30 กันยายน 2547 00:14 น.
มณี ปัทมะ ตารา
ฝ่าพายุคลื่นซัดโหมกระหน่ำ
หนาวเย็นซ้ำต้านฝ่าคงไม่ไหว
รวมแรงลมเสียงคลื่นเซาะส่งภายใน
ตลอดใจตลอดร่างจางเศร้าตรม
ธรรมชาติหาได้สุดตรงขอบฟ้า
ธรรมดาจิตมนุษย์สุดตรงไหน
กี่ล้านคนหยั่งลึกอมฤตใน
หยดสุดท้ายหยดพุทธะสักกี่คน
ธรรมะพุทธหาได้สุดตรงขอบฟ้า
แห่งโลกาที่ตัดขอบเส้นรอบสี
มีมนุษย์ ณ แห่งไหนธรรมะมี
เขียวขจีใบดอกผลหนมรรคา
หากเลือกได้ฉันอยากเป็นเช่นอากาศ
ลอยดาระดาษไร้ขอบเขตแห่งเวหา
ไม่ติดแม้เส้นรอบตัดท้องฟ้า
แห่งโลกาที่ตัดขอบเส้นรอบวง
ขอธรรมะคุ้มครองคุรุผู้ประเสริฐ คุรุผู้เมตตาธรรมทุกท่าน
ขอธรรมะคุ้มครองสรรพสัตว์ทุกชีวิตในโลกมายามนุษย์นี้ด้วยเถิดหนา สวัสดี
มณี ปัทมะ ตารา
29 กันยายน 2547 10:54 น.
มณี ปัทมะ ตารา
เจ้ามังกรฉะอ้อนเลาะเหาะสอดแนม
แม้เดือนแรมแจ่มส่องจ้องคุมหนา
ใครให้เจ้าเฝ้าส่องจ้องจันทรา
รู้ไหมว่าข้านี้ก็มีอาย
หากมัวแอบหลับไหลไม่พินิจ
เจ้าจักพิศจักยลค้นข้าหรือ
เจ้ามังกรเหาะเลี้ยวเที่ยวฝึกปรือ
เพียรเฝ้าสื่อส่งสารสานแสงจันทร์
หนึ่งมังกรหนึ่งเสี้ยวจันทร์พลันกวัดแกว่ง
นำสู่แหล่งแอ่งน้ำอมฤตหนา
หยดรวมธารกระแสหลากจากธารา
เชื่อมศรัทธาคล้องคลึงถึงจิตใน
เจ้ามังกรไม่อ่อนล้านิทราหรือ
ข้าตาปรือหูอื้อมืออ่อนไหว
ข้ารับปากฝากส่งจันทร์ให้ผู้ใด
ข้าขอไปไหว้พระจันทร์ท่านเมตตา
คืนนี้คืนดีศรีพระจันทร์
ขอให้ท่านนอนฝันจรัลฉาย
ขอให้ท่านสุขขีดีใจกาย
ขอให้ท่านผ่อนคลายไร้โรคา
พระจันทร์ยิ้ม + มณี ปัทมะ ตารา
ขอธรรมะคุ้มครองคุรุผู้ประเสริฐ คุรุผู้เมตตาธรรม...พระจันทร์ยิ้ม...คุรุแห่งมณี
25 กันยายน 2547 17:53 น.
มณี ปัทมะ ตารา
แสงจันทร์สาดส่องไร้จุดหมาย
สายลมโชยแผ่วมาแล้วจากไป
ต้นไผ่ยังโอนเอนพริ้วไหวไปมา
เสียงขลุ่ยไผ่ยามนี้มีผู้ใดสดับฟัง
ราตรีเงียบสงัดจิตใจกลับดังก้อง
ยิ่งดังก้องยิ่งไร้ศรัทธาไร้เหตุผล
หนทางช่างไกลแสนไกลเหลือเกิน
ไม่ว่าภายนอกหรือภายใน...ฤา ไร้จุดจบ
...คุรุรักษ์...
จันทร์งามยามสาดรัศมีส่อง
พิศมองตรองไร้หมอกเมฆาหมาย
สว่างทั่วท้องนภาราตรีกาย
คืนนี้ไม่เต็มดวงห่วงชื่นชม
ดุจดั่งแรงดูดดึงพึงชวนพิศ
ซับดวงจิตติดตรึงอยู่มิรู้หาย
มิแปรเปลี่ยนเวียนสลับไม่กลับกลาย
จันทร์ส่งหมายให้รู้ตลอดกาล
ลมโบกโบยโชยชื่นรื่นดวงจิต
กระแสชิดติดแนวแถวสันหลัง
รักษ์อวลเย็นเซนซาบอาบพลัง
กระซิบดังดั่งแนบข้างมิห่างกาย
พัดคราใดใยจับกระแสผ่าน
นานเท่านานปราณคงดำรงหมาย
กระแสคลื่นกลืนเกลียวเดียวมิคลาย
แทรกในกายสลายรูปพลังครอง
ไผ่โอนพริ้วลิ่วพรมลมแรงไหว
ทั้งนอกในไวรับจับกระแส
สัมผัสพื้นยืนรากไผ่ไม่ผันแปร
ยินขลุ่ยแลกระแสใกล้ไกลแต่กาย
...มณี ปัทมะ ตารา...
ขอธรรมะคุ้มครองคุรุผู้ประเสริฐ คุรุผู้เมตตาธรรม...คุรุรักษ์เซน...
25 กันยายน 2547 17:37 น.
มณี ปัทมะ ตารา
สองตาสองจับจ้อง หมายแสง จันทรา
หนึ่งจิตหนึ่งใจจัก นำพา ลอยล่อง
ดาวน้อยดาวใหญ่ล้อม รวมแสง ส่องกาล
ณ แห่งใดในจักรวาล ฤา ณ ใจเรา
หากจุดหมายปลายทางคือความว่างเปล่า ดับสูญ
ขอมีเพียงความรักความเมตตาตลอดการเดินทาง
แสงแห่งจันทร์นี้ก็ยินดีจักสาดส่องทางให้เจ้าตลอดไป...
...รักษ์...
ดวงสุริยะยังคงดำรงแสง
สาดแรงแปลงทุกข์สุขศรี
จันทราพานวลอวลชีวี
รัศมีพลีอาบซาบซึมกาย
โยงใยใสจิตพิศเช้าค่ำ
อวลพลังคงอยู่รู้หมาย
ไร้ละทวิลักษณ์จักกลาย
สู่สายปลายทาง.....สัจจธรรม
...มณี ปัทมะ ตารา
ระยิบระยับสลับพริ้วไหวให้จับจิต
แสงจันทร์พิศสายธารประสานไข
ราตรีกาลคร้านมืดมิดวิจิตรนัย
ดั่งดวงฤทัยใฝ่อิสระธรรม
...รักษ์...
จากแอ่งแก่งลำน้ำเหนือ
ไหลเอื้อเฟื้อแยกแตกสาย
ยอดภูพรูหลั่งฝั่งปลาย
มิสลายสายธารมหานที
สัตผ่อออ...พอได้รู้ในทุกสิ่ง
ด้วยเห็นจริงจากบริสุทธิ์พิสุทธิ์หนา
ทอเตาซีพง...ไร้ขอบเขตแห่งธรรมนา
หลั่งเมตตา กรุณา อมฤตใน
...มณี ปัทมะ ตารา
ขอธรรมะคุ้มครองคุรุผู้ประเสริฐ คุรุผู้เมตตาธรรม...คุรุรักษ์เซน...