31 พฤษภาคม 2548 16:09 น.
ภูวดินทร์
มีบ่อยครั้งพลั้งพลาดประมาทไป
คนเราได้ตัดสินสิ้นถูกต้อง
เพียงแค่เห็นเป็นภาพทราบแค่มอง
ความถูกต้องหมดไปให้ผิดจริง
เชื่อในภาพที่เห็นเป็นตัดสิน
ทำให้สิ้นชื่อเสียงเกลี้ยงทุกสิ่ง
เกียรติภูมิสร้างไว้ไม่อาจอิง
เป็นต้องนิ่งเศร้าใจอาลัยตาม
บางเชื่อในสายตาพารายงาน
เมื่ออีกด้านสานปลูกถูกล้นหลาม
เพียงแค่รูปผิดไปใจไหวตาม
ไม่ทวนถามความแท้แลผิดไป
ภาพที่เห็นเป็นดั่งสั่งมายา
พาลวงตาผู้จ้องมองสดใส
"วิจารณญาณ" พาลผิดคิดกันไป
ตัดสินใจสิ่งเห็นเป็นความจริง
ภาพที่เห็นมิใช่อย่างที่เห็น
ภาพดั่งเช่นมายาพาเข้าสิง
ลวงล่อใจให้ผิดจากความจริง
ล้วนเป็นสิ่งลวงล่อให้พอใจ
ผู้อ่อนซ้อมด้อมมองเพียงขณะ
ก็คงจะหุนหันพลัน "วินิจฉัย"
ด่วนตัดสินภาพเห็นเป็นแน่ใจ
ผลสุดท้ายใช่จริงดั่งจริงกัน
มองตานอกบอกรู้สู่ตาใน
วินิจฉัยแยบคายมิหุนหัน
คติภาพพลันแยกแตกจากกัน
มายานั้นปัญญาพาแจ้งใจ
อย่าได้เชื่อสิ่งเห็นเป็นตัดสิน
ทำจนชิน "วิจารณ์" ขานแจ้งใส
ภาพที่เห็นใช่จริงทุกสิ่งไป
ปรัชญาได้อิงธรรมประจำตน.
(^_^) *******~''''''~******(^_^)
"อย่าเชื่อในสิ่งที่เห็น
อย่าเห็นในสิ่งที่เชื่อ"
"อย่าเชื่อในสิ่งที่เห็น
อย่าเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน"
อย่าปักใจในสิ่งที่ได้ยิน
อย่าเชื่อใน..."สิ่งที่ตาเห็น"
ภูวดินทร์
๓๑ พฤษภาคม ๒๕๔๘
30 พฤษภาคม 2548 15:47 น.
ภูวดินทร์
รักหวานซึ้งตรึงใจในเราสอง
มิหม่นหมองต้องแยกแตกจากกัน
รักเริ่มต้นจนถึงบัดนี้นั้น
มิมีวันผันแปรแย่แก่ใจ
ครั้นนานไปมีไรให้ฉงน
เธอเป็นคนตั้งโจทย์โน๊ตส่งให้
เป็นคำถามตามล่ามาสู่ใจ
ชวนสงสัยในเพื่อนเราสามคน
ลองโทรไปใยกลับสายไม่ว่าง
มองเหลียวทางเพื่อนเราเขารุกรน
คุยจ๊ะจ๋าหน้าตาบอกสุขล้น
เสียงเหมือนคนคุ้นเสียงลองเอียงฟัง
ชวนสงสัยอะไรให้เธอเปลี่ยน
ให้ปวดเศียรเวียนเกล้าเล่าหนหลัง
นึกแค้นใจในเพื่อนเต็มประดัง
แต่ก็ยังเพื่อนกันจนวันตาย
ใจหนึ่งรักใจหนึ่งขึ้งความแค้น
ไม่มาดแม้นเพื่อนกันตะบันหมาย
เพียงเพราะรักหนักแน่นเพื่อนร่วมตาย
มาแย่งได้ในรักหักเหลี่ยมกัน
เพื่อนทำกันฉันท์เพื่อนถึงกระนี้
เราแสนดีมีรักควักแบ่งปัน
ไม่ถือโทษโกรธเคืองเรื่องรักนั้น
ยังรักกันมั่นใจในเพื่อนยา
น่าจะบอกหลอกกันนานวันนัก
เพื่อนแย่งรักหักอกชกเข้าหน้า
แอบซ่อนรักของฉันเต็มอัตรา
น่าจะฆ่าให้ตายไปตามกัน
"เอาอย่างนี้เพื่อนชี้ที่ฉันรัก
ถ้านายจักรักหญิงมิ่งของฉัน
ขอร้องอย่าให้เธอซ้ำแล้วกัน
ไม่งั้นฉันเอาตายให้เพื่อนเกลอ."
