13 มีนาคม 2551 11:10 น.
มณีจันทร์
มีความจริง ในใจ ไม่กล้าบอก
มันยังตอก ย้ำใจ ให้โหยหา
มองแสงจันทร์ ทอดยาว พราวพร่างตา
ทั่วผืนฟ้า โอบล้อม พร้อมหมู่ดาว
ทุกนาที มีเธอ ให้เพ้อพร่ำ
เก็บทุกคำ กล้ำกลืน ฝืนลมหนาว
กับเวลา คืนนี้ ที่แสนยาว
หัวใจร้าว สั่นไหว ไปตามลม
มีเธอฉัน เท่านั้น ในวันนี้
คืนวันที่ ทุกอย่าง ช่างเหมาะสม
ลมโชยเอื่อย จันทร์นวล แสงชวนชม
ดาวผสม ระยิบระยับ วับแววตา
จึงอยากเปรย เอ่ยอ้อน เป็นกลอนรัก
ให้ประจักษ์ รสถ้อย ร้อยภาษา
เรียงอักษร อ้อนคำ จำนรรจา
อยากให้เธอ รู้ว่า ฉันรักเธอ
11 มีนาคม 2551 22:46 น.
มณีจันทร์
ฉันนั้นมอง ผู้ชาย แค่ทางผ่าน
เป็นสะพาน ข้ามไป ในฝั่งฝัน
ไม่สนใจ ลึกซึ้ง มาผูกพันธ์
คิดคบกัน แค่เล่น เป็นครั้งไป
ใช้วาจา อ่อนหวาน ปานน้ำผึ้ง
พูดซึ้งซึ้ง ทำให้ ใจหวั่นไหว
บีบน้ำตา ออดอ้อน ต้อนดวงใจ
มารยาใช้ ร้อยเล่ เพทุบาย
ไม่ได้มี รักเดียว เกี่ยวข้องไว้
ยังมีใจ เผื่อปลีก อีกมากหลาย
เก็บคะแนน สะสม ต้มผู้ชาย
ที่มากมาย เป็นเหยื่อ เพื่อสะใจ
ใครไม่มี ประโยชน์ ก็ทิ้งขว้าง
แล้วปล่อยวาง ทิ้งไป อย่างผลักไส
ไม่แยแส ไม่มา นั่งสนใจ
โละทิ้งไป ให้พ้น บนหนทาง
ใครงอแง งี่เง่า ไม่เอาไว้
ไม่สนใจ ปล่อยไป รีบสะสาง
ยกร้อยแปด พันเรื่อง เปรื่องมาวาง
เป็นข้ออ้าง เลิกร้าง ต่างทางเดิน
ใครดีหน่อย ค่อยว่า เราไม่พร้อม
แล้วไม่ยอม ลงรอย คอยห่างเหิน
ดีเกินไป แกล้งว่า แล้วพาเมิน
บีบน้ำตา ไม่เขิน แล้วเดินลา
เก็บแต่คน รวยหน่อย ด้อยสมอง
เป็นเครื่องลอง กิเลศ และตัณหา
เครื่องสำอางค์ เสื้อผ้า ขนซื้อมา
ไว้เชิดหน้า เชิดตา หาผู้ชาย
ใครคุยด้วย ดีหน่อย ค่อยเป็นเพื่อน
ทำเสมือน ว่าเรา เจอกันสาย
ดีได้แค่ เพื่อนกัน จนวันตาย
เป็นสหาย แค่นี้ ก็ดีพอ
หากใครมา สุขุม และนุ่มลึก
มาตรองตรึก นึกลง ปลงแล้วหนอ
เป็นได้แค่ พี่ชาย โปรดจงรอ
เดี๋ยวก็ท้อ พ้อไป ไม่นานเนาว์
หากใครว่า เรานี้ ที่เจ้าชู้
โปรดจงรู้ แค่ทำ ตามอย่างเขา
มิใช่เป็น เนื้อแท้ ในตัวเรา
ยกหยิบเอา เปรียบเปรย เอยให้ดู
26 กุมภาพันธ์ 2551 20:29 น.
