17 พฤศจิกายน 2546 21:56 น.
ภูวทาส
ขอเวลาสักนิดให้คิดถึง
เวลาซึ่งมีค่ามหาศาล
ค่อยพรมพร่างสร้างสม อุดมการณ์
เบิกตำนานผู้กล้าฟ้าเมืองไทย
หมายจะกล้าฝ่าทวนทุกมวลคลื่น
หมายจะยืนโดยศรัทธาหาหวั่นไหว
หมายจะแข็ง มิค้อมขาม ตามชาติใด
หมายจะใฝ่ทางทองเพื่อผองชน
เพียงสำนึกรู้สึกดีมีให้ชาติ
เพียงหมายมาดก็เพียงพอเพื่อหมายผล
เพียงตระหนักรู้ค่าหน้าที่ตน
คือเริ่มต้น นิมิตรหมาย อันรายเรือง
เมื่อตามหลังและหวังจะอยู่หน้า
คือเวลาเติบใหญ่ในทุกเรื่อง
เมื่อกระหายเห็นฟ้าอันรองเรือง
ฟ้าย่อมเฟื่อง ดั่งฝัน จงมั่นใจ
16 พฤศจิกายน 2546 10:15 น.
ภูวทาส
ก้าวไปเถิดนักสู้ผู้เปี่ยมฝัน
หนทางนั้นทอดยาวรอก้าวกล้า
ก้าวด้วยหวังด้วยพลังด้วยศรัทธา
แม้ขอบฟ้า..มิขามจักข้ามไป
เพียงหิ่งห้อยส่องระยิบกระพริบแสง
สงัดแห่งดวงจันทร์ยังสั่นไหว
ฝันมนุษย์ดุจสุมด้วยเปลวไฟ
ฤาจักไม่เคลื่อนโลกให้โยกคลอน
เม็ดฝน หล่นได้ ไม่ทั่วฟ้า
แต่ขุนเขาทั่วหล้ายังรู้กร่อน
แรงแห่งเรารู้จังหวะรู้กะตอน
หมายม้วนก้อนจักรวาลฤาทานทน
หากอินทรีร่อนปีกรับกับพายุ
จึงบรรลุความยิ่งใหญ่ในเวหน
อุปสรรคจักนิยามความเป็นคน
ให้เข้มข้น สมคน ได้เต็มคำ
---ราวปี ๒๕๓๗---
15 พฤศจิกายน 2546 20:29 น.
ภูวทาส
ปากกา ทื่อไป ไหวหวั่น
พิมพ์ดีด ไม่ทัน ใจสั่ง
นั่งเทียนเขียนเมฆอีกครั้ง
ยังหวัง..ยังหวัง ยังไหว...
เลิกร้างห่างเหินเนิ่นนาน
วิญญาณไม่รู้อยู่ไหน
ว่างเปล่า ร้าวร้าง ข้างใน
เขียนไป ไม่ได้.. ไม่ดี
ตั้งมั่นวันนี้เอาแน่
กลอนแย่ แต่ใจ ไม่หนี
เข็นไปให้จบเสียที
กวีเก่า เข้าสิง จริงจัง
สุดท้ายท้ายสุดจุดจบ
เข็มพบจากทนฝนทั่ง
กลอนนี้ ไม่ดี ไม่ดัง
ข้าฯยัง ดีใจ ได้เขียน