------------> รักสามเศร้า
29 พฤษภาคม 2548 23:45 น.
ภูวดินทร์
เมื่อเข้านอน...หลอนตน...จนไม่หลับ
ถึงพลิกกลับ...ไปมา...ซ้ายขวานั่น
ทำอย่างไร...ไม่หลับ...สับสนครัน
ทำให้หวั่น...ม่านตา...ปิดไม่ลง
ฟุบหน้าอีก...บนหมอน...ร้อนใจยิ่ง
นึกแต่สิ่ง...ผ่านมา...พาให้หลง
ข่มตาหลับ...พักใหญ่...ใจก็คง
นึกภาพส่ง...กลับมา...ตายังใส
พลิกหงายอีก...ปลีกหนี...ที่ฟุ้งซ่าน
อันรำคาญ...สุดทน...จนเกินไข
เอาหมอนทับ...กับหน้า...ไว้อีกใบ
ก็ยังไม่...ได้ผล...จนระอา
พลิกอยู่นั่น...จวบจน...พ้นยามสอง
จึงมาลอง...ใคร่ควรญ...เฝ้าทวนหา
เพราะเหตุไร...ไม่หลับ...ผลดังว่า
พลิกกายา...ตาโต...โก้หรือไง
จึงมีเหตุ...ทบทวน...ชวนท่านอ่าน
มีอาการ...กังวล...คนเศร้าใจ
ยาเสพติด...คาเฟอีน...กินเข้าไว้
โรคหัวใจ...ความปวด...รวดร้าวกาย
โรคซึมเศร้า...เหงาใจ...จัดในนี้
อีกบุหรี่...ที่ดูด...สูดกลิ่นใส่
นิโครติน...ตัวการ...สารตัวร้าย
มันทำให้...ใจตื่น...ฝืนไม่ลง
ดังกล่าวมา...ครั้นลด...ก็เลิกลา
ไม่นำมา...พาตน...ให้ไหลหลง
บริหาร...ร่างกาย...ได้ดำรง
ทุกคืนคง...หลับพลัน...ฝันถึงเธอ
พยายาม...ลดละ...ผละวิ่งหนี
ไม่คลุกคลี...ตั้งใจ...ไม่ข้องเจอ
หลายคืนนั้น...พลันหลับ...จนละเมอ
ฝันจนเพ้อ...ถึงเธอ...หลับง่ายจัง.
ภูวดินทร์
๒๙ พฤษภาคม ๒๕๔๘
28 พฤษภาคม 2548 23:12 น.
ภูวดินทร์
เป็นนักกลอนมือใหม่ใจคิดสู้
เขียนกลอนดูเอ้อ...! เข้าท่าพาหฤหรร
เซียนอ่านรู้ถามดูใครแต่งกัน
ควายหรือนั่นมันแต่งได้อย่างไร
ใจรักกลอนโดนด่าห้าพันรอบ
คนมันชอบถึงโดนด่าขนาดไหน
ทุรังแต่งด้วยตนทนเรื่อยไป
จิตมันให้ใจรักกลอนถอนไม่ลง
ถึงโดนด่าโดนโขกกะโหลกร้าว
ตีด้วยเข่าฟันด้วยศอกหลอกให้หลง
ยังแต่งเขียนเพียรอ่านกานท์กลอนคง
ยังไม่ปลงใจถดถอยสักน้อยจริง
ความภูมิใจในกลอนตอนแต่งเอง
แต่งเหมาะเหม็งแต่งเองภูมิใจยิ่ง
ดีกว่าโก้โอ้อวดลวดลายลิง
อย่างนี้ยิ่งไม่ภูมิใจไหม้อุรา
แต่งกลอนสดงดเชื่อและเบื่อทวง
คนทั้งปวงจะได้ไม่ร้องหา
เรียกลิขสิทธิ์จดทะเบียนทางปัญญา
มีข้อหาพาตนล้นอัปปรีย์
จึงไม่คิดลอกเลียนและเลียนแบบ
ให้ปวดแสบปวดร้อนนอนคล้ายผี
ให้เขาเย้ยเขาด่าทั่วปฐพี
"ไอ้อัปรีย์ลอกแต่กูรู้ไม่เป็น"
แต่งเองครับภูมิใจได้ขบคิด
แถมทั้งจิตเบิกบานทั้งเยือกเย็น
คิดละเอียดแต่งได้เป็นเหมือนเช่น
น้ำกระเซ็นเย็นฉ่ำดวงฤทัย
แต่งไม่คล้องมองให้เห็นเป็นโคลงฉันท์
ค่อยแต่งกันฝึกฝนตนเองไป
อ่านบทกลอนที่แต่งดีประกอบให้
แต่งเรื่อยไปหากใจรักเป็นนักกลอน.