มณีจันทร์
คืนมืดมิด อีกครา ป่าคอนกรีต
กับอดีต ปวดร้าว แต่หนหลัง
ความทุกข์โถม กระหน่ำ ซ้ำประดัง
ต้องเซซัง ร่อนเร่ มาแรมไกล
ครั้นนึกถึง อดีต ที่อัดอั้น
ความเจ็บอัน ปวดร้าว และหวาดไหว
อยากปิดกั้น แต่ดัน จำขึ้นใจ
สะอื้นไห้ ร่ำร้อง ก้องกังวาน
หนูทำผิดอะไรที่ไหนหรือ
ถึงลงมือลงไม้ไม่สงสาร
มาตีน้องและหนูให้ทรมาน
พ่อแม่วานบอกหน่อยหนูคอยฟัง
เมื่อที่นี่ไม่มี รักโอบอุ้ม
หนูยอมกลุ้มพาน้องหนีเบื้องหลัง
ไปเผชิญเบื้องหน้าเพียงลำพัง
เพื่อความหวังสดใสใครยื่นมา
มองทางใดใจนั้นพรั่นหวาดหวั่น
น้องหนาวสั่น ใจพี่ เจ็บหนักหนา
ไร้อาหารจานเจือเพื่อแก้วตา
ที่พักพาอาศัยก็ไม่มี
เห็นบ้านร้างยิ้มชื่นมื่นในอก
ได้ป้องปกกายนอนให้เหนื่อยหนี
เจ้าถิ่นไล่ไสหัวไม่ปราณี
ซ้ำทุบตีมีช้ำระกำกาย
เลยต้องไปอาศัยใต้สะพาน
หนาวสะท้านก็กอดพรางไม่ห่างหาย
น้องเจ็บไข้ให้ร้าวสั่นเพราะครั่นกาย
แต่พี่ชายกลับปวดร้าวเศร้าทรวงใน
จึงจำยอมทอดกายเพื่อขายตัว
ใช่ใฝ่ชั่วมั่วกามาก็หาไม่
เพื่อรักษาน้องตนทนฝืนใจ
หวังเพียงได้เงินทุนมาจุนเจือ
ครั้นได้เงินเดินหาซื้ออาหาร
เพียงไม่นานมากจนเกินล้นเหลือ
ทั้งหยูกยาเตรียมไปให้เหลือเฟือ
ยังมีเผื่อคราต่อไปหากไม่สบาย
ได้พร้อมยาและอาหารลนลานวิ่ง
แต่พานพบกับสิ่งมิคาดหมาย
อันธพาลรุมยำช้ำปางตาย
เจ็บทั้งกายหายทั้งของนองน้ำตา
แม้แสนเจ็บเพียงใดใจห่วงน้อง
จึงจำต้องแบกหน้าช้ำร่ำมาหา
สงสารน้องต้องเจ็บป่วยด้วยโรคา
ไร้แม้ยาอาหารผ่านท้องเลย
ก้าวเดินต่อ พ้อไป ไม่กี่ก้าว
ความปวดร้าว ถาโถม โหมมิเฉย
ต้องล้มพับ บาดแผล แย่กว่าเคย
นอนร่างเกย สติดับ ลับร้าวราน
ครั้นพอฟื้นคืนสติพี่นึกได้
น้องป่วยไร้ข้าวยาและอาหาร
ใจพี่ร้อนรุมเร้าถึงอาการ
น้องทรมานนอนหนาวร้าวดวงใจ
เดินเรียกร้อง ก้องไป ทั่วทุกที่
แต่มิมีน้องพี่อยู่ที่ไหน
ซมซานกลับ สะพาน ที่ซุกกาย
เพียงหวังได้ เจอน้อง ตามต้องการ
เห็นน้องนอน คุดคู้ อยู่ในนั้น
รีบก้าวพลัน ด้วยใจ เปี่ยมสงสาร
น้องนอนนิ่งใจพี่ยิ่งทรมาน
พี่เรียกขาน อย่างไร ไม่ตอบมา
สายเสียแล้วน้องพี่ทนไม่ไหว
ลมหายใจสิ้นแล้วพี่ถลา
กอดร่างน้องเย็นเฉียบทั้งน้ำตา
ใยน้องลาจากหนีพี่แสนไกล
ร่ำร้องก้อง น้องไม่ คืนหวนกลับ
น้องลาลับใจพี่แหลกสลาย
กอดศพน้อง ร่ำร้อง แทบขาดใจ
เอาพี่ไป ด้วยนะ อย่าทิ้งกัน
ต่อแต่นี้ จะอยู่ได้ อย่างไรเล่า
ดวงในเราแหลกแล้วแก้วตาฉัน
ชีวิตนี้ ที่เหลือ ให้ใครกัน
ก็ในเมื่อมันแตกยับไปกับตา
นี่คือหนึ่ง ชีวิต เด็กเร่รอน
ที่ต้องนอน ระทม ใต้เวหา
คนหยามเหยียด เดียดฉัน พลันตีตรา
ไม่มีค่า ปัญหา ของสังคม
ไออุ่นใด ไหนเล่า เท่าที่บ้าน
ช่วยกันสาน ทอถัก รักสุขสม
ลดปัญหา มากมาย ในสังคม
ใช้รักห่ม ปัญหา พามลาย
21 กุมภาพันธ์ 2551 00:11 น.
