครั้งเลย...
18 กุมภาพันธ์ 2552 02:25 น.
มัทนา
มองฟ้ากว้างจันทร์สว่างกลางเมืองใหญ่
หนึ่งหัวใจก่อร่างสร้างความฝัน
อุปสรรคนานากล้าฝ่าฟัน
คอยมุ่งมั่นผ่านสมองและสองมือ
ความฝันนั้นเพ้อเจ้อและเย่อหยิ่ง
สวนความจริงที่ใครได้ยึดถือ
เกียรติยศใดเล่าเขาเลื่องลือ
เพียงสร้างชื่อเพื่อแสร้งชมอุดมการณ์
คนมากมายตะกายดาวบนราวฝัน
หวังสักวันส่องระยับจับแสงฉาน
หวังโดดเด่นเป็นดาวดั่งตำนาน
ทิ้งวิญญาณวอดวายดาวรายเรียง
โปรดอย่าปั้นฉันเป็นดาวบนราวฝัน
มิอาจสรรค์งานสวยด้วยชื่อเสียง
มิอาจเขียนบางคำทำเลียบเคียง
ขอเป็นเพียงดวงดาวในวาวตา