16 สิงหาคม 2548 18:48 น.
มนต์กวี
สึกมาเฮ็ดหยัง
ร้องแก้ แหกพรรษา...มาถามใจ
คำร้อง/ทำนองหาบ่ทันได้........มงคล สมหวัง(มนต์กวี)
................................................
ต๊กใจหลายหลายเห็๋นอ้ายมายืนหน้าบ้าน
ท่าทางคงทรมานซมซานมาตามถามใจ
หัวกะโหล่นโหล่นเป็นตาหลูโตนเฮ็ดหยังบ่ได้
น้องต้องขอโทษหลายหลายขัดบ่ได้ตามใจอีแม่
ก่อนเข้าพรรษาสัญญาว่ารักคงมั่น
บวชหนึ่งพรรษาเท่านั้นสิมาหมั้นเว้ากันคักแน่
ต้องผิดสัญญาพี่จ๋าเห็นใจน้องแน
ตามใจของพ่อและแม่เห็นหน้าอย่าหลับตาซัง
สึกมาเฮ็ดหยัง โบราณเผิ่นว่าบาปหนา
สึกกลางพรรษาบ่เข้าท่ากุศลหล่นพัง
ลืมน้องสาเด้ออย่าเฮ็ดให่พ่อแม่ผิดหวัง
ความรักสองเราร่วมสร้างเก็บไว้ในใจก็พอ
ขอโทษอีกครั้งพี่จ๋าอย่าแค้นเคืองขุ่น
อย่าได้หมกมุ่นว้าวุ่นนั่งเหงาก่อซอ
น้องหมั้นไปแล้วบ่อยากให้อ้ายคึดต่อ
ตัดใจจากน้องเถิดหนอ...หลวงพ่อรอคืนกลับวัด
9 สิงหาคม 2548 08:17 น.
มนต์กวี
ยามฟุ้งซ่านปานโซ่มาตรึงตรวน
ยามเรรวนเหมือนเชือกมาผูกรัด
ยามย่ำแย่คล้ายมีแส้คอยตวัด
ยามข้องขัดดุจสนด้ายในเรือโคลง
ทุกข์ภายนอกตอกย้ำยามขัดสน
ทุกข์กมลซ้ำเติมจนสุดโต่ง
ทุกข์ในทรัพย์มากมายได้เพราะโกง
ทุกข์จะโล่งโปร่งใจได้เพราะบุญ
สุขภายนอกได้มาแค่ฉาบฉวย
สุขภายในอำนวยช่วยนำหนุน
สุขภายนอกได้มาก็ขาดทุน
สุขภายในไม่สูญย์บุญส่งนำ
ปล่อยวางเถอะความเหงารอยร้าวราน
ปล่อยวางเถอะพันธนาการอย่าตอกย้ำ
ปล่อยวางเถอะโซ่ตรวนที่จองจำ
ปล่อยวางเถอะช้ำและกลุ้ม...ที่สุมใจ
4 สิงหาคม 2548 09:30 น.
มนต์กวี
ด้วยครั้งหนึ่งผมนั้นสัมพันธ์ผูก
เหมือนกล้าปลูกเพาะพันธุ์สู่วันใหม่
ท่ามแวดวงหมอลำจำขึ้นใจ
จนเติบใหญ่เพราะมีพ่อเป็นหมอลำ
สำนักงานพ่อบุญมาเมื่อครานั้น
อยู่ติดกันแม่บุญโฮมช่างดึ่มด่ำ
พอตกเย็นเขาฝึกซ้อมกล่อมลำนำ
ด้วยถ้อยคำหลากรสทุกบทกลอน
สะพานขาวศรีสะเกษเขตสำนัก
คนรู้จักกันมากมายสมัยก่อน
ทั้งลำหมู่ลำเพลินหรือลำกลอน
แสนออนซอนไออดีตยังติดตรึง
มาบัดนี้เปลี่ยนไปหนอโอ้หมอลำ
ธุระกิจครอบงำเงินเป็นที่พึ่ง
เป็นลำซิ่งไปหมดสลดรำพึง
ความซาบซึ้งตรึงตรามาหายไป
ข่าวหมอลำเปิดวิกลำขอข้าว
เป็นเรื่องราวแร้นแค้นแสนหวั่นไหว
ทุนมีน้อยเพื่อปากท้องต้องจำใจ
ให้อยู่ได้เพื่อลูกน้องต้องร้องลำ
หรืออนาคตหมอลำจำสิ้นสูญ
สุดอาดูรคิดในใจให้กลืนกล้ำ
ศิลปะหลากรสเคยจดจำ
มาเพลี่ยงพล้ำไร้รสหมดกลิ่นไอ..ฯ
1 สิงหาคม 2548 10:19 น.
มนต์กวี
กลอนลุงแก้วกับภาพหลังครั้งอดีต
อ่านแล้วคิดติดตามงดงามหนอ
เจ้าพระยาครั้งก่อนเคยลอยคอ
แสงจันทร์ทอทบทาบภาพรำพึง
ไออดีตอบอวนชวนให้ฝัน
นวลแสงจันทร์ส่องใจให้คิดถึง
แม้นวันคืนล่วงลายังตราตรึง
หวนคะนึงเจ้าพระยาครารำลึก
แสงจันทร์เพ็ญเด่นงามยามคืนค่ำ
สายน้ำฉ่ำพรมพร่ำในความรู้สึก
ปล่อยกระทงส่งใจให้หวนนึก
ซ่อนสะอึกเก็บกลั้นวันเวลา
สุนทราภรณ์เพลงแผ่วแว่วดังอยู่
เสียงคุ้นหูคล้ายมนต์เสน่ห์หา
สองฟากฝั่งเรือลอยลำจำคุ้นตา
แม้ผ่านมาหลายปี.....มิมีลืม
แด่....ผู้ชายที่ชื่อแก้วประเสริฐ