*_* ++++++++++++++ *_*
ภูวดินทร์
๒๘ พฤษภาคม ๒๕๔๘
27 พฤษภาคม 2548 14:19 น.
ภูวดินทร์
ชายอินเดียผู้หนึ่งซึ่งทำงาน
สองปีผ่านทำงานคนรู้ทั่ว
วางหม้อดินใบใหญ่ใส่บ่าตัว
ที่ไหล่ขั้วข้างละใบใช้ตักน้ำ
หม้อใบหนึ่งซึ่งมีที่ร้อยร้าว
ใบสองเล่าน่าชมสมบูรณ์ล้ำ
บรรจุน้ำจากลำธารเป็นประจำ
ตามถ้อยคำของนายให้ทุกวาร
หม้อใบสวยยิ้มรื่นแช่มชื่นนัก
ดังคิกคักทักทายหม้อร้าวราน
หมดสภาพตราบน้ำจะถึงบ้าน
นายใช้งานน้ำน้อยด้อยเต็มที
หม้อดินร้าวผ่าวใจในตนนัก
รู้สึกหนักซ้ำนักปักอกรี่
ให้น้อยเนื้อต่ำใจในความดี
ไม่เต็มที่รับใช้ให้เจ้านาย
ตัดสินใจเอื้อนเอ่ยกับคนหาบ
ให้รับทราบคราบทุกข์ระทมหมาย
สองปีผ่านงานน้ำให้ละอาย
ให้ท่านได้เพียงครึ่งไม่ถึงเต็ม
คนหาบน้ำชี้ไปให้สังเกต
ได้บอกเหตุดอกไม้ได้อิ่มเอม
บานสะพรั่งข้างที่รั่วให้เกษม
ใจไม่เค็มได้รดน้ำตามข้างทาง
ดอกไม้งามปักแจกันบ้านเจ้านาย
เธอนั้นได้ให้ดอกไม้งามสะพรั่ง
ถ้าขาดเธอเจ้านายคงอ้างว้าง
ฉันจนทางหาดอกไม้ใส่แจกัน
ตัวเราเองมีคุณค่าอยู่เสมอ
ถ้าไปเพ้อเปรียบเทียบกับใครกัน
สิ่งไม่ดีควรแก้ไขแก้ใหม่นั่น
ผลลัพธ์นั้นชัยชนะเป็นของเรา.
ยกมา :"ผลลัพธ์ของการกระทำ
ไม่ใช่คำตอบแห่งชัยชนะของชีวิต"
ยกมา :"จุดมุ่งหมายและความตั้งใจจริงของเราต่างหาก
คือคำตอบที่แท้จริง"
ธรรมนีติ ยกมา :
บุคคลที่ชอบบำเพ็ญประโยชน์เกื้อกูล ๑
มิตรที่ดี ๑
ปราชญ์ ๑
ล้วนเป็นบุคคลที่หาได้ยาก
ทำนอง
เดียวกับยาที่มีรสอร่อย
และคนดีที่ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บ
ย่อมหาได้ยากเช่นกัน
ภูวดินทร์
๒๗ พฤษภาคม ๒๕๔๘