10 พฤษภาคม 2548 17:55 น.
ภูวดินทร์
รอคอย
เมื่อคืนวันผันล่วงถอนหายใจ
จากวันไกลจวบเดือนเคลื่อนเป็นปี
สลับเปลี่ยนหมุนเวียนไปเช่นนี้
ชั่วตาปีมิมีจะหยุดผัน
แม้เวลาหมุนเวียนเปลี่ยนเรื่อยไป
แต่ในใจคงมั่นไม่แปรผัน
ยังรอคอยรักนั้นทุกคืนวัน
ยังรอฝันสองเรามาเจอะเจอ
ใจคนคอยหงอยเหงาเศร้าอยู่นี้
รอวันที่ประสบได้พบเธอ
ใจหวังไว้อย่างยิ่งไม่คอยเก้อ
สักวันเถอะมีวันสมหวังใจ
จะรอคอยอย่างนี้อยู่ที่เก่า
ใจนั้นเล่าเหมือนเดิมไม่แฉไฉ
จะรอคอยตรงนี้อย่างมั่นใจ
รอวันใหม่หวังไว้ได้เจอะเจอ.
ภูวดินทร์
๑๐ พฤษภาคม ๒๕๔๘
10 พฤษภาคม 2548 15:47 น.
ภูวดินทร์
ป่านฉะนี้เธอจะเป็นเช่นไร ?
ป่านฉะนี้เธออยู่ที่แห่งไหน
จะอยู่ใกล้หรือไกลแห่งไหนหนอ
จะสุขบ้างทุกข์บ้างใครพนอ
ใจฉันพ้อท้อใจไม่ฝึกปรือ
ป่านฉะนี้เธอคิดถึงฉันไหม
ในดวงใจเธอนั้นมีฉันหรือ
หรือเปลี่ยนไปใยลืมกระทั่งชื่อ
สมเขาลือจากไกลใจเปลี่ยนทาง
ป่านฉะนี้เธอนั้นยังเหมือนเก่า
หรือใครเข้าเอาใจจนรุ่งสาง
ประคองใกล้แนบชิดติดนวลปราง
กายไม่ห่างมีบ้างหรืออย่างไร
ป่านฉะนี้ยังรักอยู่หรือเปล่า
คนเคยเฝ้าก่อนนั้นเอาใจใส่
คนเคยห่วงเฝ้าหวงดั่งดวงใจ
ถ้าบอกได้โปรดตอบมอบความจริง.
ภูวดินทร์
๑๐ พฤษภาคม ๒๕๔๘
10 พฤษภาคม 2548 14:43 น.
ภูวดินทร์
ลมหายใจแห่งความคิดถึง
แม้อยู่ไกลคนละฟากแห่งฟ้า
สุดสายตามองเห็นไร้ร่องรอย
มีขุนเขาขวางกั้นไกลสุดสอย
ผานับร้อยปิดกั้นให้ห่างกัน
ถึงกระนั้นฟ้านั้นมิอาจขวาง
ถึงผากางขัดขวางปกปิดขัณฑ์
ขุนเขาใหญ่ปกทึบติดต่อกัน
ไม่อาจกั้นคนึงถึงเธอได้
ลมหายใจเข้าออกทุกวันนั้น
เธอสำคัญมากยิ่งกว่าสิ่งไหน
ทุกเข้าออกแห่งลมสูดหายใจ
เธอนั้นไซร้สำคัญต่อฉันจริง
หายใจเข้าเป็นเธอละเมอครวญ
ภาพนึกล้วนเป็นเธอเหนือทุกสิ่ง
หายใจออกบอกเธอว่ารักจริง
ใจประวิงถึงเธอแต่ผู้เดียว
คือลมหายใจแห่งความคิดถึง
จากชายหนึ่งคิดถึงสุดเฉลียว
คิดจนเพ้อถึงเธอเพียงผู้เดียว
ทุกวันเที่ยวพร่ำคำสุดรำพัน.
ภูวดินทร์
๑๐ พฤษภาคม ๒๕๔๘
9 พฤษภาคม 2548 23:41 น.
ภูวดินทร์
เชื่อโบราณบานบุรีจริงหรือ ?
โบราณว่าครั้งใดได้จากเรือน
มีสัตว์เตือนร้องทักจักไปไหน
ร้องอยู่นั่นเข้าออกข้างนอกใน
ร้องหมดใจหวังเตือนคนเรือนนั้น
เชื่อไม่เชื่อมีเหตุอาเพทใด
คราออกไปไม่ถึงกึ่งทางกัน
คนที่ถูกสัตว์ทักสุดจำนรร
รถใหญ่นั้นวิ่งชนจนวายปราณ
กรณีอีกหนึ่งไม่น่าเชื่อ
สัตว์เสียงเครือบอกเหตุก่อนออกบ้าน
ทั้งไม่เชื่อลบหลู่ว่าโบราณ
ต้องซมซานกลับบ้านโดนดักจี้
เชื่อโบราณบานบุรีเท่าที่รู้
บ้างเชื่ออยู่สักนิดจิตสุขี
ผู้ใหญ่วางอุบายไว้แสนดี
ให้ผู้ที่ออกบ้านควรระวัง
ถ้าไม่เชื่อท่านว่าอย่าลบหลู่
คือไม่รู้เรื่องราวก่อนหน้าหลัง
ให้ศึกษาหาเหตุไม่พลาดพลั้ง
พลาดทีหลังเสียดายท่านว่าดี
รวมความว่าทำไรให้สติ
ถึงชำนิก่อนทำให้ถ้วนถี่
คิดก่อนทำลงไปนั่นจักดี
เป็นอย่างนี้ต่อตุ๊กแกร้องแก่ตาย.
เขียนกลอนนี้ขึ้นมาคิดดีแล้วว่าอยากเขียนดูบ้าง
ให้คิดก่อนทำ อย่าทำก่อนคิดนะครับ
ภูวดินทร์
๐๙ พฤษภาคม ๒๕๔๘
9 พฤษภาคม 2548 15:29 น.
ภูวดินทร์
ชีวิตรักสุราเถื่อน
มองดูเดือนเคลื่อนคล้อยลอยเหมือนต่ำ
ตั้งแต่ค่ำจรดเช้านั่งเหงาหงอย
จ้องดูฟ้าเปลี่ยวอุราใจเลื่อนลอย
ต้องเศร้าสร้อยคอยรักว่าจักมี
ตาจ้องฟ้าคว้าขวับจับขวดได้
ดื่มลงไปเพื่อนยากมากดีกรี
เป็นของฝากจากเพื่อนผู้หวังดี
สุรานี้กลั่นเองไม่เกรงใคร
น้ำขาวใสได้เกินสามสิบห้า
ดีกรีกว่าต้มเองกรองให้ใส
สุราเถื่อนเอื้อนเอ่ยเผยจากใจ
ลิ้มลองได้เมามายยากจะลืม
ชีวิตเศร้าเคล้ากลิ่นสิ้นในรัก
สุดจะหักใจลืมรักสุดปลื้ม
รักเคยมีความสุขอย่างดูดดื่ม
จำต้องลืมดื่มสุราว่าเถื่อนกัน
สุราเถื่อนใจคงไม่เถื่อนตาม
วอนนงรามคนดีมีใจมั่น
มาทุบขวดรวดร้าวปลอบใจกัน
ใจของฉันคงทิ้งพลันสุราดี.
จะมีใครที่ไหนมาสนใจเรา
ชีวิตจึงต้องเศร้าเพราะว่าเรา
ผีโรงเย็น
ภูวดินทร์
๐๙ พฤษภาคม ๒๕๔๘