มณีจันทร์
ยี่สิบเอ็ด กุมภาฯ เวียนมาครบ
ครั้นบรรจบ อีกครา พาสุขสันต์
เป็นวันเกิด น้องนิด จิตรำพัน
พวกพี่นั้น ร่วมอำนวย ขออวยพร(อาราเล่)
ขอให้น้อง มากมี ทั้งลาภยศ
มิละลด เงินทอง กองสลอน
ไร้โรคา ทุกข์ภัย ได้จากจร
มิ่งสมร น้องพี่ มีสุขใจ(มณีจันทร์)
ให้นักเรียนว่านอนและสอนง่าย
สั่งอะไรได้สมภิรมย์ใส
คิดถึงรักก็ให้รักปักทรวงใน
กับชายใดในฝันมั่นรักนาน (ยาแก้ปวด)
งามละไมใจชื่นระรื่นรส
ที่กำสรดทดท้อขอหลีกผ่าน
ทุกข์โศกใดให้คลาดแคล้วอย่าแผ้วพาน
จิตสราญใสแอร่มดังแจ่มจันทร์(ฝากรักฟากฟ้า)
ให้กระจ่างพร่างพราวงามราวฟ้า
ทุกทิวารื่นจิตอย่าบิดผัน
ประสงค์สิ่งใดใดในชีวัน
ให้จอมขวัญสมถวิลดั่งจินต์จง(อรุณสุข)
รำพันจิตคิดอวยพรด้นกลอนสด
ขอให้ได้ลาภยศดังประสงค์
สวยสดงดงามอย่างยืนยง
ชื่อยังคงคนยังรักตลอดกาล (Darkness Hero)
ให้สมหวัง ดังใจ ในประสงค์
ให้มั่งคง รักแท้ แน่ประสาน
ให้สวยสด เจิดจ้า นานเท่านาน
ให้สุขสันต์ รักมั่น ชั่วนาปี (เรโกะจัง)
สุขสมหวังที่ตั้งดังใจหมาย
โรคมลายกายผ่องมิหมองศรี
ความรักหวานปานตาลหยดรดฤดี
ภายในปีมีงานแต่งไม่แบกคาน (ศรรกรา)
อย่ามัวเพลิน เดินหลง ดงคนโสด
ขอได้โปรด ปลงใจ ได้สนาน
มีคู่ครอง พ้องสุข ในทุกวาร
ระเบิดคาน เสียที ปีนี้เอย (bananaleaf)
14 กุมภาพันธ์ 2551 14:15 น.
มณีจันทร์
อยากขอบคุณ เธอนั้น สักพันครั้ง
ที่เธอยัง คงอยู่ คู่เสมอ
อุปสรรค ต่าง ต่าง ที่พบเจอ
ฉันจะเธอ ร่วมสู้ คู่กันมา
ยิ่งนานวัน ผ่านมา เพิ่มพูนรัก
ผูกสมัคร รักแนบ แน่นหนักหนา
แม้จะผ่าน เนินนาน กาลเวลา
สองอุรา กลมเกลียว เกี่ยวคล้องใจ
ขอบคุณที่ ดูแล ยามป่วยไข้
เช็ดตัวให้ ป้อนยา มิไปไหน
คอยนั่งเฝ้า พัดวี เราร่ำไป
จนสร่างไข้ จึงนอน พักผ่อนคลาย
คอยถามไถ่ ทุกวัน ยันเช้าค่ำ
ทุกทุกคำ ห่วงหา มีความหมาย
กินข้าวแล้ว หรือยัง กลัวไม่สบาย
งานทำไป เหนื่อยนัก ก็พักลง
ยามค่ำคืน หากตื่น จะห่มผ้า
ให้ทุกครา ยามเรา ใหลลืมหลง
แม้บางครา งอแง เธอก็คง
ให้ปล่อยลง ตรงเธอ เพียงลำพัง
แม้บางที เหนื่อยงาน ที่รานเร้า
ก็ปลอบเรา ให้สู้ อย่างมีหวัง
หากเราเหนื่อย และพ้อ ท้อกำลัง
เธอก็ยัง คอยกู้ สู้ต่อไป
หลายปีผ่าน เนิ่นนาน ถึงวันนี้
เธอคนดี ไม่เคย จะเฉไฉ
ยังรักมั่น แต่ฉัน ทั้งดวงใจ
มิเปลี่ยนไป จากเดิม (แต่)เพิ่มทุกวัน
ฉันวันนี้ มอบใจ ให้ทั้งหมด
มิเคยลด ลบเลือน หรือเหหัน
ฉันขอมอบ หัวใจ ให้เธอนั้น
เพื่อใช้มัน ตอบแทน คนแสนดี...(ขอบคุณที่รักฉัน)