8 กรกฎาคม 2547 01:22 น.
มะปรางหวาน5
ปากก็บอกว่าคิดถึง
คิดหรือจะซึ้งพอ
เงียบหายไม่ติดต่อ
ก็จะไม่ง้ออีกต่อไป
ฉันเองก็เบื่อ
เหลือทนทำใจ
แวบมาแวบไปไม่จริงใจกับใครสักคน
8 กรกฎาคม 2547 01:11 น.
มะปรางหวาน5
ไม่ต้องมาสนใจใยดี
ไม่ต้องมาใสใจคนทางนี้
แต่ฉันก้รู้ดี
ว่าเธอมีกำลังใจจากใครตามมา
ฉันจึงนั่งเหงา
เมื่อเธอคนดีไม่มาหา
และจะมีแต่น้ำตา
ที่คอยให้เธอกลับมาหากัน
8 กรกฎาคม 2547 01:06 น.
มะปรางหวาน5
เก็บความฝันสีหวาน ๆ
ทักทอสานเป็นเสื้อสีสวย
ไว้สวมใสยามอารมณ์ล้มเจ็บป่วย
หวังพอจะช่วยบรรเทา
ฝันถึงวัยวันอ่อนหวาน
ที่ตระการอยู่ในคืนวันเก่า ๆ
เก็บมาอย่างนุ่มนวลแผ่วเบา
ราวกับกลัวว่าแม้เงาจะหลุดลอย
วัยวันสีขาวมากมายด้วยเรื่องราวงดงามนับร้อย
มีความรักบริสุทแขวนรอคอย
ให้ค่อย ๆ ไปเก็บมา
ไม่ต้องการอะไรมากนัก
เพียงมาพักหัวใจให้หายล้า
สวมสื้อสวยแห่งฝันอีกสักครา
เมื่อหัวใจหายล้าก็จะลาไกล
8 กรกฎาคม 2547 00:56 น.
มะปรางหวาน5
หากเธอเหน็ดเหนื่อยท้แท้
จะเผื่อแผ่กำลังใจ
หากเธอเจ็บปวดร้องไห้
จะคอบซับน้ำตาไว้
และคอยปลอบใจให้กับเธอ
หากความรู้สึกทดแทนกันได้
ฉันจะแบ่งใจไว้เสมอ
เพื่อรองรับความเจ็บปวดมาจากเธอ
ทุกนาทีที่เธอไม่มีใคร
8 กรกฎาคม 2547 00:49 น.
มะปรางหวาน5
เธออาจเป็นแสงดาวที่พราวพร่าง
หรืออาจเป็นน้ำค้างที่พร่างใส
หรืออาจเป็นเมฆขาวที่ยาวไกล
ที่พร้อมจะหวั่นไหวไปกับกาล
เธออาจเป็นสายหมอกระลอกคลื่น
อาจเป็นพื้นเป็นฟ้าเป็นห้วงฝัน
เป็นหินผาธาราหรือไฟควัน
หรืออาจจะป็นแสงจันทร์ยามค่ำคืน
แต่ความจริงเธอเป็นความหนาวเหน็บ
เป็นความเจ็บปวดร้าวเศร้าขมขื่น
เป็นน้ำตาที่มาเยือนทุกค่ำคืน
เป็นคนอื่นที่แสนไกลเกินไขว่คว้า