26 กุมภาพันธ์ 2548 17:17 น.
มนต์กวี
.อยู่คนเดียวอีกแล้ว
กับกีตาร์ตัวเก่า
รำพันกลอนเหงาเหงา
ฟังดูเศร้าแต่จริงใจ
ยามนี้มีแต่เรา
เฝ้าเมียงมองมิเห็นใคร
ในห้องเก่าเหงาเดียวดาย
กับหัวใจที่ทุกข์ทน
ชีวิตไม่แน่นอน
ดั่งละครแสนสับสน
มีสุขทุกข์เจือปน
หนีไม่พ้นคือความตาย
มาสร้างความดีเถิด
กุศลเกิดไม่เสียหลาย
ยังต้องเดินทางอีกไกล
ในวัฏฏะที่วกวน
26 กุมภาพันธ์ 2548 17:10 น.
มนต์กวี
ถึงเวลากลางวันเขาพักเที่ยง
เราก็เลี่ยงหลีกเข้าห้องคนเดียวหนอ
เขียนกลอนให้ใจเราสุขแค่นั้นพอ
แม้ยามท้อมีกลอนกล่อมช่วยย้อมใจ.
อันความสุขทั้งหลายในโลกหล้า
ล้วนมายาไม่จีรังเสื่อมสลาย
ไร้ตัวตนไม่เที่ยงหมดสิ้นไป
เกิดแล้วตายในวัฏฏะน่าเบื่อจริง
26 กุมภาพันธ์ 2548 09:08 น.
มนต์กวี
คนเราเกิดมาทำไม
อะไรคือคำตอบหนอ
แก่งแย่งไม่รู้จักพอ
ทุกข์ก่อหล่อรวมรัดรุม
เกิดมาหมองหม่นทนทุกข์
ความสุขคล้ายดั่งไฟสุม
ความเหงาคอยเข้าเกาะกุม
ความกลุ้มกัดกร่อนชอนไช
ความสุขแค่เพียงฉาบทา
ความล้ายังคงเคลื่อนไหว
ความทุกข์รุกโรมโถมใจ
ความตาย..เที่ยงแท้..เท่าเทียม
26 กุมภาพันธ์ 2548 09:04 น.
มนต์กวี
คนเราเกิดมาทำไม
อะไรคือคำตอบหนอ
แก่งแย่งไม่รู้จักพอ
ทุกข์ก่อหล่อรวมรัดรุม
เกิดมาหมองหม่นทนทุกข์
ความสุขคล้ายดั่งไฟสุม
ความเหงาคอยเข้าเกาะกุม
ความกลุ้มกัดกร่อนชอนไช
ความสุขแค่เพียงฉาบทา
ความล้ายังคงเคลื่อนไหว
ความทุกข์รุกโรมโถมใจ
ความตาย..เที่ยงแท้..เท่าเทียม
25 กุมภาพันธ์ 2548 17:04 น.
มนต์กวี
ขอทุ่มเทหัวใจให้พระพุทธศาสนา
ด้วยศรัทธาและปัญญาอันกล้าแกร่ง
ตามกำลังที่ทำได้ให้สุดแรง
อย่างเข้มแข็งมั่นคงไม่หลงทาง
จะเผยแพร่ธรรมะเป็นธรรมทาน
เพื่อประสานร้อยใจใครได้บ้าง
หนึ่งในร้อยก็ยังดีมีพลัง
ทุกข์คลายจางสุขใจหนอเพราะร่มธรรม